หวังเจรจาอียูเร่งคลายเกลียว พ.ค.นี้

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุมหรือไอยูยู ว่า ขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ จะเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไอยูยูมากขึ้น ซึ่งหน้าที่โดยรวมจะอยู่ที่ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่วมกันให้ดำเนินการตามโรดแม็ปที่กำหนดไว้ โดยในโรดแม็ปจะต้องมีข้อมูลรายละเอียดแบบแผนและขั้นตอนการดำเนินการมากกว่าที่มีอยู่ แม้ปัจจุบันจะมีความคืบหน้าแล้วมากกว่า 85%

แต่การรายงานผลต่อสหภาพยุโรปหรืออียูรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องชัดเจนกว่านี้ ทั้งการบังคับใช้กฎหมายตาม พรก.การประมงแห่งประเทศไทย การรายงานการเข้าออกของเรือประมงผ่านศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก (PIPO) จำนวนเรือที่จดทะเบียน การติดตามเรือผ่านเครื่องวีเอ็มเอส รวมทั้งการติดตั้งให้ครบตามจำนวนเรือที่มีอยู่ ซึ่งคณะผู้แทนของไทยจะเดินทางไปหารือที่กรุงบรัสเซลส์ในเดือน พ.ค.

“จาก 40 แผนงานที่กำหนดไว้ในโรดแม็ปดำเนินการไปแล้ว 14 แผนงาน ถือว่าคืบหน้ามาก แต่ทั้งนี้ การรายงานต่ออียูและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกันเอง ยังไม่มีความชัดเจนว่า 14 แผนที่คืบหน้านั้นมีรายละเอียดอย่างไร ดังนั้นการทำงานต่อจากนี้ไปจะต้องเพิ่มรายละเอียดให้มากขึ้น ไม่ใช่ใส่แต่หัวข้อ เนื้อหาไม่มี ทำให้ความเข้าใจไม่ตรงกัน ผมจะทำหน้าที่คล้ายกับเป็นที่ปรึกษาในการแก้ไขปัญหาโดยรวมเพื่อเสนอต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รับทราบต่อไป”.