‘มหากาพย์ทุจริตคลองด่าน’…ยังไม่จบ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160512/227478.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม 2559
‘มหากาพย์ทุจริตคลองด่าน’...ยังไม่จบ

‘มหากาพย์ทุจริตคลองด่าน’…ยังไม่จบ : โดย โอภาส บุญล้อม

           เป็น “ประเด็นร้อน” ขึ้นมาอีกครั้ง กับ “มหากาพย์คลองด่าน”…เมื่อ “คณะกรรมการธุรกรรมของ ปปง.” ได้มีมติิให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดกรณีกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ในการทุจริตและแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายจากโครงการออกแบบร่วมก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษจังหวัดสมุทรปราการ (คดีคลองด่าน) ซึ่งเป็นสิทธิเรียกร้องในหนี้ ตามข้อตกลงที่กรมควบคุมมลพิษจะต้องจ่ายให้แก่กลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG จำนวน 2 งวด รวมเป็นเงิน 4,761,872,349.06 บาท และอีก 32,576,783.10 ดอลลาร์สหรัฐ

โดยแบ่งเป็นสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินงวดที่ 2 เป็นเงิน 2,380,936,174.53 บาท และอีก 16,288,391.55 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีกำหนดจ่ายในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ และสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินงวดที่ 3 เป็นเงินจำนวน 2,380,936,174.53 บาท และอีก 16,288,391.55 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีกำหนดจ่ายในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็น “ค่าโง่” จำนวนมหาศาลที่รัฐต้องเอาภาษีของประชาชนมาจ่ายให้แก่เอกชน

นอกจากนี้  ปปง.ยังมีหนังสือให้กิจการร่วมค้าฯ เข้าชี้แจงแสดงหลักฐานภายใน 30 วัน เพื่อแสดงความสุจริตในการเข้าเป็นคู่สัญญาก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน รวมทั้งจะทำหนังสือไปถึงกรมควบคุมมลพิษให้ระงับการจ่ายเงินค่าโง่งวดที่ 2 และ 3

คราวนี้มา “ย้อนรอย” โครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านกันหน่อย ..โครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านดำเนินการโดยกรมควบคุมมลพิษ โดยนายปกิต กิระวานิช อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้จ้างบริษัทกิจการร่วมค้า NVPSKG ดำเนินโครงการออกแบบรวมก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษจังหวัดสมุทรปราการ ตามสัญญาจ้างเลขที่ 75/2540 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2540 มูลค่าโครงการ 2.2 หมื่นล้านบาท

ต่อมามีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโครงการเมื่อปี 2546 และคณะกรรมการได้ตรวจสอบและสรุปรายงานว่า ขณะทำสัญญาไม่มีบริษัท NWWI เป็นส่วนหนึ่งของกิจการร่วมค้า เพราะถอนตัวออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว และทางราชการสำคัญผิดว่าคู่สัญญามีบริษัทผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านร่วมอยู่ด้วย จึงได้ยกเลิกสัญญากับบริษัทดังกล่าว

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2546 นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีหนังสือยกเลิกโครงการ อ้างว่าสัญญาเป็นโมฆะ ทำให้ทางกลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG  นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของอนุญาโตตุลาการเพื่อชี้ขาดข้อพิพาท ซึ่งอนุญาโตตุลาการชี้ขาดให้กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ชนะคดี โดยให้กรมควบคุมมลพิษจ่ายเงินกว่า 9,000 ล้านบาท ให้แก่กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ  และต่อมาทางกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ

21 พฤศจิกายน  2557 ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ชำระเงินค่าจ้างและค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 9,058,906,853.61 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด ให้แก่กลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG  ซึ่งเป็นกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างรวม 6 บริษัท ที่ยื่นฟ้องกรมควบคุมมลพิษ ในคดีโครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษจังหวัดสมุทรปราการ หรือโครงการบำบัดน้ำเสียคลองด่าน

ทั้งนี้ คำพิพากษาดังกล่าวยืนตามคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ที่ให้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเมื่อ 12 มกราคม 2554  ที่ให้กรมควบคุมมลพิษชำระเงินค่าจ้าง ค่าเสียหาย รวมดอกเบี้ยให้แก่กลุ่มกิจการร่วมค้า  NVPSKG  6 บริษัท เป็นเงินกว่า 9,000 ล้านบาท

ต่อมา 17 พฤศจิกายน 2558  คณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีมติอนุมัติงบกลางตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ เพื่อชำระเงินให้แก่กลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดที่พิพากษายืนตามศาลปกครองกลาง ที่ิพิพากษาให้กรมควบคุมมลพิษต้องจ่ายค่าจ้าง ค่าเสียหาย รวมดอกเบี้ย ตามคำวินิจฉัยของคณะอนุญาโตตุลาการ

