ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160510/227399.html
ชาวบ้านเฮ นายกฯ ประกาศยุติเหมืองทองทั่วประเทศ ลั่นไม่ต่ออายุ เตรียมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จัดหางานให้คนงานเหมือง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อใบอนุญาตการทำเหมืองแร่ทองคำหรือไม่ ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไม่ได้พิจารณาต่อใบอนุญาต โดยได้สั่งการไปว่าภายในสิ้นปีนี้จะไม่มีการทำเหมืองแร่ทองอีกต่อไป และในระหว่างนี้จะต้องแก้ปัญหาการปรับพื้นที่คืนสภาพ พร้อมเตรียมหางานให้คนงานอีกกว่าพันคน ส่วนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจะได้รับการเยียวยา เบื้องต้นได้ให้กระทรวงสาธารณสุขไปดูแลรักษา ซึ่งยังไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร เพราะทุกพื้นที่มีมากมีน้อยอยู่
“แบบนี้ใครจะมาร่วมรับผิดชอบกับผม ไม่ใช่ว่าสั่งโครมๆ ว่าเลิกไม่เลิก สร้างกันมากี่ปีแล้วปัญหาเกิดมาจากใคร ต้องแก้แบบนี้ แต่สิ้นเดือนธันวาคมนี้จะต้องไม่มีเหมืองทองอีกต่อไปจนกว่าจะชัดเจน เขาตรวจสอบ 5 หน่วยงาน 4 กระทรวง กรรมการ 5 ฝ่ายลงไป ซึ่งมีผล เดี๋ยวจะออกทีวีให้เขาดูก็ไปพิจารณาเอาเอง ใช้สติปัญญาคิดเอา จะให้ผมแก้ปัญหาอะไรก็กรุณาคิดปัญหาอย่างอื่นด้วย ไม่ใช่แก้อันนี้ไปเจออันโน้นอีก” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้มันยังไม่ชัดเจน แต่ถ้าไม่เชื่อหน่วยงาน เครื่องไม้เครื่องมือเหล่านี้แล้วจะเชื่อใคร ก็ไม่ต้องเชื่อใครหรืออย่างไร ใครจะพูดอะไรก็เชื่อตามคนพูด ซึ่งต้องฟังทั้งสองฝ่าย เพื่อมาช่วยกันคิด เรื่องผลประโยชน์ที่ผ่านมาต้องดูว่า ส่งค่าภาคหลวงเท่าไหร่ เกิดการจ้างงานอีกเท่าไหร่ ที่ผ่านมาพอเพียงหรือยังกับผลเสียที่เกิดขึ้นมาทั้งเรื่องน้ำ เรื่องดิน เรื่องสารหนัก บางค่าก็สูง บางค่าต่ำ เพราะฉะนั้นอยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรกับมัน ดังนั้นคงต้องให้เวลาเขาปรับสภาพตรงนี้ ที่จะให้กลับไปสู่ธรรมชาติเหมือนเดิม ซึ่งระหว่างนี้ต้องหางานให้คนงานอีกเป็นพันคน คนที่เสนอโน่นนี่มา จะรับคนงานไปดูแลให้หรือไม่ คนเจ็บคนป่วยก็ดูแล
ด้านนางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า 4 กระทรวง อันประกอบด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีมติยุติการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำ และประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำ รวมถึงคำขอต่ออายุประทานบัตรด้วย หลังจากในช่วงที่ผ่านมาประชาชนได้ร้องเรียนการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) บริเวณรอยต่อของ จ.พิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก
ส่วนกรณีของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) นั้น นางอรรชกา กล่าวว่า เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพนักงาน และเพื่อเตรียมการเลิกประกอบกิจการ จึงเห็นควรให้ต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมไปจนถึงสิ้นปี 2559 เพื่อให้สามารถนำแร่ที่เหลืออยู่ไปใช้ประโยชน์ได้ พร้อมทั้งให้บริษัทอัคราเร่งดำเนินการปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมืองให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต
“ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่และตรวจสุขภาพของประชาชนในพื้นที่พบว่า ประชาชนจำนวนมากที่มีโลหะหนักอยู่ในร่างกายถือว่าเป็นอันตราย และในปัจจุบันเชื่อว่าสำหรับประเทศไทยยังคงไม่มีความจำเป็นมากนัก ทั้งนี้ปัจจุบันแม้ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจนว่า ปัญหาข้อร้องเรียน ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนเกิดจากการทำเหมืองแร่ทองคำของบริษัทอัคราหรือไม่ แต่เพื่อประโยชน์ของสังคมและประชาชนส่วนรวม และเพื่อแก้ปัญหาความแตกแยกของประชาชนในชุมชน ประกอบกับมีคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เกี่ยวกับเหมืองแร่ทองคำ จึงมีมติยุติสัมปทานเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศ” นางอรรชกา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเรียกร้องให้รัฐบาลเลิกสัมปทานเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่เป้าหมายเหมืองแร่ทองคำ 12 จังหวัด ในนามประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ (ปปท.) ได้รวมตัวเดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อนำรายชื่อผู้คัดค้านนโยบายขยายพื้นที่เหมืองแร่ทองคำ รวม 27,522 รายชื่อ มายื่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อขอให้ยกเลิกการเปิดสัมปทานเหมืองแร่ทองคำรอบใหม่
นอกจากนี้ ชาวบ้านอีกส่วนได้ยื่นหนังสือขอให้รัฐบาลพิจารณาช่วยเหลือแผนการอพยพชาวบ้านรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรีออกนอกพื้นที่ หลังจากกลุ่มชาวบ้านเห็นว่า ภาครัฐไม่ได้จริงจังกับการแก้ไขปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อนสารโลหะหนัก ซึ่งมีรายงานผลการศึกษาเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 พร้อมมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1.ให้รัฐบาลเร่งอพยพชาวบ้านรอบเหมืองแร่ทองคำออกจากพื้นที่โดยด่วน เนื่องจากมีเอกสารยืนยันจากมหาวิทยาลัยรังสิตว่าได้รับสารโลหะหนักเกินค่ากำหนด และหากอาศัยอยู่ต่อไปจะเป็นอันตราย
2.ให้รัฐบาลสั่งยับยั้ง หรือหยุดการสัมปทานเหมืองแร่และหยุดยั้งการระเบิดปากเหมืองเฟสใหม่ และ 3.ให้ตั้งงบประมาณช่วยเหลือและฟื้นฟูชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบโดยเร่งด่วน
วันเดียวกัน บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ออกแถลงการณ์แจกจ่ายสื่อมวลชน ใจความว่า ตามที่มีคำแถลงจากรัฐมนตรีอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม กรณีให้เหมืองแร่ทองคำชาตรี ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หยุดดำเนินกิจการเหมืองภายในสิ้นปี 2559 นี้ สร้างความประหลาดใจให้แก่บริษัทเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทยังคงมีประทานบัตรที่ได้รับอนุญาตอยู่จนถึงปี 2571 ซึ่งบริษัทได้วางแผนการทำเหมืองไว้แล้วจนถึงเวลาดังกล่าว เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่บริษัทเริ่มดำเนินกิจการ บริษัทได้พิสูจน์ให้เห็นมาตลอดว่ากิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรีนั้น ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนโดยรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรีแต่อย่างใด
บริษัทได้ปฏิบัติตามกฎหมาย และข้อกำหนดทุกอย่างตามกฎหมายแห่งประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) อย่างเคร่งครัดเสมอมา และยังมีส่วนช่วยสร้างให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจแก่ประเทศไทยทั้งในระดับท้องถิ่นและต่อประเทศไทยโดยรวม อย่างไรก็ตามบริษัทยังไม่ได้รับเอกสารแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรใดๆ จากทางภาครัฐ ซึ่งบริษัทจะได้หารือกับที่ปรึกษาด้านกฎหมายเพื่อพิจารณาช่องทางการดำเนินการต่างๆ ตามกฎหมายที่เราสามารถทำได้ต่อไป
