ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/609112
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 เม.ย. 2559 19:40

“เอกชน” แนะรัฐตั้ง กรอ.ใน CLMV นำร่องเวียดนาม แก้อุปสรรค และส่งเสริมการค้า-ลงทุนระหว่างกัน หวังดันมูลค่าค้าขายเพิ่มเป็น 2 หมื่นล้านเหรียญฯในปี 63 จากปัจจุบัน 1.4 หมื่นล้าน พร้อมลุ้นดีล “ทีซีซี” ซื้อหุ้น “บิ๊กซี” ในเวียดนามสำเร็จ ทำไทยมีส่วนแบ่งตลาดธุรกิจค้าปลีกในเวียดนามถึง 60%
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาธุรกิจ ไทย-เวียดนาม และหัวหน้าทีมภาคเอกชนในคณะทำงานประชารัฐด้านการส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนในต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้เสนอให้คณะกรรมการประชารัฐฯจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ใน CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน ประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในต่างประเทศ และสร้างหน่วยงานที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลเชิงลึก ทั้งแนวทาง กระบวนการ รูปแบบและขั้นตอนในการดำเนินการ เพื่อเป็นช่องทางส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในการลงทุนและทำธุรกิจในต่างประเทศ โดยในส่วนภาครัฐ จะเสนอให้เอกอัครราชทูตในประเทศนั้นๆ เป็นประธาน ส่วนภาคเอกชน จะมีผู้แทนบริษัทที่เข้าไปลงทุนในประเทศนั้นๆ เป็นสมาชิก และเลือกตัวแทนเพื่อเป็นรองประธาน กรอ.ประจำประเทศนั้นๆ
ทั้งนี้ จะเริ่มต้นแห่งแรกที่เวียดนามก่อน เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และขยายมูลค่าการค้าของทั้ง 2 ประเทศ ให้เพิ่มขึ้นเป็นปีละ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 63 เป็นต้นไป จากปัจจุบันปีละ 14,000 ล้านเหรียญฯ ส่วนด้านการลงทุน ปี 58 ไทยมีมูลค่าการลงทุนในเวียดนาม เป็นลำดับที่ 11 ที่ 7,360 ล้านเหรียญฯ ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในธุรกิจค้าปลีก โดยมีกลุ่มธุรกิจไทยที่เข้าไปลงทุนแล้ว ได้แก่ กลุ่มเซ็นทรัล, กลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น (ทีซีซี), กลุ่มเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (บีเจซี) เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากการเจรจาธุรกิจระหว่างกลุ่มทีซีซี กับผู้ถือหุ้นห้างบิ๊กซี ในเวียดนาม ซึ่งมีสาขาทั่วประเทศ 32 สาขา ประสบความสำเร็จ จะทำให้ไทยมีส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจค้าปลีกของเวียดนามสูงถึง 60%
ส่วนกรณีที่สื่อเวียดนามโจมตีว่า ทุนไทยกำลังจะเข้าไปครอบงำธุรกิจในเวียดนาม และจะนำสินค้าไทยเข้าไปขายในเวียดนามแทนการใช้สินค้าเวียดนามนั้น ภายหลังหารือกับเอกชนไทยที่เข้าไปลงทุนในเวียดนามแล้ว ได้รับการชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการทำธุรกิจค้าปลีก ต้องใช้สินค้าที่มีศักยภาพในตลาดนั้นๆ เป็นหลัก ซึ่งสินค้าเวียดนามเป็นที่ต้องการของตลาด อย่างไรก็ตาม การเข้าไปลงทุนของคนไทยจะนำไปสู่การจ้างงาน และพัฒนาแรงงานในเวียดนาม.