ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/615605
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 5 พ.ค. 2559 06:30

ชูดอกต่ำอุ้มข้าราชการผู้น้อยทั้งเช่าและซื้อ
ธนารักษ์จับมือธนาคารออมสินและ ธอส.ปล่อยกู้โครงการ “บ้านธนารักษ์ประชารัฐ” ตั้งวงเงิน 9,000 ล้านบาท ทั้งสินเชื่อโครงการและรายย่อย “วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ” คาดว่า หลังผ่านอีไอเออีก 1 ปีครึ่งพร้อมเปิดให้เข้าอยู่อาศัย
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐที่ได้รับความร่วมมือจากธนาคารออมสินและธนาคารอาคาร สงเคราะห์ (ธอส.) จะก่อสร้างเสร็จและพร้อมเปิดให้ข้าราชการที่มีรายได้น้อยไม่เกินเดือนละ 20,000 บาท เข้าอยู่อาศัยได้ภายใน 1 ปีครึ่ง หลังจากการประเมินผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีมูลค่าโครงการประมาณ 9,000 ล้านบาทเพื่อก่อสร้างที่อยู่อาศัย 4,000 ยูนิต บนที่ดินทั้งหมด 6 แปลง โดย 2 แปลงแรกอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ 1.บริเวณถนนประดิพัทธ์ (โรงกษาปณ์เก่า) และ 2.บนถนนพหลโยธิน
ตรงข้ามวัดไผ่ตัน โดยจะมีรูปแบบเป็นการเช่าที่อยู่อาศัยภายใต้เงื่อนไข 1.ข้าราชการชั้นผู้น้อย รายได้เดือนละไม่เกิน 20,000 บาท 2.อัตราค่าเช่าเดือนละ 4,000 บาท 3.สัญญาเช่า 5 ปี หากรายได้เกิน 20,000 บาทต้องย้ายออกไป
ส่วนที่เหลืออีก 4 แปลง ประกอบด้วยจังหวัดเชียงใหม่ ที่อำเภอเมือง บนถนนช้างคลาน จังหวัดเชียงราย 1 แปลง ที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงรายและจังหวัดเพชรบุรี อีกจำนวน 2 แปลงคือที่อำเภอชะอำ จะเป็นรูปแบบการเช่าสิทธิ์ โดยมีอายุการเช่าระยะยาว 30 ปี โดยธนาคารออมสิน และ ธอส.จะปล่อยกู้ให้แก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ชนะการออกแบบและงานก่อสร้างวงเงินรวมไม่เกิน 4,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก 4% หลังจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลอยตัวของแต่ละธนาคาร
สำหรับการปล่อยกู้ให้แก่ลูกค้าในโครงการได้ตั้งวงเงินสินเชื่อเอาไว้ 5,000 ล้านบาทแบ่งเป็น 2 วงเงินคือ 1.วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ยปีแรก 0% ปีที่ 2-3 อัตราดอกเบี้ย 2% ปีที่ 4-6 อัตราดอกเบี้ย 5% และปีที่ 7-30 อัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 6.75% โดยปีแรกจะผ่อนส่งเดือนละ 2,100 บาท และปีที่ 7 เป็นต้นไป กรณีสินเชื่อสวัสดิการผ่อนส่งเดือนละ 3,100 บาท และรายย่อยเดือนละ 3,200 บาท และ 2.วงเงินสินเชื่อเกินกว่า 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท เสียอัตราดอกเบี้ยเท่ากับวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500,000 บาท โดยปีแรกผ่อนส่งเดือนละ 4,200 บาท และปีที่ 7 เป็นต้นไป กรณีสินเชื่อสวัสดิการส่งเดือนละ 6,200 บาท และสินเชื่อรายย่อยส่งเดือนละ 6,400 บาท
“โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐจะเปิดให้ข้าราชการเช่าระยะสั้น 5 ปี และการเช่าสิทธิ์ สัญญาเช่าไม่เกิน 30 ปี โดยจะเปิดให้ประชาชนแสดงความสนใจตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.เป็นต้นไป แม้จะเป็นวันหยุดยาวหลายวันติดต่อกัน โดยที่ผู้สนใจสามารถติดต่อไปยังธนาคารทั้ง 2 แห่งได้ทันที ทั้งเดินทางไปด้วยตนเอง โทรศัพท์หรือทางอินเตอร์เน็ต หลังจากนั้น เมื่อโครงการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย กรมธนารักษ์จะเปิดให้มีการจับสลากอย่างยุติธรรมต่อไป”
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่ากรมจะเปิดให้ผู้ประกอบการแสดงความสนใจเข้ามาพัฒนาโครงการตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.จนถึงวันที่ 2 มิ.ย.59 และคาดว่า จะได้ผู้พัฒนาโครงการประมาณเดือน มิ.ย.-ก.ค.59 นี้ โดยโครงการนี้จะมีทั้งหมด 2 รูปแบบคือ 1.โครงการเช่าระยะสั้น ผู้ประกอบการจะลงทุนก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัย เพื่อจัดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเช่าพักอาศัยเป็นรายเดือน และรูปแบบที่ 2 คือ โครงการเช่าระยะยาว ผู้ประกอบการลงทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัย เช่น บ้านแถว บ้านเดี่ยว อาคารชุดพักอาศัย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนได้มีที่อยู่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองในราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท
นอกจากนี้ กรมยังขยายโครงการดังกล่าว ไปถึงการปรับปรุงและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยของประชาชน ที่เช่าที่ราชพัสดุเพื่ออยู่อาศัยร่วมกับธนาคารทั้ง 2 แห่งโดยธนาคารจะปล่อยกู้รายละไม่เกิน 500,000 บาทเสียอัตราดอกเบี้ยเท่ากับปีแรก 0% เท่ากับวงเงินกู้ในโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.จนถึงปัจจุบัน ธนาคารออมสินได้อนุมัติสินเชื่อในโครงการบ้านประชารัฐไปแล้ว 1,296 ราย วงเงิน 1,457 ล้านบาท จากยอดที่แสดงความจำนงทั้งหมด 31,352 ราย วงเงิน 34,528 ล้านบาท
ขณะที่นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ขณะนี้ได้อนุมัติสินเชื่อโครงบ้านประชารัฐ 3,200 ล้านบาท จากยอด
คำขอกู้ทั้งหมด 23,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ ประมาณ 70-80% เป็นการปล่อยสินเชื่อในต่างจังหวัดส่วนที่เหลืออีก 20% เป็นสินเชื่อ
ในเขตกรุงเทพฯ โดยเป็นการซื้อบ้านที่ตนเองเช่าอยู่แล้วเกือบทั้งหมด.