ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/612853
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 29 เม.ย. 2559 05:45

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (ทอท.) เปิดเผยว่า ในเดือน พ.ค.นี้ จะได้ข้อสรุปร่วมกันระหว่างกรมธนารักษ์ กรมท่าอากาศยาน (ทย.) กองทัพอากาศ (ทอ.) ถึงแนวทางในการปลดล็อกพื้นที่ในสนามบินทั้ง 6 สนามบิน คือ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินเชียงใหม่ สนามบินเชียงราย สนามบินหาดใหญ่ สนามบินภูเก็ต พื้นที่กว่า 3,000-4,000 ไร่ เพื่อนำมาพัฒนาในเชิงพาณิชย์สร้างรายได้เพิ่มขึ้น โดยหวังว่าการพัฒนาเชิงพาณิชย์ที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจการบินจะมีสัดส่วนรายได้จาก 40% เป็น 50% โดยมีเป้าหมายใน 3-5 ปี
“หากการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ข้อสรุปเบื้องต้นเพื่อ จะปลดล็อกข้อจำกัดเงื่อนไขการนำพื้นที่มาใช้ เบื้องต้นอาจจะมีการแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อให้มีช่องในการนำพื้นที่มาพัฒนา สาเหตุที่ต้องมีการปลดล็อก เนื่องจากบางพื้นที่ในสนามบินยังติดเงื่อนไขโซนนิ่งพื้นที่สีเขียว, เป็นพื้นที่ของธนารักษ์, พื้นที่ของกองทัพอากาศ, พื้นที่ของกรมท่าอากาศยาน เป็นต้น นอกจากนั้น ในพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินสุวรรณภูมิ จะเห็นได้ว่ามีพื้นที่รวมกว่า 500,000 ตร.ม. แต่กลับมีพื้นที่เชิงพาณิชย์เพียง 20,000-30,000 ตร.ม. ซึ่งหากเมื่อเทียบกับสนามบินในต่างประเทศจะพบว่ามีพื้นที่กว่า 450,000 ตร.ม. แต่กลับมีพื้นที่เชิงพาณิชย์มากกว่า 150,000 ตร.ม. ดังนั้น ในนโยบาย จึงมีความจำเป็นในการหารายได้ในพื้นที่เชิงพาณิชย์มากขึ้น”
นายนิตินัยกล่าวว่า ในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ ทอท.จะใช้เงินลงทุนประมาณ 170,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนสนามบินสุวรรณภูมิ 110,000 ล้านบาท ดอนเมือง 25,000 ล้านบาท ที่เหลือประมาณ 35,000 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนในสนามบินภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ประกาศประกวดราคาหาผู้รับจ้างในสนามบินสุวรรณภูมิไปแล้ว 3 สัญญา ที่เหลืออีก 4 สัญญาคาดว่าจะประกวดราคาหาผู้รับจ้างแล้วเสร็จภายในปีนี้”.