“ฮ่องกง-เกาลูน” ไปกี่ครั้งก็ (ยัง) ไม่เบื่อ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/606083

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 16 เม.ย. 2559 05:01

 

บรรยากาศที่รีพัลส์ เบย์.

ยุคสมัยที่ค่าเครื่องบินแพงกว่ารถทัวร์ไม่มาก แถมถ้าซื้อผ่านระบบอินเตอร์เน็ตไว้ก่อน แบบกำหนดวันเดินทางแน่นอนในช่วงโปรโมชั่น ก็อาจจะได้ราคาถูกแบบเหลือเชื่อ เพราะ ฉะนั้น ในยุคนี้อย่าว่าแต่ในประเทศเลย แม้แต่ต่างประเทศ คนกระเป๋าเบาๆ เก็บเงินไม่นานก็ออกไปท่องโลกได้ตามใจแล้ว

เมื่อเร็วๆนี้ คุณเด่น ยุทธศักดิ์ ศิริรักษ์ ผอ.ฝ่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัยการเดินทาง Tune Protect Travel ร่วมกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย ชวนสื่อมวลชนคนคุ้นเคย 10 กว่าชีวิต บินลัดฟ้าสู่ฮ่องกง-เกาลูน ในชื่อทริป “อันซีนฮ่องกง” อาจจะดูเหลือเชื่อไปสักนิด ก็ฮ่องกงน่ะ คนไทยไปจนปรุแล้ว จะมีตรงไหนอันซีนได้อีก แต่เอาเข้าจริงๆสิ่งที่เราคิดว่าเคยเห็นอาจจะเห็นไม่จริงก็ได้ นี่ถือว่าเข้าทางอันซีนได้เหมือนกัน…

ทันทีที่เครื่องบินลำใหญ่ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ที่ FD 508 ลดระดับลงสู่ท่าอากาศยานเชค แลป ก๊อก พวกเราเริ่มทำตามคำสั่งของกัปตัน คือ นั่งรัดเข็มขัดอยู่กับที่ เก็บโต๊ะหน้าที่นั่งในระดับตรง และเปิดม่านหน้าต่าง…แค่อึดใจ เครื่องบินลำใหญ่ก็เปิดล้อทิ้งตัวลงสู่รันเวย์อย่างนิ่มนวล…

กระเช้าลอยฟ้าที่นองปิง.

ใช้เวลาไม่นานในการผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง เราก็ออกตะลุยเที่ยวฮ่องกงกันเลย…งานนี้ Tune ประกันภัย ส่งน้องๆสาวๆหนุ่มๆตามประกบดูแล พร้อม คุณวินนี่…บุษกร ห่อ มัคคุเทศก์ไทยที่ไปเสียดุลการค้าให้คนฮ่องกง…อันนี้แอบเม้าท์ ก็พาพวกเราขึ้นรถบัสมุ่งหน้าสู่เมืองตุงซุง เพื่อนั่งกระเช้าลอยฟ้า ชมทัศนียภาพจากเบื้องบนลงไปยังความเวิ้งว้างของทะเลจีนใต้และผืนดินทิวเขาแมกไม้ที่ถูกจัดสรรให้ลดหลั่นกันอย่างเป็นธรรมชาติ ไปยังหมู่บ้านนองปิง บนเกาะลันเตา ระยะทางราว 5.7 กิโลเมตร

25 นาที จากกลางเมืองตุงซุงเราก็มาถึงหมู่บ้านนองปิง จากนั้นเดินเท้าต่อไปยัง วัดโปหลิน หรือ วัดพระใหญ่ลันเตา เพื่อกราบนมัสการองค์พระใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่เหนือยอดเขา

องค์พระใหญ่ลันเตานี้ สร้างด้วยทองสัมฤทธิ์ โดยคณะสงฆ์แห่งวัดโปหลิน หนัก 250 ตัน สูง 34 เมตร ดูงดงาม สงบ องค์พระประทับนั่งอยู่บนฐานกลีบบัว ยกพระหัตถ์ขวาและแบพระหัตถ์ด้านซ้ายไว้บนตัก พระเนตรจ้องมองลงมา เหมือนว่ากำลังประทานพรแก่ผู้ที่มากราบไหว้

