นักวิชาการแห่ติงร่างรธน.ทำรัฐบาลอ่อนแอ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160521/228078.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม 2559
นักวิชาการแห่ติงร่างรธน.ทำรัฐบาลอ่อนแอ

ฟันธงไม่แก้ปัญหาเชิงโครงสร้างประเทศ หวั่นประชามติล่าสู่เผด็จการเครือข่าย

             21พ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ว่า  เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) ร่วมกับโครงการบัณฑิตศึกษาคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล โครงการรัฐศาสตร์เสวนาหลักสูตรการเมืองและการจัดการปกครอง ภาควิชาปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสมาคมรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้จัดเสวนาวิชาการเรื่อง “รัฐธรรมนูญกับประชามติที่เลือกได้” โดยมีนักศึกษา ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟัง

นายสมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า การทำประชามติมี 3 รูปแบบ คือ 1.การทำประชามติภายใต้สังคมเสรีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเครื่องมือในการระดมความเห็นของประชาชน มีการเปิดกว้างให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ2.การทำประชามติที่เป็นเครื่องมือเปลี่ยนสังคมจากระบอบประชาธิปไตยไปเป็นระบอบอำนาจนิยมหรือเผด็จการ เพิ่มอำนาจให้รัฐบาล และทำลายหลักการทางกฎหมาย อย่างในประเทศเยอรมันในสมัยรัฐบาลฮิตเลอร์ และ3.การทำประชามติเพื่อเปลี่ยนสังคมจากระบอบเผด็จการ ไปสู่ระบอบประชาธิปไตย อย่างที่เคยเกิดขึ้นในประเทศชิลี ซึ่งการทำประชามติของไทยในขณะนี้แน่นอนว่าไม่ได้อยู่ในกระบวนการเสรีประชาธิปไตย เพราะไม่มีโอกาสถกเถียงอภิปรายอย่างเสรี และไม่ใช่การเปลี่ยนจากประชาธิปไตยเป็นเผด็จการ ดังนั้นประชามติครั้งนี้จึงเหมือนทางแยก ระหว่างทางของการสร้างระบอบอำนาจนิยม และจะเป็นระบอบอำนาจนิยมแบบใหม่ เพราะนอกจากทหารแล้วจะมีภาคธุรกิจเอกชน นักวิชาการเข้าร่วมด้วย กลายเป็นระบอบเผด็จการเครือข่าย หากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ แต่หากไม่ผ่านจะเป็นความพยายามหันเหทิศทางให้สังคมกลับไปสู่ประชาธิปไตยเหมือนเดิม

ด้านนายอภิชาต สถิตนิรามัย อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังจะประสบปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศที่เรียกว่ากับดักรายได้ปานกลาง และสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ต้องการรัฐบาลที่มีเอกภาพ มีความเข้มแข็งเข้ามาแก้ปัญหาเหล่านั้น แต่หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านการทำประชามติก็จะนำไปสู่การมีรัฐบาลผสมหลายพรรค ซึ่งจะเป็นรัฐบาลที่อ่อนแอ และมีอายุสั้น ซึ่งจะไม่สามารถผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศได้ เพราะรัฐบาลจะหมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับการแก้ปัญหาการเมืองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจะทำให้รัฐบาลกลัวว่าจะถูกสอยตอลดเวลาจนไม่มีเวลาคิดแก้ปัญหาของประเทศ

ขณะที่นายเกษียร เตชะพีระ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ถ้าดูร่างรัฐธรรมนูญเฉพาะ 16 หมวด ตนให้เกรดดี แต่หากดูแค่บทเฉพาะกาลตนให้เกรดเอฟ ซึ่งการที่ กรธ. บอกว่าให้อ่านร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับก่อนค่อยวิพากษ์วิจารณ์นั้น ถึงแม้อ่านทั้งหมดแล้วก็ไม่พอที่จะเข้าใจ ทั้งนี้หากนพร่างรัฐธรรมนูญมาเทียบกับบริบททางประวัติศาสตร์ 10 ปีที่ผ่านมา ก็จะรู้สึกว่ากลุ่มคนชั้นนำพยายามผลักประเทศกลับไปสู่ระบอบที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย โดยมีการสร้างอำนาจนิยมของระบบราชการและเสียงข้างน้อยมากขึ้น ซึ่งกลายเป็นการสร้างปัญหาให้ระบอบประชาธิปไตยเพิ่มขึ้น และในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็มีความพยายามสร้างระบบที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ต้องการให้สถาบันที่มาจากการเลือกตั้งอยู่ใต้การกำกับควบคุมของเสียงข้างน้อยที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง อาทิ ตุลาการ กองทัพ องค์กรอิสระ ส.ว.สรรหา และคณะกรรมการสรรหา โดย กรธ.มีความต้องการที่จะเอาอำนาจที่เอามาจากสถาบันเสียงข้างมากไปไว้กับตุลาการ และส.ว.สรรหา ขณะที่ คสช.ต้องการที่จะเอาอำนาจส่วนนี้ไปไว้กับกองทัพ และส.ว.สรรหา

“ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นร่างรัฐธรรมนูญที่อัศจรรย์พันลึก เพราะถ้าดูแค่พื้นผิวจะพบคำหรูๆเยอะ แต่หากถึงเวลาคับขัน ก็จะเห็นโครงสร้างอำนาจส่วนลึกที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเสียงข้างมากโผล่ขึ้นมาทันที และโครงสร้างอำนาจส่วนลึกนี้มาจากการแต่งตั้งจะมากกว่าฝ่ายที่มาจากการเลือกตั้งเสมอ นอกจากนี้รัฐธรรมนูญนี้จะแก้ไขได้ยากมาก แถมยังประกันความต่อเนื่องประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้งเปิดช่องนายกรัฐมนตรีคนนอก ส.ว.สรรหา ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่มุ่งให้ผูกพันทุกรัฐบาล เป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ เพิ่มอำนาจบทบาททางการเมืองของกองทัพ” อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มธ. กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในการเสวนาเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนเข้าร่วมฟังการเสวนาจำนวนมาก ขณะเดียวกันหน้าห้องเสวนาก็มีการขายเสื้อที่มีข้อความว่า “Vote no ไม่รับ กับอนาคตที่ไม่ได้เลือก” รวมทั้งมีการแจกจ่ายเอกสารแถลงการณ์คณะนิติราษฎร์ต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ และยังมีการจัดหยั่งเสียงประชามติ โดยมีการเตรียมบัตรที่มีช่องรับ-ไม่รับ เตรียมหีบบัตรให้ประชาชนที่ร่วมฟังเสวนาทดลองหยั่งเสียงประชามติด้วย นอกจากนั้นก่อนเริ่มการเสวนาในห้องประชุมยังมีการชูป้ายข้อความ “Vote no ไม่รับ กับอนาคตที่ไม่ได้เลือก” ด้วย

Leave a comment