ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20151129/217643.html
การศึกษา-สาธารณสุข-สิ่งแวดล้อม : ข่าวทั่วไป
วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2558
รักชีวิต รักษ์สิ่งแวดล้อม : แก้ปัญหาพนักงาน ‘ขสมก.’ ทางออกชีวิตเปื้อนฝุ่นสังคมเมือง : โดย…จรีย์ ศรีสวัสดิ์ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล
จากสภาพปัญหาการจราจรที่เกิดขึ้นในเมืองกรุง ส่งผลให้หลายๆ อาชีพต้องทนทุกข์อยู่บนท้องถนนเป็นเวลานาน ต้องเผื่อเวลาในการเดินทาง หรือมีความเครียดสะสมระหว่างเดินทางอย่างมาก เฉกเช่นเดียวกับพนักงาน “ขสมก.” ที่ต้องทนทั้งมลภาวะทางอากาศ สภาพการจราจรที่แออัดรถติด การกลั้นปัสสาวะที่ยาวนาน เพราะกว่าจะไปถึงจุดหมายปลายทางได้นั้นต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก
สะท้อนได้จากเวทีนำเสนอ “ผลวิจัยสุขภาพของพนักงานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ” ที่จัดขึ้นโดย แผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เมื่อเร็วๆ นี้ ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค กรุงเทพฯ
อรพินธุ์ แทนทอง พนักงานสายตรวจพิเศษ ขสมก. เปิดเผยงานวิจัย “สุขภาพของพนักงาน ขสมก. ภายใต้โครงการสร้างเสริมสุขภาพของพนักงาน ขสมก.” จำนวน 1,243 ตัวอย่าง แบ่งเป็นเพศชาย 57.2% เพศหญิง 42.6% ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2558 พบว่าพนักงาน ขสมก. มีภาระหนี้สินสูงถึง 85% โดยมีแหล่งเงินกู้ในระบบ เช่น ธนาคาร สหกรณ์ออมทรัพย์ นอกจากนี้ยังพบการทำงานล่วงเวลาเกินครึ่ง หรือ 65% ในเพศชาย และหญิง 62% ส่วนใหญ่เป็นพนักงานเก็บค่าโดยสาร พนักงานขับรถและพนักงานสายตรวจ ทำงานล่วงเวลา 2 ชั่วโมงขึ้นไป ทั้งนี้ปัญหาจากการทำงานที่พบคือ กินข้าวไม่เป็นเวลา รองลงมา อยู่บนรถนาน ยืนนาน นอนไม่เป็นเวลา ที่น่าห่วงคือ ต้องกลั้นปัสสาวะและอุจจาระ เพราะไม่มีเวลาเข้าห้องน้ำ รวมถึงมีอาการเครียด อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า พักผ่อนไม่เพียงพอ
“งานวิจัยพบว่า พนักงานหญิงบางรายต้องเผชิญปัญหาการคุกคามทางเพศขณะเก็บค่าโดยสาร เช่น ถูกแตะเนื้อต้องตัว ลวนลามด้วยสายตา สำหรับพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ พบว่าพนักงานชาย 28% สูบบุหรี่เป็นประจำ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบในกลุ่มชาย 61% ผู้หญิง 35% เหตุผลที่ดื่มเพราะต้องการสังสรรค์เข้าสังคมกับเพื่อน ขณะที่ชาย 48% นิยมดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเพื่อบำรุง อยากสดชื่น แก้ง่วง แก้อ่อนเพลีย น่าตกใจคือกลุ่มตัวอย่าง เกินครึ่งประสบปัญหามีโรคประจำตัว หญิง 58% และชาย 63% โรคที่พบมากที่สุด คือความดันโลหิตสูง 24.55% เบาหวาน 18.25% ไขมันในเลือดสูง 13.7% และอื่นๆ เช่น แพ้อากาศ ไข้หวัด ปวดหลัง ปวดข้อเข่า ปวดขา ปวดกล้ามเนื้อ โรคกระเพาะ อาหารเป็นพิษ ซึ่งพนักงานกว่า 22% ไม่ได้รับการตรวจสุขภาพประจำปี” นางอรพินธุ์ ระบุ
