ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05091011258&srcday=2015-12-01&search=no
| วันที่ 01 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 28 ฉบับที่ 612 |
สัมภาษณ์พิเศษ “สุรพงษ์ จำจด” เลขาธิการ กศน. คนใหม่ เจาะ “แผนงานเด่น กศน. ปี 59”
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์
กศน. ทั่วไทย
ในฉบับนี้ คุณพานิชย์ ยศปัญญา บรรณาธิการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน นำทีมผู้สื่อข่าวไปพูดคุยกับ “คุณสุรพงษ์ จำจด” เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เกี่ยวกับแผนงานและนโยบายต่างๆ ที่ กศน. นำมาใช้ในปี 2559 ซึ่งแต่ละประเด็นน่าสนใจติดตามอย่างยิ่ง โดยเฉพาะประเด็นการใช้ “กศน. ตำบล” เป็นกลไกขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติ นโยบายการจัด ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การเพิ่มมิติการศึกษาชายแดนใต้ รวมทั้งโครงการอบรมอาชีพ “ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์” อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ที่จังหวัดอุทัยธานี
ยุทธศาสตร์การทำงาน
ของ กศน. ใน ปี 2559
ยุทธศาสตร์แรก จะเน้นสร้างโอกาสความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการศึกษาอย่างมีคุณภาพ มีความรู้ ความสามารถ
ยุทธศาสตร์ที่สอง มุ่งสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ยุทธศาสตร์ที่สาม เป็นการจัดการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ทุกช่วงวัย
ยุทธศาสตร์ที่สี่ พัฒนาการศึกษาในเขตพิเศษชายแดนภาคใต้
ยุทธศาสตร์ที่ห้า พัฒนา กศน. ตำบล ให้เป็นกลไกการขับเคลื่อนนโยบายไปสู่ภาคการปฏิบัติใช้ เนื่องจาก กศน. ตำบล เป็นกลุ่มที่ทำงานใกล้ชิดชุมชนที่สุด สามารถขับgคลื่อนการทำงาน สร้างการเรียนรู้ให้แก่ชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลดความเหลื่อมล้ำ
ทางการศึกษา?
กศน. มุ่งลดจำนวนผู้ไม่รู้หนังสือ โดยจะขับเคลื่อนให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาอย่างมีคุณภาพ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับงานอาชีพพื้นฐาน เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ฯลฯ เพื่อให้พวกเขาสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่งเสริมการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ระบบโลจิสติกส์ ระบบไอที ฯลฯ เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก กศน. จะส่งเสริมให้ชาวบ้านนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาผสมผสานกับเทคโนโลยีใหม่ๆ นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อพัฒนาต่อยอดอาชีพเดิม เพิ่มพูนรายได้ สินค้ามีคุณภาพที่ดีขึ้น และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางการตลาดทั้งในประเทศ และส่งออก
เป้าหมายการสร้าง
อุดมการณ์รักชาติ
ประเทศไทย มีความเข้มแข็งได้ เพราะมีระบบสถาบันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ทำให้คนไทยอยู่ร่วมกันด้วยความสงบสุข กศน. จึงมุ่งส่งเสริมให้กับประชาชน เกิดความรัก ความภูมิใจ และเทิดทูนในระบบสถาบัน ทั้งนี้ กศน. จะเปิดโอกาสให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ ในลักษณะหมู่บ้านตามรอยพระยุคลบาท โดยมอบหมายให้ กศน. ตำบล กศน. อำเภอ และ กศน. จังหวัด ทุกแห่งไปสำรวจว่า ในท้องถิ่นของตัวเอง มีจุดใดบ้าง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯ มาทรงงานด้านการพัฒนาที่ดิน การพัฒนาระบบชลประทาน ฯลฯ เพื่อจะเผยแพร่พระกรณียกิจดังกล่าวให้ชาวบ้านได้รับรู้ และตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ได้พระราชทานโครงการพระราชดำริเพื่อประโยชน์สุขแก่ชุมชนท้องถิ่น และส่งเสริมให้ชาวบ้านน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต
นโยบายการจัด
การเรียนรู้ทุกช่วงวัย?
