ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160503/226983.html
‘บิ๊กตู่’ยินดี‘เลสเตอร์’คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ดีใจจิ้งจอกสยามมีชื่อคนไทยเป็นเจ้าของ แซวดีกว่าซื้อทีมประสบความสำเร็จแล้วขายต่อ เผยมีของดีจากเจ้าคุณธงชัย
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 3 เม.ย.2559 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงทีมฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2015-2016 ว่า ขอแสดงความยินดีกับทีมเลสเตอร์ เพราะถือว่าวันนี้เป็นทีมจิ้งจอกสยาม กีฬาทุกประเภทที่เป็นของคนไทย หรือที่มีคนไทยไปร่วมเล่นด้วย ตนก็ยินดีด้วยทั้งสิ้น เพราะไปในนามของประเทศไทย คนไทยมีชื่อติดไปเป็นสยาม ซึ่งคนไทยเป็นเจ้าของทีม ก็เห็นถึงความก้าวหน้า ถือเป็นความพยายาม ตั้งแต่เป็นทีมที่ค่อนข้างจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่วันนี้ถือว่า ประสบความสำเร็จแล้ว ถือเป็นความพยายาม
“ก็น่าจะดีกว่าไปซื้อทีมที่ประสบความสำเร็จแล้วไปขายต่อ ถือว่าดีกว่า”
เมื่อถามว่า ถึงวันนี้นายกรัฐมนตรี อยากได้ผ้ายันต์ของพระพรหมมังคลาจารย์ (เจ้าคุณธงชัย) วัดไตรมิตรวิทยาราม บ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ท่านได้ให้ผมมาหลายอันแล้ว พระท่านให้ผมมาตลอด ผมเป็นคนที่นับถือศาสนาพุทธ ก็ถือเป็นที่พึ่งทางใจ ก็อยากให้พวกเราทุกคนถือเป็นเพียงที่พึ่งทางใจสำหรับผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ เพราะทุกศาสนาอย่างน้อยก็ทำคนให้คนเป็นคนดี อะไรที่พระท่านให้มาก็ถือเป็นกำลังใจก็เก็บๆ ไว้ ผมก็เห็นทุกคนที่นับถือศาสนาพุทธห้อยพระกัน แต่ถ้าห้อยไม่ไหวก็ให้นำไปไว้บนหิ้งพระ เพราะหากห้อยทั้งหมดบางครั้งก็เจ็บคอ เพราะหนัก”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ท่านเจ้าคุณธงชัย เคยดูด้วยให้รัฐบาล และคสช.บ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่ต้องหรอก แต่ถ้าถามว่าดูดวงหรือไม่ ท่านก็พูดถึงในทางที่ดี และเคยฝากบอกมาให้กำลังใจทำงานต่อไปอย่างดีที่สุด ดวงเขามีไว้ให้ระวังตัวเท่านั้นเอง ถือเป็นเรื่องในเชิงสถิติ ถ้าทำดีก็ได้ดี แต่ถ้าทำไม่ดีดวงดีก็ไม่สำเร็จอยู่ดี”
เมิน‘สนธิ’วิจารณ์‘โครงการประชารัฐ’
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์กรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและอดีตแกนนำพันธมิตรฯ แสดงความเห็นต่อโครงการประชารัฐ ว่าเป็นโครงการเอื้อลูกนักธุรกิจให้ได้ประโยชน์ ว่า ตนไม่สนใจ เพราะทำในสิ่งที่ดี คนที่พูดแล้วไม่ได้ทำ ก็ลองมาทำดูเองบ้าง และทำให้ได้อย่างตนทุกคนที่ออกมาพูด ถ้าไม่เคยทำคิดและพูดมันง่ายเกินไป เพราะคนพูดไม่ได้เจอปัญหา มีแต่สร้างปัญหาความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ
