ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05030151258&srcday=2015-12-15&search=no
| วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 28 ฉบับที่ 613 |
ไม้ดอกไม้ประดับ
ผศ. วรรณา กัลยาณะวงศ์ ณ อยุธยา
สะเดา
สะเดา เป็นพันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลแก่จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งมีคำขวัญประจำจังหวัด คือ อุทัยธานี เมืองพระชนกจักรี ปลาแรดรสดี ประเพณีเทโว ส้มโอบ้านน้ำตก มรดกโลกห้วยขาแข้ง แหล่งต้นน้ำสะแกกรัง ตลาดนัดดัง โค กระบือ แต่ละท่อนของคำขวัญ มีความหมายดังนี้ คือ
อุทัยธานี เมืองพระชนกจักรี สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก พระชนกในรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี มีพระนามเดิมว่า ทองดี เกิดที่บ้านสะแกกรัง เมืองอุทัยธานี หรือ จังหวัดอุทัยธานีในปัจจุบัน ต่อมาย้ายไปรับราชการที่กรุงศรีอยุธยา และสมรสกับหญิงสาวชาวจีน ชื่อ หยก มีบุตรธิดา รวม 5 คน บุตรชาย คนที่ 4 ชื่อ “ทองด้วง” ภายหลังได้สถาปนาเป็น “พระเจ้าแผ่นดิน” หรือพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และบุตรชาย คนที่ 5 ชื่อ บุญมา ต่อมาได้เป็นสมเด็จกรมพระยาบวรมหาสุรสิงหนาท
ปลาแรดรสดี ปลาแรดที่เลี้ยงในกระชัง ในแม่น้ำสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี เป็นปลาแรดที่อร่อยที่สุดในประเทศ เพราะเนื้อแน่น นุ่ม หวาน และไม่มีกลิ่นโคลน ปัจจุบัน มีการเลี้ยงปลาแรดทั้งในกระชังในแม่น้ำสะแกกรัง และเลี้ยงในบ่อดิน แต่ปลาแรดที่เลี้ยงในกระชังจะมีราคาแพงกว่าปลาแรดที่เลี้ยงในบ่อดิน เนื่องจากเป็นที่นิยมของผู้บริโภคมากกว่า
ประเพณีเทโว ประเพณีตักบาตรเทโว หรือวันพระเจ้าเปิดโลก ที่วัดสังกัสรัตนคีรี บริเวณเขาสะแกกรัง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี เป็นประเพณีสำคัญในวันออกพรรษาของชาวอุทัยธานีและจังหวัดใกล้เคียง จัดขึ้นในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี การตักบาตรเทโวเป็นภาพจำลองดั่งครั้งพุทธกาล พระสงฆ์ทุกรูปที่จำพรรษาในเขตอำเภอเมือง จะออกรับบิณฑบาต โดยมีประชาชนรอตักบาตรข้าวสารและข้าวต้มลูกโยนอยู่เชิงบันได บริเวณลานวัดสังกัสรัตนคีรี
ส้มโอบ้านน้ำตก บ้านน้ำตก หมู่ที่ 1 ตำบลสะแกกรัง อำเภอเมือง เป็นแหล่งปลูกส้มโอพันธุ์ขาวอุทัย ส้มโอพันธุ์พื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของจังหวัด มีรสชาติดี เนื้อละเอียดแบบเนื้อกุ้ง นิ่ม และแห้ง ทั้งยังมีเปลือกบางและเมล็ดน้อย เคยมีการปลูกส้มโอพันธุ์ขาวอุทัยกันมากที่บ้านน้ำตก เนื่องจากมีพื้นที่ติดแม่น้ำสะแกกรังและดินอุดมสมบูรณ์ แต่ปัจจุบันมีการปลูกน้อยลง เพราะทุก 7-8 ปี แม่น้ำสะแกกรังจะเอ่อล้นท่วมใหญ่ครั้งหนึ่ง และกินเวลานานเป็นเดือนๆ ทำให้ส้มโอล้มตายหมด
