‘บิ๊กป้อม’ซัด‘อาเดม’สร้างเรื่องโดนซ้อม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160518/227889.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันพุธที่ 18 พฤษภาคม 2559
‘บิ๊กป้อม’ซัด‘อาเดม’สร้างเรื่องโดนซ้อม

‘พล.อ.ประวิตร’ ยันไม่มีซ้อม ‘อาเดม’ ย้อนถาม!ทำเองหรือเปล่า แจง ‘กองทัพ’ จัดซื้อยุทโธปกรณ์ ย้ำทุกอย่างยึดตามแผนงาน ใช้ทดแทนของเก่า หนุน ‘ผบ.ทบ.’ เลิกปรับทัศนคติ

      18 พ.ค.59 เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายอาเดม คาราดัก ผู้ต้องหาในคดีเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ ระบุว่าถูกทำร้ายร่างกายในระหว่างที่เจ้าหน้าที่คุมตัวมาขึ้นศาลทหารเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ไม่จริง เขาก็สร้างเรื่องไป พวกคุณจะไปฟังทำไม จะไปทำได้อย่างไร ไม่ได้ทำหรอก
      เมื่อถามถึงกรณีที่นายอาเดม ได้เปิดเสื้อเพื่อแสดงให้เห็นรอยฟกช้ำว่าถูกทำร้ายร่างกายนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี เขาทำเองหรือไม่ ตนดูอยู่ ยืนยันว่าไม่มีการเปิดเสื้ออะไร
      เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนสถานที่ควบคุมตัวผู้ต้องหา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำตามกฎหมาย ตนไม่ทราบ และไปสั่งให้ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของศาลดำเนินการ ตนไม่เกี่ยว
กสม.จ่อถกปมซ้อม”อาเดม-ยูซุฟู”  

นายวัส ติงสมิตร ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวถึงกรณีนายอาเดม คาราดัก หรือ บิลาน มูฮัมหมัด และ นายเมียไรลี ยูซุฟู 2 ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดแยกราชประสงค์ ร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลทหารกรุงเทพ โดยอ้างว่า ถูกทำร้ายร่างกายระหว่างถูกควบคุมตัวภายในเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรีนั้น ว่า ตนไม่แน่ใจว่ากรณีดังกล่าวเคยมีการร้องเรียนมายัง กสม.ให้ตรวจสอบหรือไม่ ซึ่งหากยังไม่มีการร้องเรียน ก็คาดว่าภายในการประชุม กสม.ในวันที่23พ.ค.นี้ อาจจะมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุม ซึ่งอาจจะมีการพิจารณาให้มีการตรวจสอบหรือออกแถลงการณ์ต่อไปหากเห็นว่าเป็นเรื่องที่เร่งด่วน อย่างไรก็ตามการทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีทั้งในชั้นศาลทั้งในศาลทหาร หรือศาลพลเรือนนั้นไม่สามารถทำได้ และจะต้องมีการตรวจสอบต่อไป

รองปลัดกระทรวงยุติธรรมแถลงชี้แจง

นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรักษาการอธิบดีกรมราชทัณฑ์  แถลงข่าวชี้แจงว่า 1.การนำตัวนายอาเด็ม คาราดัก และนายไมไรลี ยูซูฟู สองผู้ต้องหาไปคุมขังที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนคไชยศรี เป็นการยืมพื้นที่อาคารของหน่วยทหารมาประกาศเป็นเรือนจำชั่วคราวเท่านั้น แต่การบริหารงานและการควบคุมผู้ต้องขัง จะดำเนินการภายใต้การบริหารของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร   2. นายอาเด็ม กล่าวอ้างว่าถูกซ้อม ทำร้ายร่างกายถึง 2 ครั้ง กรมราชทัณฑ์ได้มอบหมายให้นายแพทย์วีระกิตต์ หาญปริพรรณ์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เข้าไปตรวจร่างกาย แต่ไม่ปรากฎว่ามีร่องรอยการถูกทำร้ายจากบุคคลอื่น แต่อย่างใด

