เปิดขั้นตอนแจ้งความ หากพบทำผิดประชามติ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

05 พฤษภาคม 2559 เวลา 10:10 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/analysis/politic/430199

เปิดขั้นตอนแจ้งความ หากพบทำผิดประชามติ

โดย…ชัยรัตน์ พัชรไตรรัตน์

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 29 เม.ย. เรื่อง ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยคําร้องเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการพบเห็นกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฯ

อาทิ ส่วนที่ 1 การตรวจคําร้อง คําร้องส่วนอาญาและการพิจารณาคําร้อง ข้อ 7 เมื่อ กกต.ประจําจังหวัด ได้รับคําร้องซึ่งมีผู้ยื่นด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์ หรือระบบสารสนเทศอื่น ให้พนักงานที่ได้รับมอบหมายตรวจคําร้องดังกล่าวโดยเร็ว และดําเนินการ (1) คําร้องที่มีลักษณะเป็นคําร้องคัดค้านให้ดําเนินการในส่วนที่ 3

(2) คําร้องที่เข้าข่ายความผิดทางอาญาให้เสนอผู้อํานวยการ กกต.ประจําจังหวัด ส่งคําร้องให้พนักงานสอบสวนเพื่อดําเนินการ (3) คําร้องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ให้เสนอผู้อํานวยการ กกต.ประจําจังหวัดแจ้งไปยังฝ่ายปกครอง ตํารวจ ทหาร หรือหน่วยงานรับผิดชอบเกี่ยวกับความมั่นคงในพื้นที่ดําเนินการ

กรณีผู้อํานวยการ กกต.ประจําจังหวัด ไม่อยู่หรืออยู่แต่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ มอบหมายให้รองผู้อํานวยการ กกต.ประจําจังหวัดหรือพนักงานเป็นผู้พิจารณาแทน ข้อ 8 กรณีที่ กกต. ได้รับคําร้องตามข้อ 7 ให้เลขาธิการ หรือรองเลขาธิการ หรือผู้อํานวยการสํานักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยที่ได้รับมอบหมาย ส่งคําร้องให้ กกต.ประจําจังหวัดที่เกิดเหตุดําเนินการ เว้นแต่มีเหตุจําเป็น กกต.อาจดําเนินการเองโดยนําความข้อ 7 มาใช้อนุโลม

ส่วนที่ 2 การแจ้งเหตุ การรับเงิน หรือทรัพย์สิน ข้อ 9 การรับแจ้งเหตุตามมาตรานี้ (1) เลขาธิการ หรือรองเลขาธิการ หรือผู้อํานวยการ กกต. (2) ผู้อํานวยการ กกต.ประจําจังหวัด หรือรองผู้อํานวยการ กกต.ประจําจังหวัด (3) พนักงานสืบสวนสอบสวนของ กกต. ให้ผู้รับแจ้งเหตุทําบันทึกการรับแจ้งและออกใบรับแจ้งให้ผู้แจ้งไว้เป็นหลักฐานและดําเนินการตาม ข้อ 7 หรือข้อ 8 แล้วแต่กรณีต่อไป

ส่วนที่ 3 การพิจารณาคําร้องคัดค้านการออกเสียง อาทิ ข้อ 10 ผู้มีสิทธิยื่นคําร้องคัดค้านต้องเป็นผู้มาใช้สิทธิจํานวนไม่น้อยกว่า 50 คนในหน่วยออกเสียงนั้น ผู้คัดค้านต้องยื่นด้วยตนเองที่ กกต.ประจําจังหวัด ภายใน 24 ชั่วโมง ตั้งแต่การลงคะแนนเสร็จ หากไม่ยื่นด้วยตนเองให้แต่งตั้งผู้คัดค้าน 1 คน ดําเนินการแทนได้

ข้อ 11 คําร้องคัดค้านต้องทําเป็นหนังสือโดยใช้ถ้อยคําสุภาพ ระบุวัน เดือน ปี ชื่อ ที่อยู่ ตามสำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาบัตรที่ส่วนราชการออกให้ รวมทั้งต้องระบุข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทําไม่สุจริต และรายละเอียดเกี่ยวกับวัน เวลา และสถานที่เกิดการกระทํานั้น

นอกจากนี้ ต้องระบุพยานเอกสาร วัตถุ และบุคคล พร้อมที่อยู่ และลงลายมือชื่อผู้คัดค้านทุกคน เพื่อความรวดเร็วในการไต่สวน ให้ผู้คัดค้านระบุชื่อผู้คัดค้านที่เป็นตัวแทนผู้คัดค้านจํานวน 1 คน และตัวแทนสํารองอีก 1 คน ส่วนคําร้องคัดค้านเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการประจําหน่วยให้ยื่นพร้อมหลักฐานเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของบุคคลดังกล่าว

กรณีทักท้วงแล้วถ้ากรรมการประจําหน่วยไม่บันทึกเหตุ ให้ผู้ทักท้วงแจ้งต่อพนักงานสอบสวนสถานีตํารวจท้องที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน และให้นําหลักฐานการแจ้งมาประกอบ ข้อ 12 เมื่อได้รับคําร้องแล้ว ให้ผู้อํานวยการ กกต.ประจําจังหวัดออกใบรับคําร้องให้แก่ผู้ยื่นคําร้อง และให้บันทึกคําร้องคัดค้านไว้ในสมุดทะเบียนรับคําร้องคัดค้าน

