ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/617846
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 10 พ.ค. 2559 06:01

27 มหาวิทยาลัยพร้อมเข้าสู่ประเทศไทย 4.0
รัฐบาลจับมือ 27 มหาวิทยาลัยพร้อมเข้าสู่ประเทศไทย 4.0 ผลิตบัณฑิตให้ตรงกับความต้องการของ 5 อุตสาหกรรมแห่งอนาคต เปลี่ยนวิธีคิดในการสร้างคนและคัดเลือกเด็กเข้ามหาวิทยาลัยแบบใหม่ เน้นให้มีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าการท่องจำในปัจจุบัน
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ประกอบด้วยมหาวิทยาลัยจากภาครัฐ 27 แห่ง เพื่อให้มหาวิทยาลัยมีส่วนร่วมดำเนินการไปตามที่มีการกำหนดยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ในการขับเคลื่อนประเทศไทย ซึ่งนับเป็นการระดมสมองร่วมกันครั้งที่ 3 ว่าแต่ละมหาวิทยาลัยจะรวมพลังร่วมกันในเรื่องใดได้บ้าง เพื่อให้การทำงานแตกต่างจากในอดีตที่ต่างคนต่างทำ โดยมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้ระดมความคิดกันว่าในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศใน 5 กลุ่มนั้น จะต้องมีเทคโนโลยีหลัก เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เป้าหมายของอุตสาหกรรม ข้อจำกัดในการพัฒนา แนวทางการปลดล็อก และต่อไปต้องคิดไปถึงว่าจะต้องมีสินค้าและบริการที่สามารถตอบโจทย์โลกได้ เช่น หุ่นยนต์เพื่อผู้สูงอายุ แอพพลิเคชั่นสำหรับบริการผู้สูงอายุ อาหารสำหรับผู้สูงอายุ การท่องเที่ยวเพื่อผู้สูงอายุ เพื่อให้ประเทศไทย เดินหน้าไปสู่เป้าหมายร่วมกัน จะทำให้ภาคเอกชนมีแนวทางในการผลิตสินค้าใหม่ๆ ภาครัฐก็สามารถบริหาร จัดการประเทศและงบประมาณได้อย่างมีทิศทาง
“ทุกมหาวิทยาลัยตื่นตัวในเรื่องนี้มาก เพราะการกำหนดยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ทำให้แต่ละมหาวิทยาลัยทราบโจทย์ว่าประเทศไทยจะเดินไปทางไหน พร้อมมีการคุยและหารือกันว่า ต่อไปการผลิตบัณฑิตจะต้องดูความต้องการของตลาดหรือความต้องการของเอกชนเป็นหลักเหมือนลักษณะของดีมานด์ ไซด์ จะได้ไม่มีบัณฑิตตกงานเป็นแสนคนเช่นเดียวกับงานวิจัยต่างๆ ต่อไปจะดูว่าภาคธุรกิจต้องการงานวิจัยแบบใด จะไม่เป็นงานวิจัยขึ้นหิ้งอีกแล้ว”
รมช.พาณิชย์กล่าวว่า การหารือกันครั้งนี้ทุกมหาวิทยาลัยคิดว่า ต่อไปจะต้องเปลี่ยนวิธีรับนักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ เพราะระบบของไทยในปัจจุบันเน้นการท่องจำ เด็กจะเข้ามหาวิทยาลัยต้องไปกวดวิชาจนทำให้เด็กไทยกลายเป็นคนขาดความคิดสร้างสรรค์ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกาศว่าจะจัดการสอบแอดมิชชันใหม่เป็นการเฉพาะ และการผลิตคนต่อไปทุกมหาวิทยาลัยจะเน้นการตอบโจทย์ 5 กลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นหลัก
ทั้งนี้ ภายใต้ 5 กลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศไทย 4.0 ที่ 27 มหาวิทยาลัยจะร่วมมือกัน คือ 1.กลุ่มอาหาร เกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ มีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นแม่ข่ายมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพมากพอที่จะเป็นศูนย์กลางในการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร การมีผลิตผลทางการเกษตรระดับพรีเมียม และเป็นผู้ส่งออกเทคโนโลยีด้านการเกษตร เมล็ดพันธุ์ วัคซีน อาหารสัตว์ได้ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้ของไทย แต่ละมหาวิทยาลัยมีตั้งแต่สถาบัน สถานี ศูนย์วิจัย ของมหาวิทยาลัย มีศูนย์นวัตกรรมอาหาร อุทยานวิทยาศาสตร์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการเกษตร ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ อยู่แล้วที่มาร่วมมือกันได้
2.กลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ มีมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นแม่ข่าย เป็นกลุ่มที่สามารถสร้างมูลค่าได้สูงมาก และบุคลากรของไทยมีก็ศักยภาพมาก แต่ยังขาดนโยบายด้านการพัฒนาที่ชัดเจน หากจะมุ่งเน้นด้านนี้อย่างจริงจัง ต้องมีการลงทุนในหลายด้าน แต่ผลที่ได้กลับมาจะมีมูลค่ามหาศาลเช่นกัน 3.กลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และระบบเครื่องกลที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม มีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าธนบุรี เป็นแม่ข่าย แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือหุ่นยนต์บริการ ที่สามารถสร้างมูลค่าได้สูง ได้แก่ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติด้านการแพทย์ การศึกษา ด้านการเกษตร และหุ่นยนต์ช่วยเหลือผู้สูงอายุและให้บริการสังคม และหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมที่ยังสามารถต่อยอด และส่งเสริมกลุ่มอื่นได้อีกด้วย แต่รัฐบาลควรมีหน่วยงานกลางในการตรวจสอบมาตรฐาน และภาคอุตสาหกรรมก็ควรมีความชัดเจนว่าต้องการเพิ่มศักยภาพในด้านใด
4.กลุ่มดิจิตอล เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อและบังคับอุปกรณ์ต่างๆ ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีสมองกลฝังตัว มีสถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นแม่ข่าย ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อและบังคับอุปกรณ์ต่างๆ (Internet of Things หรือ IoT) เพื่อพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการเกษตร สุขภาพ และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังต้องเสริมด้านคลังสมบัติด้านข้อมูล (Big Data Analysis) เพราะเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนา อีกทั้ง สามารถใช้เทคโนโลยีในกลุ่มนี้ ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมอื่น ได้แก่ สมาร์ท ซิตี้ ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวตั้งแต่การค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว การจองที่พัก ไปจนถึงการวิเคราะห์ความ ต้องการของผู้บริโภค หรือสมาร์ท ฟาร์ม ที่สามารถใช้ IoT ในการจัดเก็บข้อมูลและรายละเอียดในการผลิตพืชผล ไปจนถึงการวางจำหน่ายในตลาด หรือ“Wellness and Medical IoT Service” ที่ช่วยให้บริการทางสุขภาพอย่างต่อเนื่องครบวงจร ตลอด 24 ชั่วโมง
5.กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรมและบริการที่มีมูลค่าสูง มีมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นแม่ข่ายกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับทั้ง 4 กลุ่มด้านบนและสามารถต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกมาก โครงการต่างๆที่จะมาส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้มีหลากหลาย.