ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05061151258&srcday=2015-12-15&search=no
| วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 28 ฉบับที่ 613 |
ผักในบ้านของคนขี้เกียจ
เชตวัน เตือประโคน
“กวางตุ้งต้มจับฉ่าย” กับข้าวต้มร้อนๆ ล้ำขนาด!
“โอ้โฮ…ผักงามจัง กินไม่ทันนะเนี่ย…”
เสียงของหญิงวัยกลางคน ผู้ดำรงสถานะเป็นแม่ยายของผมเอ่ยขึ้น หลังจากที่แกเดินทางมาจากจังหวัดเชียงราย เพื่อเยี่ยมเยือนลูกถึงเมืองกรุง และจะถือโอกาสนี้มาเที่ยวชมงาน “เกษตรมหัศจรรย์ วันเส้นทางเศรษฐี” ที่เพิ่งผ่านพ้นไปนั่นเอง
เมื่อเปิดประตูรั้วบ้านเข้าไปแล้วได้เผชิญหน้ากับแปลงผัก เหมือนแม่จะมีความสุข
“กวางตุ้ง” ขนาดอวบเหมาะ สีเขียวอ่อนเหล่านั้นเรียงเป็นแถวเป็นแนวอย่างมีระเบียบ
ทั้งหมดเกิดจากการปลูกแบบเพาะกล้า แล้วย้ายต้นอ่อนมาลงในแปลงนั่นเอง
“เดี๋ยวพรุ่งนี้จะทำต้มจับฉ่ายให้กิน…” แม่เสนอไอเดีย
เคยมีประสบการณ์มาแล้วเมื่อครั้งกระโน้น หากแต่ตอนนั้นเป็นผักกาดขาว
ด้วยความที่เริ่มปลูกผักในช่วงแรกๆ คิดคำนวณแน่ๆ ยังไม่ได้ว่าควรจะปลูกขนาดไหน แบบไหน ถึงจะเหมาะสมกับวิถีชีวิตมนุษย์คนเมืองที่ไม่ค่อยได้อยู่กินข้าวที่บ้าน อีกทั้งยังมีกันอยู่แค่เพียง 2 คน เท่านั้น
กินทันหรือไม่ อย่างไรไม่รู้-ปลูกไว้ก่อน
หว่านเมล็ดเพาะกล้า ต้นพอเหมาะปุ๊บ ก็เริ่มย้ายปลูกในแปลง รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ยน้ำหมักป้องกันโรคแมลงตามปกติ ผักในแปลงโตอย่างรวดเร็วก่อนจะปรากฏว่ากินกันไม่ทัน
จิ้มน้ำพริกก็แล้ว ต้ม-ผัด ก็แล้ว แบ่งให้เพื่อนบ้านก็แล้ว ยังไม่หมดเสียที
ต้นเริ่มแก่ ใบเริ่มเหลืองเหี่ยว เตรียมทิ้งอยู่รอมร่อ หากวันหนึ่งแม่และพ่อไม่มาทำธุระในกรุงเทพฯ กระทั่งเกิดปรากฏการณ์แห่งต้มจับฉ่าย
ติดใจจนเอ่ยปากชม
ครั้งนี้จึงไม่พูดพร่ำทำเพลง เห็น “กวางตุ้ง” มากมายเรียงรายในแปลง ไอเดียต้มจับฉ่ายของแม่ก็ผุดวาบขึ้นมาในฉับพลัน
แต่สำหรับอาหารรายการอื่นก่อนนั้น อาทิ กินสดกับน้ำพริก หรือ กวางตุ้งผัดน้ำมันหอย ผมเคยมีโอกาสได้ทำกินเองมาก่อนหน้าแล้ว
…
ไม่ต้องมีเสียงไก่ขัน หรือเสียงนาฬิกาปลุก
วันไหนที่แม่มาเยี่ยมที่บ้าน รับประกันได้เลยว่าคนแรกที่จะลุกตื่นขึ้นมาก็คือแก