     3. เรื่องการจัดเตรียมอาหารดิบ นำไปปรุงที่เรือนจำชั่วคราวฯ ตามหลักศาสนาอิสลามให้แก่สองผู้ต้องหา ได้รับประทานที่เรือนจำชั่วคราวฯ นอกจากนี้ ยังได้จัดอาหารเพิ่มเติม โดยซื้ออาหารสำเร็จจากร้านอาหารที่มีเครื่องหมายฮาลาล ให้แก่ผู้ต้องหารับประทานเป็นประจำ

4.กลับมาถึงเรือนจำหลังจากขึ้นศาล นายอาเด็มได้กล่าวขอโทษต่อหน้าผู้ควบคุมเรือนจำชั่วคราวฯ ในเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมเข้ามากอดและกล่าวว่า “ขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้น ต่อไปจะปฎิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยของเรือนจำฯ” ซึ่งพอจะอนุมานได้ว่า การแสดงออกดังกล่าว เป็นเพียงการเรียกร้องความสนใจจากสื่อมวลชน ซึ่งอาจส่งผลไปถึงองค์การสิทธิมนุษยชนให้มาสนใจ

‘ประวิตร’ แจงกองทัพจัดซื้อยุทโธปกรณ์ยึดตามแผนงาน ใช้ทดแทนของเก่า
      พล.อ.ประวิตร   กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์การจัดซื้ออาวุธและยุทโธปกรณ์ของกองทัพ ว่า อย่าไปวิจารณ์ ตนชี้แจงไปแล้วว่าสมัยตนเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ก็มีการจัดซื้อเพราะเป็นแผนงานของกองทัพและของกระทรวงกลาโหม เพื่อนำมาใช้ทดแทนอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้การไม่ได้หรือใช้มาเป็นเวลานาน เพื่อให้มีการพัฒนากองทัพให้เกิดความทันสมัย และไม่ใช่ซื้อของที่ใช้ไม่ได้มา เราต้องไปดูอาวุธต่างๆ ก่อนพิจารณาตัดสินใจไม่ว่าจะซื้อเครื่องบิน รถถัง เป็นต้นซึ่งจะต้องดูเรื่องของการซ่อมบำรุง การส่งกำลังบำรุง เพราะยุทโธปกรณ์ต้องใช้นานไปถึง 30 ปี
      ในส่วนที่มีปลุกกระแสในโลกโซเชียลว่ารัฐบาลตัดงบประมาณเบี้ยผู้สูงอายุ เพื่อนำมาใช้ดำเนินการเรื่องนี้นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นการฝันไป ก็ปล่อยเขาไป ย้ำว่าทุกอย่างมีขั้นตอนดำเนินการ มีคณะกรรมการจัดแบบ จัดซื้อจัดหา และตรวจรับ ไม่ใช่ผบ.ทบ.ไปซื้อคนเดียว เมื่อเรื่องมาถึงตนก็ต้องพิจารณาก่อนอนุมัติโดยสอดคล้องกับที่หน่วยใช้เขามีความต้องการ ขณะที่การเรือดำน้ำ เราก็อยากซื้อเพราะจำเป็น ในประเทศอาเซียนมีทุกประเทศแล้ว แต่พอจะซื้อก็วิจารณ์อย่างโน้นอย่างนี้ทุกครั้ง พร้อมถามสื่อว่าต้องการให้ซื้อหรือไม่จะได้เรียกผบ.ทร.พูดคุย เพราะเขาก็อยากได้
หนุน ‘ผบ.ทบ.’ เลิกปรับทัศนคติ
      พล.อ.ประวิตร   กล่าวถึงกรณี พล.อ.ธีรชัย นาควานิช (ผบ.ทบ.) มีแนวคิดยกเลิกเรียกบุคคลมาปรับทัศนคติ เพราะคุยกันไม่รู้เรื่องว่า เรียกปรับมาหลายครั้งก็ไม่มีอะไร ก็จะเรียกมาว่าทำผิดอะไรบ้าง ส่วนจะผิดหรือไม่ผิดต้องว่าไปตามกฎหมาย เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าจะมีการยกเลิกการปรับทัศนคติใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนพูดไปหลายครั้งแล้ว และผบ.ทบ.ไปแล้ว ก็ว่าไปตามที่ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์
เมิน ‘ยิ่งลักษณ์’ คุยตัวแทนสภายุโรป
