กกต.เปิดตัวแอพพลิเคชั่น‘ฉลาดรู้ประชามติ’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160516/227760.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม 2559
กกต.เปิดตัวแอพพลิเคชั่น‘ฉลาดรู้ประชามติ’
กกต.เปิดตัวแอพพลิเคชั่น‘ฉลาดรู้ประชามติ’

กกต.เปิดตัวแอพพลิเคชั่น‘ฉลาดรู้ประชามติ’ เข้าใจร่างรธน.ก่อนโหวตเตรียมรถโมบายยูนิต อำนวยความสะดวกผู้พิการ-คนชรา ลงคะแนนนอกหน่วยได้

 

 

            เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 16 พ.ค.2559 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง แถลงข่าวเปิดตัวแอพพลิเคชั่น “ฉลาดรู้ประชามติ” และสาธิตกระบวนการลงคะแนนและนับคะแนนออกเสียงประชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการออกเสียงประชามติ โดยมีนายอภิชาต สุขัคคานนท์ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) อดีตประธาน กกต. และนายประพันธ์ นัยโกวิท กรธ. ในฐานะอดีตกกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ร่วมงานด้วย

นายสมชัย กล่าวว่า แอพพลิเคชั่น “ฉลาดรู้ประชามติ”ถือเป็นแอปพลิเคชั่นตัวที่ 3 ที่กกต.จัดทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ ซึ่งแอปพลิเคชั่น “ฉลาดรู้ประชามติ”นี้เป็นแอพพลิเคชั่นในการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับและกระบวนการออกเสียงประชามติ รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการออกเสียงประชามติ ซึ่งมีทั้งรูปแบบตัวหนังสือ และอินโฟกราฟฟิก โดยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ทั้งระบบ iOS และ Android ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รวมถึงสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดในแอพพลิเคชั่นไลน์ได้ทันทีด้วย ทั้งนี้ หากผู้ใช้แอพพลิเคชั่นสามารถอ่านเนื้อหาได้ครบทั้งหมด จะได้รับประกาศนียบัตรแสดงความชื่นชม และสามารถแชร์ไปให้บุคคลอื่นรับทราบด้วย แอพพลิเคชั่น“ฉลาดรู้ประชามติ” สามารถเชื่อมโยงไปยังแอพพลิเคชั่น“ดาวเหนือ” ซึ่งมีไว้สำหรับนำทางผู้มีสิทธิออกเสียงไปยังหน่วยออกเสียงที่ตนมีสิทธิและแอพพลิเคชั่น“ตาสัปปะรด” ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับแจ้งข่าวการทุจริตการออกเสียงประชามติทุกรูปแบบ รวมถึงยังเชื่อมโยงไปยังระบบการลงคะแนนใช้สิทธิออกเสียงนอกเขตจังหวัดได้อีกด้วย

นายสมชัย ยังได้มีการสาธิตการลงคะแนนเสียงประชามติสำหรับคนพิการ พร้อมระบุว่า ผู้พิการสามารถแจ้งต่อกรรมการประจำหน่วยว่าต้องการรับความช่วยเหลืออย่างไร ซึ่งสามารถนำญาติ หรือพยาบาลเข้าไปได้ เพื่อช่วยเหลือในการออกเสียงประจำหน่วย แต่หากไม่มีก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยให้ความช่วยเหลือ ซึ่งหน่วยนี้จะใช้เครื่องสมาร์ทรีดเดอร์เพื่ออำนวยในการลงทะเบียนให้เกิดความรวดเร็วขึ้น และคูหาจะจัดให้เหมาะสมกับคนพิการแต่ละประเภท รวมถึงคนชราด้วย นอกจากนี้ หากผู้พิการและคนชราไม่ประสงค์มาลงคะแนนที่หน่วยลงคะแนนที่กกต.จัดไว้ให้ ก็สามารถแจ้งได้ที่ กกต.จังหวัด แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรวมตัวกันให้ได้ 100 คน ขึ้นไป แล้วมาแจ้งต่อกกต.จังหวัด เพื่อนำรถโมบายยูนิต หรือหน่วยออกเสียงเคลื่อนที่ไปยังสถานที่ที่กกต.จังหวัดเตรียมไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนชราและผู้พิการในการลงคะแนน

“สำหรับการลงคะแนนของคนปกติก็สามารถเดินทางมาแจ้งชื่อกับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย หรือสามารถนำรายชื่อจากหนังสือแจ้งเจ้าบ้าน โดยตัดส่วนที่เป็นรายชื่อที่ระบุลำดับของผู้ใช้สิทธิ มายื่นต่อกรรมการประจำหน่วย เมื่อยื่นเสร็จกรรมการประจำหน่วยจะให้บัตรออกเสียงกับผู้มาใช้สิทธิแต่จะต้องพิมพ์ลายนิ้วมือมุมขวา แล้วรับบัตรลงคะแนน จากนั้นก็ไปที่คูหา เพื่อลงคะแนน เมื่อลงคะแนนเสร็จแล้ว ก็เอาบัตรมาหย่อนลงหีบด้วยตัวเอง ถือเป็นการเสร็จสินกระบวนการ”นายสมชัย กล่าว

กมธ.การเมืองสปท.หารือกกต.

ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ว่า จะพิจารณาเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการแสดงความคิดเห็นในการออกเสียงประชามติ โดยเชิญตัวแทนจาก กกต. ประกอบด้วย นายสมชัย   และนายธนิศร์ ศรีประเทศ รองเลขาธิการ กกต. หารือถึงเงื่อนไขการแสดงออกตามประกาศของ กกต. ที่ยังถูกตีความไปหลายด้าน โดยจะหารือร่วมกันและข้อเสนอแนะต่อ กกต. เพื่อให้มีความชัดเจน พร้อมยกตัวอย่างแนวทาง เช่น การเปิดช่องทางให้สอบถามกกต.ก่อน หากมีข้อสงสัย หรือกรณีไหนเข้าข่ายทำผิด อาจให้มีการตักเตือนก่อน รวมถึงมาตรการในเชิงป้องกันไม่ให้ทำผิดกฎหมาย พร้อมยืนยันเจตนาว่าต้องการเน้นแนวทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมเป็นสำคัญ

นายเสรี กล่าวต่อว่า ส่วนกระแสข่าวการยุบ สปท. เนื่องจากมีผลงานไม่คุ้มค่านั้น ตนมองว่า เรื่องนี้เป็นไปตามเหตุผล ของผลการทำงานที่ผ่านมา แต่ยืนยันว่า สปท. ทำงานอย่างเต็มที่ ผลงานออกมาจากรายงานของคณะกรรมาธิการฯแต่ละชุด ส่งต่อไปที่คณะกรรมการประสานงานรวม 3 ฝ่าย

“การที่ประเมินกันว่า สปท. ไร้ผลงานนั้น เป็นเรื่องไร้เหตุผลเกินไป หากเทียบกับระยะเวลาการทำงานปฏิรูป 6 เดือน เพราะกว่าสปท.จะตั้งหลักได้ ใช้เวลาช่วงแรกเป็นเดือน กว่าจะมีข้อบังคับการประชุมและเริ่มทำงานจริงๆก็ใช้เวลาเพียง 4 เดือนเท่านั้น จึงขอให้เข้าใจว่าการทำงานปฏิรูปไม่ได้เห็นผลได้ทันที แต่ทั้งนี้การตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับหัวหน้า คสช. เป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม” นายเสรี กล่าว

ยันกกต.มีหน้าที่รับพิจารณาวินิจฉัยคำร้องประชามติก่อนวันออกเสียง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้(16พ.ค.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้มีการประชุมร่วมกับคณะกรรรมการที่ปรึกษากฎหมายของกกต. ที่มีนายสุรินทร์ นาควิเชียร อดีตรองประธานศาลฎีกา เป็นประธาน เพื่อหารือกรณีก่อนการออกเสียง หากมีเรื่องร้องเรียนหรือเป็นกรณีที่กกต.พบว่ามีการกระทำผิดเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ กกต.มีอำนาจที่จะสืบสวนสอบสวนและมีคำวินิจฉัย ได้เหมือนกับกรณีร้องเรียนการเลือกตั้งในการเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการที่ปรึกษาฯเห็นตรงกันว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 วรรคสอง บัญญัติว่า ในการจัดการออกเสียงให้ถือว่าการดำเนินการของกกต.เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งหนึ่งในอำนาจหน้าที่ของกกต. ตามมาตรา 10 ประกอบมาตรา 12 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง กำหนดว่าเมื่อมีการกล่าวหาหรือมีความปรากฏต่อกกต.ว่ามีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้กกต.ดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามอำนาจหน้าที่โดยเร็ว

ดังนั้น กกต.จึงถือเป็นผู้เสียหายที่หากมีการร้องเรียนการกระทำผิดในการออกเสียงประชามติ กกต.ก็ต้องรับเรื่องและดำเนินการสืบสอบสวน และมีคำวินิจฉัยว่ามีผลต่อการออกเสียงหรือไม่ รวมทั้งอาจเป็นผู้เสียหายแทนเจ้าทุกข์ในกรณีที่ต้องมีการดำเนินคดีอาญาด้วย หากไม่ดำเนินการและไปดำเนินการเฉพาะเรื่องร้องคัดค้าน ก็เสี่ยงที่กกต.จะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติ ซึ่งกกต.จะนำผลการหารือดังกล่าวเข้าที่ประชุมกกต.เพื่อมีมติต่อไป

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้กกต.ได้วางแนวปฏิบัติว่าในกรณีก่อนการออกเสียงประชามติ หากมีการร้องเรียนการกระทำผิด กกต.ทำได้เพียงแนะนำผู้ร้องให้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะความผิดตามพ.ร.บ.ประชามติเป็นความผิดอาญาที่กฎหมายไม่ได้ให้กกต.เป็นผู้เสียหาย กกต.จะรับพิจารณาวินิจฉัยเฉพาะกรณีการร้องคัดค้านการออกเสียงที่จะเกิดขึ้นภายหลังการลงคะแนนออกเสียงแล้วเท่านั้น โดยกกต.ได้มีการออกระเบียบกกต.ว่าด้วยคำร้องเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ… แต่เมื่อคณะที่ปรึกษากฎหมายมีความเห็นดังกล่าว ทางกกต.ก็จะพิจารณาว่าจำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขระเบียบหรือไม่ หรือจะออกเป็นมติกกต. และให้เป็นแนวทางไปยังกกต.จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อจะได้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้องต่อไปกรณีมีการมายื่นเรื่องร้องเรียน

 

 

Leave a comment