‘บิ๊กตู่’ถกยุทธศาสตร์ความมั่นคงสอดรับ20ปี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160511/227462.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันพุธที่ 11 พฤษภาคม 2559
'บิ๊กตู่'ถกยุทธศาสตร์ความมั่นคงสอดรับ20ปี

‘บิ๊กตู่’นั่งหัวโต๊ะประชุม’สภาความมั่นคงแห่งชาติ’ ถกยุทธศาสตร์ความมั่นคง ให้สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ย้ำเจรจาสันติสุขชายแดนใต้ในกรอบรธน.

             เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 11 พ.ค.2559  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)เพื่อพิจารณาร่างนโยบายการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อประสิทธิภาพและปรับให้สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีตามนโยบายความมั่นคงโดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ปรีชาจันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตรรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการระดับสูงด้านความมั่นคงเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง

หลังการประชุม พล.อ.ทวีป แถลงผลการประชุมว่า สมช.ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.แผนระดมสรรพกำลังการป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดทำ ขั้นตอนในกรณีจำเป็นต้องระดมสรรพกำลังในการป้องกันประเทศหากเกิดมีเหตุฉุกเฉินขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรทุกด้านในการร่วมกันป้องกันประเทศ โดยนายกฯ แนะว่าให้จัดทำเป็นตารางของการทำงานร่วมกันระหว่างทุกภาคส่วนทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่าหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นหน่วยงานใดจะเป็นตัวหลักหรือตัวรอง หรือส่วนรับผิดชอบเสริมจะได้มีความเข้าใจชัดเจนมากยิ่งขึ้น

พล.อ.ทวีป กล่าวอีกว่า 2.การกำหนดท่าทีของประเทศไทยต่อกลุ่มประเทศต่างๆในโลก ซึ่งต่างมีพลังอำนาจทางเศรษฐกิจ ทางการทหารที่ต่างกัน ดังนั้น การกำหนดท่าทีของประเทศไทยต่อประเทศเหล่านั้นจึงมีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประเทศมหาอำนาจที่มีพลังค่อนข้างสูง ประเทศไทยต้องรักษาสมดุลในการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเหล่านั้น เพื่อทำให้ความมั่นคงของประเทศไทยมีมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้กำหนดกลุ่มประเทศมหาอำนาจให้ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มทางตะวันตกและตะวันออก เพราะในแต่ละประเทศมหาอำนาจก็จะมีความแตกต่างกัน ซึ่งทางสมช.กับกระทวงการต่างประเทศจะได้ไปดำเนินการแยกกลุ่มมหาอำนาจออกตามที่นายกฯได้สั่งการไว้

พล.อ.ทวีป กล่าวต่อว่า 3.เรื่องร่างพ.ร.บ.สภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯของสนช. คาดว่าการพิจารณาของกมธ.วิสามัญฯจะแล้วเสร็จในเดือนมิ.ย.นี้ หลังจากนั้นจะได้นำเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 และ3 ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ภายในเดือนส.ค.นี้ ระหว่างนั้นสมช.จะได้เตรียมกฎหมายรอง อาทิ ประกาศ กฎกระทรวง สิ่งที่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยสมช.ได้ดำเนินการเตรียมการเป็นคู่ขนานไป และคาดว่าเมื่อพ.ร.บ.สภาความมั่นคงแห่งชาติ ประกาศเป็นกฎหมายแล้ว กฎหมายรองเหล่านี้จะสามารถใช้ได้ในทันที

พล.อ.ทวีป กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้พิจารณา การดำเนินการในระยะต่อไปของยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติของประเทศไทยต่อประเทศรอบบ้าน ได้แก่ เมียนมาร์ ลาว มาเลเชีย และกัมพูชา ซึ่งได้จัดทำยุทธศาสตร์ขึ้นมาให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี และสอดคล้องกับนโยบายความมั่นคง สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12

พล.อ.ทวีป กล่าวว่า สำหรับร่างนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่วางกรอบตั้งแต่ปี 2559-2564 มุ่งเน้นการทำให้เกิดสังคมหมู่วัฒนธรรม เพื่อให้ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ยั่งยืน เมื่อได้กำหนดเป็นนโยบายขึ้นมาแล้ว นายกฯสั่งการให้จัดทำตารางประสานสอดคล้องกับหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อให้แต่ละหน่วยงานมีความชัดเจนเรื่องความรับผิดชอบกิจกรรมหลัก กิจกรรมรอง หรือกิจกรรมเสริม เพื่อให้การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเกิดความสันติสุขอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม การประชุมวันนี้ไม่มีวาระการหารือแนวทางรับมือในช่วงการทำประชามติแต่อย่างใด
ย้ำเจรจาสันติสุขชายแดนใต้ในกรอบรธน.

พล.อ.ทวีป  กล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมได้หารือเรื่องการเจรจาพูดคุยสันติสุข ซึ่งอยู่ในนโยบายการบริหารและหารพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่าจะต้องเจรจาต่อไป แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ การเจรจาจะไปละเมิดรัฐธรรมนูญไม่ได้ จึงต้องมีจุดยืนของเราที่แน่นอนในการเจรจาในแต่ละเรื่อง อย่างไรก็ตาม การปรับแก้ถ้อยคำในบันทึกข้อตกลง (ทีโออาร์) ร่วมกันนั้น คณะอนุกรรมการด้านเทคนิคอยู่ระหว่างดำเนินการ และเมื่อเสร็จสิ้นในส่วนนี้จึงจะมีการพูดคุยในระดับเทคนิคก่อนว่าเมื่อปรับแก้แล้วจะสามารถดำเนินการเจรจาต่อได้หรือไม่ ถ้าได้ก็จะจัดประชุมใหญ่เพื่อพูดคุยกันต่อไป

Leave a comment