มรดกโลกห้วยขาแข้ง เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของประเทศไทย เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่กว้างใหญ่ที่สุดของประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าตะวันตก ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ครอบคลุมพื้นที่ อำเภอลานสัก อำเภอห้วยคต อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี และ อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารหลายสาย รวมทั้งมีความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์นานาชนิด ภายในมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ อนุสรณ์สถาน สืบ นาคะเสถียร
แหล่งต้นน้ำสะแกกรัง แม่น้ำสะแกกรัง มีต้นกำเนิดจากยอดเขาโมโจกู ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชร มีชื่อเรียกต่างกันตามท้องถิ่นที่แม่น้ำไหลผ่าน เช่น คลองแม่เร่-แม่วงก์ แม่น้ำตากแดด ส่วนที่เรียกว่าแม่น้ำสะแกกรัง เริ่มจากตอนปลายของแม่น้ำตากแดดที่ไหลมาบรรจบกับปากคลองขุมทรัพย์ หรือปากคลองอีเติ่ง ที่บ้านจักษา อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี และไหลผ่านตัวเมืองอุทัยธานี ไปบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อำเภอมโนรมย์ เหตุที่ได้ชื่อว่าแม่น้ำสะแกกรัง เพราะกลางหมู่บ้านที่แม่น้ำไหลผ่านมีต้นสะแกใหญ่ต้นหนึ่ง จึงได้ชื่อว่า บ้านสะแกกลาง และกลายเป็นสะแกกรังในที่สุด
ตลาดนัดดัง โค กระบือ เป็นตลาดนัดซื้อ-ขาย วัว-ควาย ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ อยู่ที่อำเภอทัพทัน มีการซื้อ-ขาย เฉพาะวันพุธและวันอาทิตย์เท่านั้น ในแต่ละนัดมีพ่อค้า แม่ค้า จำนวนมาก ขับรถขนวัว-ควายมาขายกันตั้งแต่เช้ามืดไปจนถึงเวลาประมาณ 11 โมงเช้า เมื่อซื้อ-ขายกันแล้ว หากต้องเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด ก็ต้องพาวัว-ควายไปตรวจโรคกับปศุสัตว์จังหวัด ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ด้านข้างตลาดนัด ชาวอุทัยธานีมีความภาคภูมิใจกับสิ่งต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นเป็นอันมาก แต่ก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดความภาคภูมิใจไม่น้อยเช่นเดียวกัน สิ่งนั้นก็คือ “ต้นสะเดา” ซึ่งเป็นต้นไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลแก่จังหวัดอุทัยธานี ต่อไปนี้คือรายละเอียดเกี่ยวกับต้นสะเดา
ชื่ออื่น : สะเลียม (ภาคเหนือ) กะเดา (ภาคใต้) จะตัง สะเดาบ้าน เดา ไม้เดา กาเดา ควินิน
ชื่อสามัญ : Siamese neem tree, Nim, Margosa, Quinine, Holy tree, Indian Margosa tree
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Azadirachta indica A. Juss. var. siamensis Valeton
ชื่อวงศ์ : MELIACEAE
ถิ่นกำเนิด : พบขึ้นได้ทั่วไปตามป่าแล้งในประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า ปากีสถาน ศรีลังกา และประเทศไทย
ข้อมูลทั่วไป :
ถ้าจะถามว่า ผักรสขม มีอะไรบ้าง ชื่อแรกที่แทบทุกคนจะนึกถึงคือ “สะเดา” ทุกคนรู้จักคุ้นเคยกับสะเดาเป็นอย่างดี และถือว่าเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง ดังนั้น สะเดาเทียมหรือสะเดาช้าง จึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นพันธุ์ไม้ประจำจังหวัดสงขลา และสะเดา หรือสะเดาไทยที่กำลังพูดถึงกันในขณะนี้ พันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลแก่จังหวัดอุทัยธานี