ทั้งนี้ ครม.ให้มีการเจรจาและแบ่งชำระเป็น 3 งวด ประกอบด้วย งวดที่ 1 จำนวน 40% ภายใน 21 พฤศจิกายน 2558 เป็นเงินบาทจำนวน 3,174,581,566 บาท เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ 21,717,855 ดอลลาร์, งวดที่ 2. ชำระ 30% ภายใน 21 พฤษภาคม 2559 เป็นเงินบาท 2,380,936,174 บาท เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ 16,288,391 ดอลลาร์, งวดที่ 3  จำนวน 30% ภายใน 21 พฤศจิกายน 2559 เป็นเงินบาท 2,380,936,174 บาท เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐจำนวน 16,288,391 ดอลลาร์ ทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทย 7 วัน ก่อนวันที่ทำการชำระ

แต่เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ปปง.ได้มีมติให้อายัดเงินที่รัฐยังไม่ได้จ่ายให้แก่กลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG จำนวน 2 งวด  โดยอ้างถึงคำพิพากษาของศาลอาญาเมื่อวันที่  17 ธันวาคม 2558 ที่ศาลได้อ่านคำพิพากษา

คดีทุจริตโครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่าน

โดยคดีดังกล่าวเป็นคดีที่ี่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายปกิต กิระวานิช อดีตอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม, นายศิริธัญญ์ ไพโรจน์พิบูรณ์ อายุ 64 ปี อดีตรองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และนางยุวรี อินนา ผอ.กองจัดการคุณภาพน้ำ ขณะดำรงตำแหน่งนักวิชาการสิ่งแวดล้อม 7 ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการคัดเลือก ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่มีหน้าที่จัดซื้อ ทำ จัดการรักษาทรัพย์ใดๆ, ร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

ซึ่งศาลพิเคราะห์ว่า การกระทำของจำเลยทั้งสามที่เลือกดำเนินการเกี่ยวกับโครงการไปในทางที่ขัดต่อระเบียบราชการ พฤติการณ์ส่อแสดงให้เห็นถึงการวางแผนและดำเนินการเพื่อเอื้อประโยชน์นับแต่ให้ที่ดินของบริษัท คลองด่านฯ ได้รับคัดเลือกนำมาใช้ในโครงการ ร่วมกันปกปิด และบิดเบือนสร้างราคาที่ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีผลเกี่ยวเนื่องให้กิจการร่วมค้า NVPSKG เข้ามาเป็นคู่สัญญาก่อสร้างโครงการกับกรมควบคุมมลพิษ แสดงให้เห็นชัดแจ้งว่า กลุ่มเอกชนร่วมกันบิดเบือน และปกปิดข้อเท็จจริงการเสนอแต่ละขั้นตอนโดยทุจริต แล้วเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งมีจำเลยทั้งสามรวมอยู่ด้วยกับผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่มีหน้าที่รับผิดชอบเข้าร่วมมือกัน เป็นการกระทำโดยทุจริต และเอื้อประโยชน์ช่วยเหลือกัน ทำให้โครงการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษจังหวัดสมุทรปราการ ระหว่างกรมควบคุมมลพิษ กับกิจการร่วมค้าฯ เป็นสัญญาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

พยานหลักฐานโจทก์จึงรับฟังได้ว่า การกระทำของจำเลยทั้งสามทำให้ราชการได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และ 157 จำคุกจำเลยทั้งสามคนละ 20 ปี

ประเด็นอยู่ที่ว่า การที่ ปปง.อ้างถึงคำพิพากษาของศาลอาญาดังกล่าว ที่ว่า จากข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นว่าสัญญาโครงการคลองด่านเกิดขึ้นจากการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐสมคบกับกิจการร่วมค้าฯ สัญญาที่เกิดขึ้นจึงขัดต่อความสงบเรียบร้อยและต้องตกเป็นโมฆะ จึงไม่ต้องจ่ายเงินงวดที่ค้างชำระที่เหลือ 2 งวด รวมทั้งเงินงวดแรกที่รัฐจ่ายให้บริษัทเอกชนไปแล้ว ต้องรอจนคดีถึงที่สุดจึงค่อยเรียกคืนนั้น ปปง.มีอำนาจแค่ไหน และขัดกับคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ที่ให้กรมควบคุมมลพิษจ่ายเงินให้กลุ่มกิจการร่วมค้าฯหรือไม่

เรื่องนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ปปง.มีอำนาจสั่งอายัดเงินที่เหลืออีก 2 งวด ได้ เนื่องจากศาลอาญาได้พิพากษาว่า สัญญาโครงการคลองด่านเกิดขึ้นจากการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐสมคบกับกิจการร่วมค้าฯ ซึ่งข้อหาทุจริตเป็นหนึ่งในความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฟอกเงิน ซึ่งอยู่ในอำนาจของ ปปง. แต่สำหรับกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ก็อาจโต้แย้งว่าเป็นคนละเรื่องกัน และยื่นเรื่องให้ศาลปกครองสูงสุดบังคับตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดที่ถึงที่สุดไปแล้วต่อไป

“ทางแก้ หน่วยงานรัฐต้องรีบร้องต่อศาลปกครองโดยนำคำพิพากษาของศาลอาญา ที่พบพฤติการณ์ร่วมกันทุจริตระหว่างบริษัทเอกชนกับเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวกับการทุจริตโครงการคลองด่าน เพื่อให้มีการรื้อคดีกันใหม่”

งานนี้ จึงต้องรอดูหนังยาว..กันต่อ

Leave a comment