ครั้งนี้เช่นกัน ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ที่แม่ตื่นขึ้นมาทำภารกิจแม่บ้าน รู้แต่เพียงว่า ราว 07.00 น. เมื่อผมผลักประตูห้องนอนออกมาก็ได้พบว่า บ้านที่ตนเองอาศัยอยู่นั้นสะอาดเอี่ยม ข้าวของซึ่งเคยระเกะระกะถูกจัดเก็บเป็นที่เป็นทาง
ลงจากบ้าน เดินไปที่แปลงผัก ตั้งใจจะรดน้ำต้นไม้อันเป็นกิจวัตรประจำวัน
แต่ภาพตรงหน้าที่ปรากฏคือ แปลงผักกวางตุ้งโดนเก็บเรียบ (เหลือเพียงโคนต้นติดพื้น และใบแก่เหลืองๆ หงอยๆ ที่เรียดอยู่กับดิน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยคลุมด้วยผักใบเขียว)
“แม่ตัดกวางตุ้งไว้เรียบร้อยแล้ว…เดี๋ยวเย็นนี้ กลับมา เรามาทำต้มจับฉ่ายกินกัน” ว่าพลางโชว์ผักงามๆ เต็มกะละมังให้ผมดู ซึ่งตอนแรกก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นักหรอกว่า ทำไมต้องใช้ปริมาณผักเยอะขนาดนี้ ทั้งบ้านมีกันอยู่ 3 คน จะกินได้เยอะแค่ไหน
ย้อนคิดถึงแรกเริ่มเมื่อคราวปลูกกวางตุ้ง…
จำได้แม่นยำว่า เมล็ดพันธุ์ที่ใช้นั้นก็ได้รับแจกฟรีมาจากงาน “เกษตรมหัศจรรย์” นี่แหละ เวียนมาบรรจบปีแล้ว มีโอกาสได้กินกวางตุ้งที่ปลูกเอง 1-2 ครั้ง ไปเดินเที่ยวงานในปีนี้ ก็ได้รับแจกมาอีกเช่นเคย (พร้อมกับผักอื่นๆ อีกมากมาย)
สำหรับวิธีการปลูก แน่นอนว่าขั้นแรกคือ การเตรียมดิน พรวนดินให้ร่วนซุย ที่สำคัญคือต้องระบายน้ำได้ดี
การปลูก ทำได้ 2 แบบ นั่นคือ 1. หว่านไปทั่วแปลง เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด วิธีนี้ ผักที่ขึ้นจะสะเปะสะปะ กระจัดกระจาย ตรงไหนกวางตุ้งขึ้นเนืองแน่นก็ถอนต้นเล็กๆ ทิ้งไปเสีย กับ 2. โรยเป็นแถว โดยใช้ไม้ ขีดเป็นร่องลึก ประมาณ 1-2 เซนติเมตร โรยเมล็ดลงไป ขีดร่องถัดไปให้ห่าง ประมาณ 1 ศอก พอใจกี่แถวก็แล้วแต่ เสร็จแล้วให้โรยดินกลบ
ด้วยความที่ กวางตุ้ง เป็นผักชอบน้ำ เพื่อความชุ่มชื้น ทั้ง 2 วิธีปลูก ควรโรยด้วยหญ้าหรือฟาง รดน้ำให้ชุ่มเช้า-เย็น เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการปลูก
แต่ถ้าจะแหกกฎ 2 แบบนี้ มาย้ายกล้าอย่างที่ผมทำก็ไม่ว่ากันครับ ปลูกแล้วนับวันได้เลย 1 เดือนครึ่ง ก็จะได้ผักกวางตุ้งงามๆ มาทำอาหารกินได้
กวางตุ้ง เป็นผักที่นิยมนำมาปรุงอาหารหลายประเภท โดยเฉพาะเมนูผัดและต้ม