กศน. จะมุ่งสร้างโอกาสการเรียนรู้ของประชาชนในทุกช่วงวัยต่างๆ เช่น กลุ่มผู้สูงวัย เนื่องจากประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย จึงส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่ม ตั้งชมรมผู้สูงอายุ เพื่อทำกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน หรือออกกำลังกายร่วมกัน นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้สูงวัยจำนวนมาก ที่ยังมีศักยภาพในการทำงาน มีความรู้ ความสามารถเฉพาะด้าน จึงอยากดึงเข้ามาทำหน้าที่เป็นวิทยากรอบรมความรู้ให้แก่ นักศึกษา กศน. และชาวบ้านในลำดับต่อไป
กศน. ตำบล ขับเคลื่อน
นโยบายไปสู่การปฏิบัติ?
ในปี 2559 กศน. กำหนดกรอบคิดการศึกษาตลอดชีวิต โดยใช้ กศน. ตำบล เป็นฐานการเรียนรู้ แบบมีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ซึ่ง กศน. ตำบล จะทำหน้าที่สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง พัฒนายกระดับการศึกษา ส่งเสริมกิจกรรมรักการอ่าน สอนชาวบ้านให้ คิดเป็น รู้จักแสวงหาความรู้ มีจิตสาธารณะ
ขณะนี้ได้มอบหมายให้ กศน. ตำบล ทั่วประเทศ เร่งเก็บข้อมูลในท้องถิ่น เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีฐานข้อมูลที่ดีร่วมกันในการดูแลติดตามงานในชุมชนต่อไป กดข้อมูลคอมพิวเตอร์ ก็จะรู้ว่า กศน. ตำบลไหน ทำเรื่องอะไร มีกลุ่มผู้สูงอายุตรงไหน อบรมอาชีพเรื่องอะไร มีบ้านหนังสือชุมชนตรงไหน สำหรับโครงสร้างข้อมูลเหล่านี้จะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมาต่อไป จะก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูล และประสานความร่วมมือระหว่าง กศน. กับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ในโครงการต่างๆ จะเกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย
การสานต่อนโยบาย
หมู่บ้านรักการอ่าน?
เดิมใช้ชื่อโครงการ “บ้านหนังสืออัจฉริยะ” ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อโครงการเป็น “บ้านหนังสือชุมชน” ซึ่งในหลักการ บ้านหนังสือชุมชน ไม่ได้เป็นของหน่วยงานราชการ แต่เป็นบ้านหนังสือของชาวบ้าน ที่เปิดมุมอ่านหนังสือฟรีหน้าบ้าน กศน. เล็งเห็นว่า กิจกรรมดังกล่าว ตอบโจทย์นโยบาย “ทศวรรษรักการอ่าน” ของภาครัฐบาล (ปี 2552-2561) จึงสนับสนุนหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร แต่ประสบปัญหาหนังสือส่งไปไม่ถึงชุมชน จึงถูกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ และถูกตัดงบประมาณส่วนนี้ไป อย่างไรก็ตาม กศน. จะยังคงเดินหน้าสานต่อนโยบายบ้านหนังสือชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดย ปี 2559 วางแผนจัดกิจกรรมระดมรับบริจาคหนังสือจากผู้มีจิตศรัทธาทั่วประเทศ เพื่อจัดหาหนังสือให้แก่ บ้านหนังสือชุมชนในอนาคต
นโยบายพัฒนาการศึกษา
ในเขตพิเศษชายแดนภาคใต้?