มีคนบอกว่า ถ้าอยากให้ศักดิ์สิทธิ์ระหว่างทางเดินขึ้นให้ทำสมาธินับขั้นบันไดซึ่งมีอยู่ 268 ขั้นจากตีนเขาสู่ยอดเขา แล้วอธิษฐานขอพรจะสมหวังตามที่ขอ นอกจากองค์พระใหญ่แล้ว บนยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเกาะฮ่องกงได้แบบพาโนรามา 360 องศา เรียกว่าเป็นการมองฮ่องกงแบบเบิร์ด อาย วิว กันเลยทีเดียว

เย็นวันแรก ต้อนรับสู่ฮ่องกงด้วยอาหารค่ำแบบซีฟู้ด ที่หมู่บ้านชาวประมง ลียุนมุน ก่อนเข้าพักที่ฝั่งเกาลูน เตรียมพร้อมเพื่อตะลุยฮ่องกงต่อในวันรุ่งขึ้น

คณะสื่อมวลชนถ่ายรูปที่หน้าองค์พระใหญ่ลันเตา.

โปรแกรมวันที่สองในฮ่องกง Tune ประกันภัย พาคณะของพวกเราไปยังตำบลซ่าถิ่น ชานเมืองฮ่องกง เป้าหมายแรกของการเดินทางวันนี้ คือ วัดแชกงหมิว หรือวัดกังหันนำโชค เป็นวัดเก่าแก่ของฮ่องกง ที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง กว่า 400 ปีมาแล้ว มีรูปปั้น เจ้าพ่อแชก๊ง และดาบไร้พ่ายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำวัด เชื่อกันว่า ถ้าอยากรวย ค้าขายมีกำไร ต้องมาขอพรที่นี่ เพราะศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องการขอโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง

ตามตำนานเล่าว่า ปลายราชวงศ์ชิง แผ่นดินจีนลุกเป็นไฟ มีการก่อกบฏ แข็งเมืองค่อนประเทศ แต่มีนายทหารชาตินักรบคนหนึ่ง ชื่อว่า “ขุนพลแชก๊ง” ซึ่งเก่งกาจสามารถยกทัพไปปราบกบฏจนราบคาบทั่วประเทศ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นนักรบที่ไม่เคยพ่ายแพ้ ส่วนดาบประจำกาย เรียกว่า “ดาบไร้พ่าย” ที่ชาวจีนในรุ่นต่อมาได้ยึดถือเป็นสิริมงคลในด้านการต่อสู้และฮวงจุ้ย

ถึงขนาดที่ธนาคารแบงก์ออฟไชน่า ได้จำลองดาบไร้พ่ายไปเป็นแบบสร้างอาคารสำนักงานใหญ่ เรียกว่าตึกใบมีด ซึ่งเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเกาะฮ่องกง

เทพแชก๊ง….เทพเจ้าแห่งโชคลาภที่วัดแชกงหมิว.

อีกอย่างที่คนส่วนใหญ่ที่มาไหว้เทพแชก๊งขอพรที่วัดแชกงหมิวแล้วไม่ลืมที่จะเช่าบูชา ติดไม้ติดมือกลับไปด้วย ก็คือ “กังหันนำโชค” ซึ่งเป็นจี้อันเล็กๆ เชื่อกันว่าถ้าใครแขวนกังหันนำโชคไว้กับตัว ก็จะหมุนเงินหมุนทองเข้ามาใส่ในกระเป๋าได้ง่าย และหมุนเอาความไม่ดี ความโชคร้ายออกไปจากตัวด้วย

วัดหวังต้าเซียน.