ผมคุ้นเคยกับผักชนิดนี้มาจากอาหารอย่าง “บะหมี่หมูแดง” หรือ “ก๋วยเตี๋ยว” ทั่วๆ ไปก็จะมีกวางตุ้งอยู่ด้วยเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งในอาหารจีน บนโต๊ะจีนที่ใช้ตะเกียบคีบกับข้าวและคุ้ยข้าวกินนั้น ไม่มีทางเลยที่จะพลาดผักชนิดนี้-ไม่รายการใด ก็รายการหนึ่ง
อ้อ! ถ้ามีคนแนะนำอาหาร ว่า “ผัดผักกาดฮ่องเต้” ให้เข้าใจได้เลยนะครับ ว่ารายการอาหารนั้นก็คือ “ผักกวางตุ้งผัดน้ำมันหอย” นั่นเอง เพราะผักชนิดนี้ยังมีชื่อเรียกอีกหลากหลาย ผักกาดเขียวกวางตุ้ง (เรียกทั่วๆ ไป) ผักกาดฮ่องเต้ ผักกวางตุ้งฮ่องเต้ กวางตุ้งไต้หวัน ฯลฯ
ด้วยความเป็นที่นิยมกิน แน่นอนความนิยมปลูกย่อมต้องแพร่หลาย
ในแวดวงคนเดินตลาดสดจะรู้กันดีว่า กวางตุ้งที่ขายนั้น ส่วนใหญ่มักมาจากแปลงใหญ่ๆ ปลูกกันเป็นพืชเศรษฐกิจ แน่นอนว่ายาฆ่าแมลงที่ใช้ย่อมต้องมีตกค้างอยู่บ้าง
เพื่อความแน่ใจ ถ้าจะซื้อกินเองควรต้องล้างทำความสะอาดกันยกใหญ่
ไม่ว่าจะแช่น้ำเกลือ แช่น้ำส้มสายชู หรือปล่อยน้ำก๊อกผ่านยาวนานถึง 2 นาที ดังที่พ่อครัวแม่ครัวรู้กันดี
แต่จะให้ดีที่สุด เอาที่สบายใจสุดๆ เห็นควรว่าน่าจะปลูกกินเอง
…
หลังจากจบงาน “เกษตรมหัศจรรย์ วันเส้นทางเศรษฐี”
ผมได้รับมอบหมายจากแม่ให้ไปหาซื้อซี่โครงหมู กระดูกหมู และก้อนปรุงรส สำหรับกลับไปทำอาหารอย่าง “กวางตุ้งต้มจับฉ่าย”
“ชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวบ้าน ไปกินข้าวที่บ้านกันนะเย็นนี้…” แม่ว่า ขณะที่ผมกำลังจะไปซื้อของ
นี่เอง เป็นเหตุผลที่แม่เก็บผักกวางตุ้งเรียบหมดทั้งแปลง (อีกเหตุผลคือ ต้มจับฉ่าย สามารถเก็บไว้กินได้นานหลายวัน)
ไม่รอช้า ในฐานะคนชอบสังสรรค์อยู่แล้ว แม่เปิดทางให้อย่างนี้ ผมก็รีบแจ้งเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่สนิทกัน ชวนมากินอาหารฝีมือแม่
อิ่มหมีพีมัน สังสรรค์สนุกสนานกันแล้วก็หลับนอนที่บ้านในค่ำคืนนั้น
ก่อนที่รุ่งเช้า “กวางตุ้งต้มจับฉ่าย” หม้อเดิมก็ถูกนำไปตั้งเตาอุ่นไฟอีกครั้ง
แต่แทนที่จะนำมากินกับข้าวสวยเหมือนเดิม มื้อเช้า แม่ได้ทำข้าวต้มหอมฟุ้งไว้สำหรับรอต้อนรับลูกและเพื่อนๆ ของลูก
ผมขอเติมข้าวต้มชามแล้วชามเล่า
ไม่น่าเชื่อว่า “กวางตุ้งต้มจับฉ่าย” จะกินกับข้าวต้มร้อนๆ แล้ว “ล้ำขนาด”