นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินจะขออนุมัติจากกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาให้ธนาคารออมสินสามารถไปเปิดสำนักงานสาขาในต่างประเทศที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทย กลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) เพราะปัจจุบันการค้าชายแดนมีความคึกคักเป็นอย่างมาก ถือเป็นโอกาสที่ดีหากจะเปิดสาขาในกลุ่ม CLMV เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ทั้งที่เป็นคนไทยและคนต่างชาติ เพราะในปัจจุบัน การค้าชายแดนมีทั้งพ่อค้าแม่ค้าคนไทยและชาวต่างเดินทางเข้า-ออกเพื่อซื้อขายสินค้าและลงทุน โดยเฉพาะเอสเอ็มอีของคนไทยที่ไปลงทุนประเทศเพื่อนบ้าน หากต้องการเงินทุนสนับสนุนก็สามารถขอกู้เงินได้ทันที และธนาคารออมสินก็จะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการโอนเงินของแรงงานต่างชาติ

ทั้งนี้ ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ธนาคารออมสินจะเน้นการเพิ่มรายได้ของกิจการ โดยเฉพาะรายได้จากค่าธรรมเนียมต่างๆให้อยู่ที่ระดับ 8% ของรายได้ทั้งหมด จากปัจจุบันมีรายได้ ค่าธรรมเนียมเพียง 5% เท่านั้น โดยจะเพิ่มรายได้จากให้การบริการบัตรเครดิต ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดมียอดผู้ถือบัตร 10,922 ใบ บัตรเอทีเอ็มและเดบิต ปัจจุบันมีจำนวน 6 ล้านใบ และตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านใบ

นายชาติชายกล่าวว่า ธนาคารออมสินจะใช้เงินลงทุนอีก 3,000 ล้านบาท เพื่อติดเครื่องชำระเงินอัตโนมัติ (อีดีซี) ให้กับสาขาทั่วประเทศ 1,000 แห่ง เพื่อรับรองการเปิดตัวโครงการชำระเงินระบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการของกระทรวงการคลัง ที่จะเริ่มในกลางปีนี้ เพื่อให้สาขาของธนาคารมีเครื่องอีดีซีที่สามารถรองรับ ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้.