ข้อ 13 คําร้องคัดค้านที่ได้ยื่นไว้แล้ว เมื่อพ้นระยะเวลายื่น ผู้คัดค้านจะขอแก้ไขเพิ่มเติมไม่ได้ ข้อ 16 ผู้คัดค้านอาจขอถอนคําร้องได้ภายในระยะเวลาก่อน กกต.หรือ กกต.ประจําจังหวัด ส่งสํานวนให้ กกต.พิจารณา แต่ กกต. จะอนุญาตหรือไม่ก็ได้ และให้เลขาธิการแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้คัดค้านหรือตัวแทนผู้คัดค้านทราบ

หมวด 2 การไต่สวนและการพิจารณา อาทิ ข้อ 19 การประชุมคณะกรรมการไต่สวนต้องมีผู้เข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งจึงจะเป็นองค์ประชุม การลงมติของคณะกรรมการไต่สวนให้ถือเสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเท่ากันให้ประธานมีสิทธิออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเสียงเพื่อชี้ขาด กรณีหาเสียงข้างมากไม่ได้ ให้แยกทําความเห็น และกรรมการคนใดมีความเห็นแย้ง ให้ทําความเห็นแย้งรวมไว้ในรายงานการไต่สวน

ข้อ 20 เมื่อได้รับคําร้องไว้ดําเนินการ ให้คณะกรรมการกําหนดวัน เวลา และสถานที่ไต่สวน แล้วแจ้งให้ผู้คัดค้านทราบในวันรับคําร้อง เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงแสดงหลักฐานและนําพยานมาให้ถ้อยคำ และต้องไต่สวนให้แล้วเสร็จภายใน 12 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง

ข้อ 22 ห้ามบุคคลอื่นนอกจากผู้รับการไต่สวนเข้าร่วม เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ ข้อ 23 ถ้าผู้คัดค้านไม่นําพยานมาตามกําหนด หรือพยานใดไม่มาตามกําหนดถือว่าผู้นั้นไม่ประสงค์ให้ถ้อยคําชี้แจง และให้บันทึกถ้อยคําผู้คัดค้านหรือบันทึกเหตุนั้นไว้

อย่างไรก็ตาม พยานที่ กกต. คณะอนุกรรมการวินิจฉัย เลขาธิการ คณะกรรมการไต่สวน มีหนังสือเรียกมาให้ถ้อยคํา ให้ได้รับค่าป่วยการตามอัตราที่ กกต. กําหนด เว้นแต่เป็นพยานที่ผู้คัดค้านอ้างหรือนํามาให้ถ้อยคํา ข้อ 24 กรณีที่คณะกรรมการไต่สวนเห็นว่าพยานหลักฐานใดไม่เกี่ยวกับประเด็น คณะกรรมการไม่ทําการไต่สวนก็ได้ แต่ต้องบันทึกเหตุไว้

ข้อ 27 กรณีมีของกลาง ให้คณะกรรมการจัดทําบัญชีของกลาง รวมเข้าไว้ในสํานวนการไต่สวน และการเก็บรักษาของกลางตามประกาศ กกต. เรื่อง การเก็บรักษา การจําหน่าย การใช้ประโยชน์ การทําลายและการคืนของกลางในสํานวนการสืบสวนสอบสวนเรื่องร้องเรียน หรือคัดค้านการเลือกตั้ง พ.ศ. 2544

ส่วนที่ 1 การพิจารณากรณีคําร้องคัดค้านมีผลเปลี่ยนแปลงการออกเสียงประชามติ ข้อ 35 เมื่อ กกต. ได้รับสํานวนการไต่สวนตามข้อ 34 ให้ กกต. พิจารณาโดยเร็ว หรือมอบหมายให้คณะอนุกรรมการวินิจฉัยพิจารณามีความเห็นก่อนเสนอ กกต.ก็ได้

ข้อ 36 เมื่อ กกต. มีมติการประชุมตามข้อ 35 ให้เลขาธิการแจ้งมติการประชุมให้ผู้อํานวยการ กกต.ประจําจังหวัด เพื่อแจ้งให้ผู้คัดค้านหรือตัวแทนผู้คัดค้านทราบ และแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมติการประชุมของ กกต. ส่วนที่ 2 การพิจารณากรณีคําร้องคัดค้านไม่มีผลเปลี่ยนแปลงการออกเสียงประชามติ

ข้อ 37 เมื่อ กกต. ได้รับรายงานตามข้อ 31 หรือข้อ 32 หากเห็นว่า จํานวนผู้มีสิทธิออกเสียงในหน่วยออกเสียงที่มีคําร้องคัดค้านหรือที่มีคําสั่งให้รับคําร้องคัดค้านมีจํานวนที่ไม่ทําให้ผลการออกเสียงของทั้งประเทศเปลี่ยนแปลงไป หรือไม่มีประโยชน์อีกต่อไป ให้ กกต. ยกคําร้องคัดค้านและยุติดําเนินการ แล้วแต่กรณี

ทั้งนี้ หาก กกต. มีความเห็นเป็นประการอื่นให้มีคําสั่งโดยเร็ว ให้เลขาธิการแจ้งคําสั่งให้ผู้อํานวยการ กกต.ประจําจังหวัด เพื่อแจ้งให้ผู้คัดค้าน หรือตัวแทนผู้คัดค้านทราบ พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้คัดค้านหรือตัวแทนผู้คัดค้านทราบ หากเห็นว่าตามคําร้องคัดค้าน มีการกระทําความผิดอาญา ผู้คัดค้านมีสิทธิร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญาได้

 

Leave a comment