อรพินธุ์ กล่าวสรุปได้ว่า จากสภาพการทำงานที่ตรากตรำส่งผลต่อสุขภาพของพนักงานในหลายด้าน น่าตกใจคือปัญหาการมีโรคประจำตัว การกินอาหารไม่เป็นเวลา นอนไม่เป็นเวลา เหนื่อยล้าจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ และอาการทางร่างกายจากการที่ต้องนั่งหรือยืนอยู่บนรถเมล์นานๆ และที่สำคัญคือการที่พนักงานต้องกลั้นปัสสาวะและอุจจาระเป็นประจำ เพราะสภาพการจราจรที่ติดขัดและเส้นทางเดินรถที่มีระยะทางไกล รวมทั้งการที่ท่ารถบางแห่งยังมีห้องน้ำไม่เพียงพอ รวมไปถึงปัญหาอื่นๆ ที่พนักงานเจอ เช่น การถูกคุกคามทางเพศ โดยกลุ่มที่เจอปัญหานี้มากที่สุดคือพนักงานเก็บค่าโดยสารหญิง อีกทั้งจำนวนไม่น้อยยังมีปัญหาหนี้สินที่เป็นภาระพอสมควร

อรพินธุ์ ระบุข้อเรียกร้องเพื่อเสนอการปรับปรุงระบบสวัสดิการของพนักงาน เตรียมยื่นต่อ ขสมก. ได้แก่ 1.จัดสวัสดิการจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาล เพื่อลดภาระที่พนักงานต้องหาเงินมาสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลในยามที่เจ็บป่วย 2.ปรับปรุงระบบการตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อให้พนักงานได้รับบริการอย่างทั่วถึง เพราะปัจจุบันการตรวจสุขภาพประจำปีที่ ขสมก.จัดให้ยังมีระยะเวลาจำกัด ทำให้พนักงานที่ต้องเข้ากะทำงานในเวลาที่มีการตรวจสุขภาพต้องเสียโอกาส 3.จัดร้านค้าสวัสดิการที่ขายอาหารที่มีคุณภาพดีและราคาถูก รวมทั้งจัดน้ำดื่มสะอาดให้เพียงพอในทุกจุดที่มีพนักงาน และจัดสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสม รวมถึงการจัดให้มีห้องน้ำตามอู่รถเมล์อย่างเพียงพอ 4.จัดกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกายแก่พนักงาน 5.จัดอบรมให้ความรู้เรื่องการบริหารจัดการหนี้สินแก่พนักงาน และ 6.สร้างอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้พนักงานนอกเวลาทำงานหรือในวันหยุด
ดร.วราภรณ์ แช่มสนิท ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ อธิบายว่า การมีแผนงานฯ สนับสนุนงานวิจัยชิ้นนี้เนื่องจากเห็นถึงปัญหาที่พนักงานขสมก.ต้องเผชิญ จากนั้นจึงเกิดความร่วมมือกับหลายฝ่าย ดึงศักยภาพพนักงานขสมก.ตั้งแต่คนขับรถ พนักงานกระเป๋า พนักงานตรวจตั๋ว มาร่วมเป็นทีมวิจัยลงพื้นที่สำรวจทุกเขตทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้อยู่บนพื้นฐานความรู้ และมีทีมนักวิชาการมาช่วยเป็นที่ปรึกษา จนนำมาสู่การประมวลผลร่วมเกิดผลงานที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้น และสามารถต่อยอดนำไปสู่การแก้ปัญหา เกิดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งเราตั้งเป้าให้ขสมก.เป็นองค์กรต้นแบบในด้านสุขภาพ ซึ่งประโยชน์ทั้งหมดจะตกอยู่ที่พนักงานขสมก.ทุกคน อย่างไรก็ตาม งานวิจัยชิ้นนี้จะช่วยเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนระหว่างฝ่ายบริหารกับพนักงานเพื่อหาทางออกร่วมกัน เพราะสิ่งที่ยังห่วงใยคือ การทำงานเกิน 8 ชั่วโมง ปัญหาห้องน้ำไม่เพียงพอของพนักงาน
รศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล นักวิชาการสถาบันวิจัยประชากรและสังคม กล่าวในฐานะที่ปรึกษางานวิจัยชิ้นนี้ว่า จะช่วยพัฒนาศักยภาพของคนทำงานขสมก.ให้ได้มีบทบาทเชื่อมประสานสู่การทำงานวิจัยโดยนำเสนอข้อมูลที่เป็นปัญหาออกมาสู่สาธารณะ อย่างไรก็ตาม สภาพรถติด เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพนักงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งต้องทำงานเกินเวลา กระทบต่อสุขภาพ เกิดความเครียด กินนอนไม่เป็นเวลา ประสบปัญหาขับถ่ายและกลั้นปัสสาวะ หนี้สินล้นพ้น ขณะเดียวกันคนขับรถ พนักงานกระเป๋ายังต้องรับผิดชอบชีวิตผู้โดยสาร ซึ่งในต่างประเทศไม่มีสภาพปัญหาจราจรที่หนักกระทบต่อพนักงานแบบนี้ ซึ่งสะท้อนสภาพเมืองที่ไม่เอื้ออำนวยต่อคุณภาพชีวิต อาชีพนี้จึงไม่มีทางเลือกต้องใช้ชีวิตด้วยความเสี่ยงตลอดเวลา อีกทั้งส่งผลกระทบต่อคนระดับกลาง ระดับล่าง หากไม่รีบแก้ไขจะกระทบต่อทุกๆ อาชีพเป็นวงกว้าง
ขณะที่ ธนพร ลวดลายทอง หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาระบบสวัสดิการ ขสมก. เห็นว่า เป็นการสะท้อนปัญหาด้านสุขภาพ หลังจากนี้เมื่อได้บทสรุปจะร่างเป็นแผนและเร่งนำเสนอต่อผู้บริหารเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในขสมก.ให้พนักงานมีสุขภาพดีขึ้น สามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริหารได้มีความห่วงใย สนใจตอบรับในเรื่องสุขภาพ ขณะเดียวกันพนักงานก็มีความกระตือรือร้น อย่างน้อยงานวิจัยชิ้นนี้ทำให้ผู้บริหารรับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริง สามารถนำไปสู่การแก้ไขที่ตรงจุด และอาจเกิดการผลักดันให้ขสมก.เป็นองค์กรตัวอย่างด้านสร้างเสริมสุขภาพ อย่างไรก็ตาม โครงการนี้เน้นให้พนักงานและผู้บริหารเกิดความตระหนัก เห็นความสำคัญ มีส่วนร่วมสร้างเสริมสุขภาพ รวมถึงออกแบบวางแผนกิจกรรมในพื้นที่นำร่องต่อไป
จากการสะท้อนปัญหาผ่านเวทีครั้งนี้ ท้ายที่สุดจะนำมาสู่การแก้ไขที่ยั่งยืน เพื่อให้ชีวิตพนักงานขสมก.ได้มีสิทธิสวัสดิการด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเขา รวมถึงจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการต่อยอดเรียกร้องสิทธิกับอาชีพอื่นๆ อีกหลายสาขาอาชีพที่ยังมีผลกระทบไม่ต่างจากอาชีพนี้ !!!
——————–
(รักชีวิต รักษ์สิ่งแวดล้อม : แก้ปัญหาพนักงาน ‘ขสมก.’ ทางออกชีวิตเปื้อนฝุ่นสังคมเมือง : โดย…จรีย์ ศรีสวัสดิ์ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล)