ไหว้เทพขอโชคลาภกันแล้ว ถ้ามีโชคลาภแต่เจ็บป่วยก็คงไม่ดีแน่ ว่าแล้วก็ไปต่อกันที่ วัดหวังต้าเซียน วัดที่มีผู้คนมากราบไหว้ขอพรขอให้มีสุขภาพแข็งแรง เป็นหนึ่งในวัดที่โด่งดังที่สุดของฮ่องกง นอกจากเรื่องสุขภาพแล้ว วัดหวังต้าเซียนยังมีผู้คนมาขอพรในเรื่องของความรักด้วย

จึงไม่แปลกที่จะเห็นผู้คนตั้งแต่วัยหนุ่มสาวไปจนถึงคนรุ่นอาม่า อากง มาขอพรที่วัดแห่งนี้ แม้จะยืนไหว้ที่เดียวกัน แต่ขอในเรื่องต่างกันแน่นอน…

โรงแรมริตส์ คาร์ตัน ฮ่องกง ..โรงแรมที่สูงที่สุดในโลก.

ตกบ่ายแวะไปจิบกาแฟกันในย่านเก่าแก่ของฮ่องกง ที่ฮอลลีวูด สตรีท เป็นย่านเก่าแก่ที่เคยเป็นฉากดังของหนังหลายเรื่อง อย่างเช่น Rush Hour คนฮ่องกงเคยคุยโม้นิดๆให้ฟังว่า จริงๆแล้วคำว่า Hollywood นั้น ที่ฮ่องกงเรียกชื่อนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1844 ก่อนที่อเมริกาจะมีฮอลลีวูดเสียอีก เหตุผลเพราะว่าย่านนี้ มีต้น Holly เยอะมาก ก็เลยเรียกว่า Hollywood ง่ายๆสั้นๆแบบนี้ละ

ทั้งถนนเป็นร้านกาแฟ ร้านขายของแนวชิคๆ ดีไซน์เก๋ๆ แค่เดินดูก็เพลินตา เพลินใจแล้ว….

บรรยากาศภายในโอโซนบาร์.

ตกค่ำวันนี้ ทีมงานจะพาเราไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับ OZONE BAR บาร์ที่อยู่สูงที่สุดบนเกาะฮ่องกง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของคนที่พอมีอันจะกิน เป็นบาร์กินดื่มแบบเบาๆบนชั้น 118 ของโรงแรมริตซ์ คาร์ลตัน บริการหรูอย่างมีระดับ แอบเปิดดูเมนู แค่เบียร์ขวดเล็กๆก็ดริงก์ละ 120-150 เหรียญฮ่องกง หรือประมาณ 500-700 บาทไทย ตามแต่ชนิดของเบียร์ และถ้าจะนั่งโซฟาด้านนอกที่สามารถชมวิวแบบ 360 องศาของเกาะฮ่องกง พร้อมรับลมเย็นๆแล้วล่ะก็ ต้องจ่ายค่าที่นั่งเพิ่มอีกประมาณ 1,000 เหรียญฮ่องกง หรือราว 4,700 บาทไทยต่อโซฟา 1 ชุด ที่นั่งได้ประมาณ 4 คน…สมกับเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสิงคโปร์และซูริก

แพงขนาดนี้ สำหรับเรา ขอแค่เคยไปก็พอละ… ถือว่าครั้งหนึ่งในชีวิต…!!

เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่รีพัลส์ เบย์.

บอกลาฮ่องกงวันสุดท้ายกันที่ วิคตอเรียพีค และรีพัลส์เบย์ อ่าวที่เต็มไปด้วยเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อของคนฮ่องกง ทั้ง พระสังกัจจายน์ เจ้าสมุทร พระกาฬ เทพแห่งวาสนา เทพแห่งดวงชะตา เทพเจ้าแห่งโชคลาภ และเจ้าแม่กวนอิมพระโพธิสัตว์ที่เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวจีน

ก่อนที่เครื่องบินของไทยแอร์เอเชียที่ FD505 จะพาเรากลับเมืองไทยอย่างปลอดภัยแถมอุ่นใจกับ Tune ประกันภัยตลอดการเดินทาง…!!

Leave a comment