“ผมยังไม่ก้าวก่ายงานของท่านเลย ยังเคยบอกหนังสือพิมพ์หรืออะไรของท่านเขียนในเชิงสร้างความขัดแย้ง ยังไม่เคยว่าเลย ฉะนั้นอย่ามายุ่งกับผม แม้แต่คนที่มาช่วยโครงการสตาร์ทอัพ เขาจะมาฮุบอย่างไร บอกวิธีการฮุบมาสิ ผมจะไม่ฉลาดพอที่จะให้เขาฮุบเหรอ เขามาช่วยขับเคลื่อน ร่วมตั้งบริษัทและมีผลกำไรหรือเปล่า ผลกำไรอยู่ที่ไหนดูตรงนี้ โครงการประชารัฐไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหญ่หรืออย่างไรนั้นเพื่อเอาประโยชน์มาสู่ประชาชน เพราะประชาชนเป็นหุ้นส่วนใหญ่ เงินที่ได้กลับมาไม่ได้แบ่งปันผลประโยชน์ แต่เอามาเป็นค่าแรงค่าจ้างเจ้าหน้าที่ ที่เหลือผลักเข้าสู่กองทุน นำไปใช้ขยายที่อื่นมันผิดตรงไหน” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่ายังนายกฯมั่นใจว่านโยบายนี้เป็นสิ่งที่ดี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ไม่มั่นใจจะทำทำไม เคยเข้าใจคำว่าโซเชี่ยล บิซิเนสหรือไม่ ถ้าไม่เข้าใจก็พูดกันไม่รู้เรื่อง ธุรกิจเพื่อสังคมไปเปิดเว็บเปิดยูทูปดู พวกเขาทำอย่างไรกันมา ถ้าไม่ดูตรงนี้ก็คุยกันคนละเรื่องสตาร์ทอัพมันจะเสียหายตรงไหน ในเมื่อเป็นการเอาเอสเอ็มอีรุ่นเก่ารุ่นใหม่มา ซึ่งรุ่นเก่าได้ให้ทุนไปแล้ว พอไม่ให้ทุนก็หาว่าไม่จริงจัง ไม่ดูแลเอสเอ็มอี แต่ให้ไปก็บอกว่าจะเป็นหนี้ครัวเรือน เป็นเอ็นพีแอล แล้วจะทำอะไร ก็อยู่เฉยๆสิ อย่างที่พวกเขาอยู่กันมาดีไหม แล้ววันนี้พวกเขามีการเพิ่มมูลค่าการค้าขาย รู้หรือไม่ประเทศไทยมีเอสเอ็มอีเท่าไร กว่าร้อยละเก้าสิบ สองล้านหกแสนรายแล้วไม่สนใจพวกเขาได้หรือไม่ และสตาร์ทอัพก็คือเอสเอ็มอีขนาดเล็ก เป็นการใช้ปัญญาประดิษฐ์ เป็นการให้การบริการใช้สมองคิดออกมา อย่างการสร้างโปรแกรมบริการซักผ้า24ชั่วโมง ไปดูถูกไปอย่างไรว่าพวกเขาจะเจ๊ง พวกเขาลงทุนเราให้เงินกู้ไม่กี่สตางค์ ซึ่งพวกเขาก็ขยายกิจการ ถ้าไปได้พวกเขาก็ไปเองไม่ใช่ว่ารัฐจะเลี้ยงดู และจะเอาเงินเท่าไร ทำไมไม่คิดว่าเป็นการสร้างคนรุ่นใหม่ในธุรกิจ และรู้จักการคืนสังคม สอดคล้องกับไทยแลนด์4.0แต่อย่าไปฟัง ไทยแลนด์4.0อย่างที่บางคนพูด พอรัฐบาลพูดก็พูดบ้าง เก่งนักหรือ แล้วทำไมไม่ทำ วันหน้ากลับมาใหม่ก็ไปถามพวกเขา ว่า4.0ทำอย่างไร จะดูแลเกษตรกรอย่างไร ที่ไม่ใช่การอุดหนุน ถามด้วยว่าทำเป็นหรือเปล่า