สะเดา เป็นพืชผักที่มีรสขมอันแสนเป็นเอกลักษณ์ แต่ในขณะเดียวกัน สะเดาก็เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ที่มากล้นด้วยเช่นกัน คือรวมทุกสิ่งพร้อมเสร็จสรรพในต้น เป็นทั้งสมุนไพร อาหาร และเป็นไม้ใช้สอย ทำที่อยู่อาศัย ถ้าสะเดา อายุ 20 ปี เนื้อไม้จะแกร่งเหมือนไม้แดง ไม้ประดู่ แก่นมีสีสวย ใช้ทำไม้พื้น ทำเฟอร์นิเจอร์ มอดไม่กิน และคุณสมบัติเด่นอีกประการหนึ่งคือ เป็นแปรงและยาสีฟันอย่างดี
สะเดา ปลูกง่าย โตเร็ว ทนต่อสภาพแห้งแล้งได้ดี โดยทั่วไปสะเดาแบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ สะเดาอินเดีย สะเดาไทย และสะเดาช้าง แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในด้านลักษณะทางกายภาพ แต่โดยภาพรวมแล้ว ไม่ว่าจะกินชนิดไหน ก็คงได้รับคุณประโยชน์อย่างท่วมท้นไม่แตกต่างกัน
สะเดา ถือเป็นพืชสมุนไพรที่เด่นในเรื่องของการไล่แมลง ทำยาฆ่าแมลง หรือสารเคมีไล่แมลง ส่วนใหญ่ต้องมีสะเดาเป็นส่วนประกอบด้วยเสมอ ใบ และเมล็ดของสะเดามาสกัดกับแอลกอฮอล์และน้ำ จะได้สารสกัดที่เรียกว่า อะซาดิแรคติน (Azadirachtin) ซึ่งเป็นสารที่ปลอดภัยต่อมนุษย์ และมีคุณสมบัติไล่แมลง ทำให้แมลงไม่ชอบกินอาหาร ยับยั้งการเจริญเติบโตของแมลง ทำให้หนอนไม่ลอกคราบ หนอนตายในระยะลอกคราบ
สะเดา ประโยชน์เหลือหลายจริงๆ ปลูกไว้ในบริเวณบ้านแค่ต้นเดียว รับรองว่าได้ประโยชน์คุ้ม
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ลำต้น เป็นไม้ยืนต้น สูง 5-10 เมตร เปลือกต้นแตกเป็นร่องลึกตามยาว ยอดอ่อนสีน้ำตาลแดง สะเดาของไทยใบจะโตกว่าสะเดาอินเดียเล็กน้อย
ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับรูปใบหอก โคนใบมนไม่เท่ากัน ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย แผ่นใบเรียบ สีเขียวเป็นมัน
ดอก มีสีขาวนวล ดูโดดเด่นสะดุดตา ออกดอกเป็นช่อตามง่ามใบ กลีบดอกมี 5 กลีบ ลักษณะคล้ายช้อนแคบ มีกลิ่นหอม
ผล รูปทรงรี ผิวเรียบ ผลอ่อนสีเขียว สุกเป็นสีเหลืองส้ม มีเมล็ดเดียว รูปรี
การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด หรือขุดหน่อที่แตกจากรากไปปลูก
นิเวศวิทยา สำหรับในประเทศไทย จะมีเขตการกระจายพันธุ์อยู่ตามธรรมชาติ ตามป่าเบญจพรรณแล้ง และป่าแดงทั่วประเทศ
สรรพคุณทางสมุนไพร :
เปลือกต้น แก้ไข้ เจริญอาหาร แก้ท้องเดิน บิด มูกเลือด เปลือกต้น ใบ เป็นยาเจริญอาหาร ยาสมาน เป็นยารักษาโรคผิวหนัง กระพี้ แก้ถุงน้ำดีอักเสบ แก่น แก้อาเจียน ขับเสมหะ ยางจากเปลือกต้น เป็นยากระตุ้น ดับพิษร้อน
ใบ เป็นยาฟอกฝี ใบอ่อน และดอก เป็นยาช่วยเจริญอาหาร และช่วยย่อยอาหาร ก้านใบ แก้ไข้ ทำยารักษาไข้มาลาเรีย
ดอก ยอดอ่อน แก้พิษโลหิต กำเดา บำรุงธาตุ ขับลม
ผล ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ และยาระบาย แก้โรคหัวใจเดินผิดปกติ ผลอ่อน ใช้ถ่ายพยาธิ แก้ริดสีดวง และปัสสาวะพิการ
ราก แก้ลม เสมหะ ที่แน่นในทรวงอกและจุกคอ เปลือกราก เป็นยาฝาดสมาน แก้ไข้ ทำให้อาเจียน แก้โรคผิวหนัง น้ำมันจากเมล็ด ใช้รักษาโรคผิวหนังและยาฆ่าแมลง
ประโยชน์อื่น ยอดอ่อนและดอกอ่อน กินสดหรือลวกกินกับน้ำพริก ใบ และผล ใช้เป็นยาฆ่าแมลง ใบ นำไปหมักใช้ทำน้ำหมักพ่นไล่แมลง กิ่งอ่อน เคี้ยว ทำให้ฟันและเหงือกสะอาด แข็งแรง