      พล.อ.ประวิตร  กล่าวถึงกรณีที่ตัวแทนรัฐสภายุโรปเข้าพบและหารือกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา จะส่งผลต่อประเทศไทยหรือไม่ว่า แล้วจะทำอย่างไร เมื่อเขามาพบก็ให้พบไม่เห็นเป็นอะไร ก็ว่ากันไปในทางการเมือง ตนไม่ห่วงข้อมูลที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะชี้แจงกับทางรัฐสภายุโรป เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องรู้ว่าภาพรวมของประเทศเป็นอย่างไรและต้องให้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงในการตอบคำถามรัฐสภายุโรป ส่วนข้อเท็จจริงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเป็นอย่างไรนั้นก็เรื่องของเขา ทั้งนี้ในส่วนรัฐบาลก็ทำทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้ง โดยระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา คสช.ทำงานอยู่ด้วยความจริง ไม่มีอะไรซ่อนเร้น ไม่มีอะไรอยู่ใต้พรม ไม่ต้องห่วง
      เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตัวแทนจากรัฐสภายุโรป ต้องเข้าพบเพื่อหารือกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี คสช.ไม่เกี่ยว เพราะเป็นเรื่องทางการเมือง
      ต่อข้อถามว่า การเดินทางมาพบกับกลุ่มการเมือง จะเป็นการปลุกปั่นการทางการเมืองในทางอ้อมหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ปลุกปั่น และไม่รู้จะกลัวปลุกปั่นทำไม แต่กลัวสื่อจะปลุกปั่นมากกว่า
      เมื่อถามว่า หากมีข้อมูลที่บิดเบือน รัฐบาลจะเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงกับตัวแทนรัฐสภายุโรปหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้ามีการบิดเบือนหรือข้อมูลไม่ตรงกับที่เขามีอยู่ แล้วต้องการจะมาถามรัฐบาลก็ไม่เป็นไร สำหรับกระทรวงการต่างประเทศก็คงไม่ต้องเตรียมข้อมูลอะไร เพราะทุกอย่างที่เราทำเป็นไปตามขั้นตอน พร้อมชี้แจงได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว
แจงใช้ ม.44 ตั้ง ‘เลขาฯป.ป.ง.’
      พล.อ.ประวิตร  กล่าวถึงกรณีที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แต่งตั้ง พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เป็นเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ว่า เหตุผลที่ใช้มาตรา 44 เพราะถือเป็นเรื่องที่เร่งด่วนค้างคามานาน โดยคนที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นความต้องการของรมว.ยุติธรรม อย่างไรก็ตาม หลังการแต่งตั้งนั้นต้องผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) อีกครั้ง ส่วนรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับรองผู้บังคับการและสารวัตรนั้น ขณะนี้ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว หลังจากนี้จะเข้าปฏิบัติงานตามหน้าที่ต่อไป
โวรบ.แก้ประมงผิดกฎหมายถือเป็นรากฐานที่ดีที่สุด
      พล.อ.ประวิตร   ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและการปฏิรูปการบริการราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ถึงการแก้ปัญหาการประมงผิดกฎหมาย(ไอยูยู) ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก และได้กำชับให้เร่งดำเนินการในส่วนที่ล่าช้า ส่วนที่ยังมีปัญหาการทำประมงชายฝั่ง ได้สั่งให้กรมประมงจัดหาอาชีพให้ชาวประมงชายฝั่งแล้ว สิ่งที่รัฐบาลได้ทำมาถือเป็นฐานรากที่ดีที่สุด ที่นำทุกเรื่องมาเข้าสู่ระบบ และเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยมาก ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่พยายามแก้ปัญหาทุกอย่างตามกฎหมาย แต่ยังทำได้ไม่หมด ต้องใช้เวลา เพราะปัญหาสะสมมานาน นอกจากนี้ในการชี้แจงความคืบหน้าการแก้ปัญหาประมงของคณะทำงานที่เดินทางไปชี้แจงที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยมนั้น ถือว่ามีความพึงพอใจ

Leave a comment