ปัจจุบัน สถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นด้านการศึกษา ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ได้อย่างดี กศน. จะช่วยพัฒนาการศึกษาชายแดนใต้ในหลายมิติ เช่น การส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาไทย ส่งเสริมการยกระดับการศึกษา ให้เรียนต่อได้ในระดับที่สูงขึ้น เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีภูมิความรู้ที่ดีเพียงพอสำหรับนำไปใช้พัฒนาอาชีพได้อย่างมั่นคง ขณะเดียวกัน กศน. ก็ส่งเสริมกิจกรรมการเล่นกีฬาฟุตบอล เพื่อสร้างความรัก ความสามัคคี ของคนในชาติ
ทุกวันนี้ ครู กศน. ในพื้นที่ชายแดน.9h ทำงานเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัยอยู่เยอะ แต่พวกเขาก็มีขวัญกำลังใจที่ดี เพราะครู กศน. ทุกคนทำงานด้วยความรัก ความจริงใจ พวกเขาทำงานใกล้ชิดกับชุมชน เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับ กลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง การสร้างความเข้าใจที่ดีกับชาวบ้าน ช่วยลดความเสี่ยงในการทำงานให้น้อยลงในระดับหนึ่ง
โครงการอบรมอาชีพ
“ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์”
อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ
ที่ จังหวัดอุทัยธานี
ปัจจุบัน กศน. เดินหน้าสานต่อโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้ชื่อ โครงการอบรมอาชีพ “ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์” จังหวัดอุทัยธานี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงต้องการช่วยเหลือชาวอุทัยธานีและพื้นที่ใกล้เคียง ได้มีอาชีพ มีรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีความผาสุก โครงการนี้นับเป็นความภูมิใจของชาว กศน. ทั้งประเทศ พวกเราตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อสนองงานพระองค์ท่าน และสร้างโอกาสที่ดีให้คนไทย
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 10 ล้านบาท สำหรับก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพ ชื่อว่า “ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์” (ชื่อผู้น้อมเกล้าฯ ถวายที่ดิน) ตั้งอยู่ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่ง สำนักงาน กศน. จังหวัดอุทัยธานี เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบโครงการดังกล่าว ที่ผ่านมา ผมได้ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยม สำนักงาน กศน. จังหวัดอุทัยธานี และเข้าชมพื้นที่ก่อสร้างห้องสมุดเฉลิมราชฯ วัดท่าซุง พื้นที่ก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพราษฎรจังหวัดอุทัยธานีแล้ว แม้การก่อสร้างอาคารยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ สำนักงาน กศน. จังหวัดอุทัยธานี ได้จัดกิจกรรมพัฒนาอาชีพนำร่อง ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ ตามพระราชดำริฯ ในพื้นที่ กศน. ครบทุกอำเภอ จำนวน 8 หลักสูตร ประกอบด้วย
1. หลักสูตร “ผลิตภัณฑ์เสื่อกกพารวยช่วยสร้างอาชีพ” จัดอบรมในพื้นที่ อำเภอทัพทัน
2. หลักสูตร “ตำนานอาหารคาวหวานบ้านท่าโพ” อบรมในพื้นที่ อำเภอหนองขาหย่าง
3. หลักสูตร “รวยด้วยปลาแรด” อบรมในพื้นที่ อำเภอเมืองอุทัยธานี
4. หลักสูตร “เรียนเรื่องกล้วย กล้วย ก็รวยได้” อบรมในพื้นที่ อำเภอห้วยคต
5. หลักสูตร “การปลูกพืชโดยวิธีเกษตรธรรมชาติ” อบรมในพื้นที่ อำเภอสว่างอารมณ์
6. หลักสูตร “การปลูกทุเรียนเพื่อสร้างรายได้สู่ความยั่งยืน” อบรมในพื้นที่ อำเภอบ้านไร่
7. หลักสูตร “ข้าวสินเหล็กแก้จนคนหนองฉาง” อบรมในพื้นที่ อำเภอหนองฉาง
8. หลักสูตร “การปลูกข้าวหอมแดงอินทรีย์เพื่อวิถีชีวิตคนอุทัย” อบรมในพื้นที่ อำเภอลานสัก
สำหรับโครงการนำร่องอบรมอาชีพ จำนวน 8 หลักสูตร ในพื้นที่ 8 อำเภอ ของจังหวัดอุทัยธานี ในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพึงพอใจ เพราะมีผู้สนใจสมัครรับการอบรมอาชีพในรุ่นแรก รวมทั้งสิ้น 195 ราย ในปีหน้า กศน. ตั้งเป้าหมายปรับปรุงหลักสูตรให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้เรียน ทุกช่วงวัย ทั้งเด็ก เยาวชน รุ่นหนุ่มสาว ผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ใช้แรงงาน กศน. มุ่งมั่นทำงานสนองพระราชดำริให้ดีที่สุด โดยจะประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเข้ามาร่วมกันขับเคลื่อนศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ ตามพระราชดำริฯ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างแท้จริง