วันที่ 3 พฤษภาคม 2559 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รองนายกฯ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า วันนี้ดูเหมือนบ้านนี้เมืองนี้ยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และยิ่งท่านบอกให้ทุกคนช่วยกันเปิดไฟฉายช่วยกันส่องทางก็ยิ่งแล้วไปกันใหญ่ เพราะจะมองไม่เห็นปลายอุโมงค์แน่นอน แสงไฟจะส่องเข้าตากันและกันสะเปะสะปะไปหมด เมื่อติดตามการดำเนินงานของรัฐบาลในด้านต่างๆ ที่ผ่านมาร่วม 2 ปีดูเหมือนว่า ย้อนแย้งกับความเป็นจริงและความรู้สึกของประชาชนในแทบทุกเรื่อง ที่สำคัญที่สุดคือ อิสระภาพและเสรีภาพทางความคิดและการแสดงออกของคนไทยที่เคยมีกันมายาวนานกว่า 30 ปีเสื่อมหายไป ที่น่าเป็นห่วงคือ การวางยุทธศาสตร์ของประเทศในอีก 20 ปีข้างหน้าที่รัฐบาลวาดหวังไว้นั้นอยากถามว่า รัฐบาลชุดนี้เก่งกาจปราดเปรื่องมาจากไหนที่จะวางแนวทางอนาคตของบ้านเมืองได้ยาวไกลและถูกต้องถูกทิศทางได้ถึงขนาดนั้น และรัฐบาลทุกชุดจะต้องนำมาขับเคลื่อนปฎิบัติตามที่พวกท่านวางหรือกำหนดกันไว้

          นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ต้องยอมรับว่า การเคลื่อนไหวและการเจริญเติบโตในด้านต่างๆ ของโลกทุกวันนี้มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ซับซ้อนและแปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วมากเกินกว่าที่จะคาดเดาได้ง่ายๆ ความพร้อมที่จะรองรับความเปลี่ยนแปลงต้องเป็นไปอย่างรวดเร็วและประยุกต์ให้ทันสมัยทันเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา พวกท่านเตรียมการอะไรเอาไว้รองรับกันบ้างหรือไม่ คิดกันล่วงหน้าเอาไว้ก่อนบ้างไหม โอกาสที่จะปรับแก้กฎระเบียบต่างๆ จะทำกันได้ง่ายไหม ความเชื่อมั่นของต่างชาติจะฟื้นคืนมาได้เหมือนเดิมหรือไม่หลังจากที่เขาเห็นว่าการบังคับใช้กฎหมายในบ้านเราขณะนี้เป็นเช่นไร ต้องบอกตรงๆ ว่า ไทยเราเสียเวลาและเสียโอกาสมามากแล้ว อย่าหลงหรือหลอกตัวเองกันอีกต่อไปเลย ต้องมาช่วยกันสร้างสิ่งดีๆ ร่วมกันได้แล้ว ก่อนที่เราจะล้าหลังเพื่อนๆ เราในอาเซียน ต้องเปิดใจให้กว้าง ยอมรับความเห็นต่างให้ได้ เพราะประเทศชาติเป็นของคนไทยทุกคน