‘วิษณุ’เชื่อกฎเหล็ก’กกต.’ยังงง!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160504/227031.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันพุธที่ 4 พฤษภาคม 2559
'วิษณุ'เชื่อกฎเหล็ก'กกต.'ยังงง!

‘วิษณุ’ เตือน 6 คำต้องห้ามผิด ‘ประชามติ’ สุ่มเสี่ยงไม่ควรทำ เชื่อกฎเหล็ก กกต.ยังงง สุดท้ายศาลตัดสิน ระบุ ‘สุขุมพันธุ์’ ยังทำหน้าที่ได้ตามปกติ แม้ถูก สตง.ฟัน

                    4 พ.ค. 59  เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความชัดเจนเรื่องข้อห้ามทำได้-ไม่ได้ในช่วงการทำประชามติ ว่า อะไรที่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย เมื่อแต่ละฝ่ายเข้าใจไม่ตรงกัน ก็เป็นเรื่องยากที่จะเข้าที่เข้าทางได้ แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีความเห็นไม่ตรงกันในการแปลความข้อกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้จะมีความชัดเจนต่อเมื่อไปถึงชั้นศาล ทั้งนี้เมื่อความเห็นแต่ละฝ่ายไม่ตรงกัน แล้วเป็นเรื่องของความผิดหรือไม่ผิดก็จะเกิดความเสี่ยง เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่เห็นว่าผิดก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย จากนั้นเมื่อเรื่องไปถึงศาล หากศาลบอกว่าผิดหรือไม่ตรงนั้นถือเป็นขั้นตอนสุดท้าย คำเตือนจึงมีอยู่ว่าอะไรที่คิดว่าเป็นความเสี่ยงขอให้ระมัดระวังไว้
                    “ส่วนตัวมองว่าการแสดงความเห็นของคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม ต่อให้ไม่มีการทำประชามติ คนย่อมมีสิทธิเสรีภาพ ในการคิด เขียน พิมพ์ โฆษณา รวมถึงแสดงความคิดเห็นอยู่แล้ว ซึ่งหลักนี้ก็ตอกย้ำเรื่องของประชามติในมาตรา 7 ด้วย แสดงว่าเบื้องต้นทำได้ ส่วนข้อยกเว้นที่ทำไม่ได้ก็มีอยู่ เช่นในมาตรา 61 ขอให้ระวังอย่าทำผิดในสิ่งที่ห้ามไว้”
                    เมื่อถามว่า ที่เคยระบุว่าหากรอดจากกฎหมายหนึ่ง อาจจะผิดกฎหมายหนึ่งนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า เกือบทุกเรื่องในสังคมการทำผิดกรรมเดียวอาจผิดกฎหมายหลายอย่าง เพราะการแสดงออกบางอย่างอาจจะผิดในประกาศ หรือคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งบางฉบับได้ประกาศไว้ตั้งแต่ คสช.เข้ายึดอำนาจใหม่ๆ แล้ว หรือบางอย่างอาจผิดในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งการผิดตามประมวลกฎหมายอาญาทั่วไป ขอให้ระวังในข้อกฎหมายเหล่านี้ด้วย ทั้งนี้หากผู้ใดเห็นว่าเกิดการทำผิดกฎหมาย สามารถแจ้งความได้โดยไม่ต้องเป็นหน่วยงานที่ออกกฎหมาย แต่การที่รัฐบาลพยายามให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกระเบียบหรือคู่มือเพื่อให้ประชาชนรับทราบว่าหากไม่ผิดระเบียบของ กกต. กกต.จะได้ไม่เอาเรื่อง เวลาเกิดเรื่องน้ำหนักจะได้น้อยลง
                    เมื่อถามถึงกรณีที่ทาง กกต.เองก็ยังอธิบายได้ไม่ชัดเจนในข้อห้ามช่วงทำประชามติ นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าส่วนหนึ่ง กกต.ยังงงและไม่เข้าใจเหมือนกัน และตนว่าสิ่งที่ กกต.กลัวว่าการแนะนำอะไรว่าทำได้หรือทำไม่ได้ แล้วปรากฏว่าวันหนึ่งมีคนเชื่อ กกต. เมื่อเรื่องไปถึงศาล แต่ผลออกมาดันตรงกันข้ามกับข้อชี้แนะของ กกต. ก็จะมาโทษ กกต.เสียเปล่า ทำให้ กกต.ได้ออกระเบียบแบบกว้างๆ จึงทำให้ประชาชนงง สับสน ทำให้สรุปได้ว่าอะไรที่เราไม่แน่ใจก็อย่าทำ แต่หากคิดว่าไม่ผิดก็ทำไป แล้วมาสู้คดีในภายหลัง
                    “โดยทั่วไปหากคนในสังคมรู้ว่าไม่แน่ใจทำผิดหรือไม่ ก็จะไม่ทำอะไรสุ่มเสี่ยงเพราะคำในกฎหมายสิ่งที่ต้องระวัง มีอยู่เพียง 6 คำเท่านั้น คือ 1. ไม่กระทำการใดผิดต่อความเป็นจริง ซึ่งคนที่พยายามจะฝ่าฝืนคือคนที่คิดว่า สิ่งที่จะพูดออกมาเป็นความเท็จแต่ไม่น่าจะผิดกฎหมาย 2. ไม่ก้าวร้าว 3. ไม่รุนแรง 4. ไม่หยาบคาย 5. ไม่ปลุกระดม และ 6. ไม่เป็นการข่มขู่ ซึ่งคำว่าปลุกระดมอาจทำให้ประชาชนสับสน เพราะถือเป็นคำที่กว้างในตัวมันเอง และทำให้เราสับสนว่าทำได้หรือไม่”
                    นายวิษณุ กล่าวว่า การปลุกระดมตามพจนานุกรม แปลว่า พฤติกรรมที่ทำให้เกิดการยั่วยุให้มีการฮึดขึ้นต่อสู้คัดค้าน หรือฮึดขึ้นทำอะไรสักอย่าง เช่น การใส่เสื้อของคน 1 คน 1 ตัว ให้ไม่รับก็ไม่ควรผิด เพราะถือเป็นการแสดงความเห็นส่วนตัว แต่เมื่อมีการชวนคนมาใส่เสื้อ 5 – 10 คน ว่าไม่รับอาจแปลว่าเป็นการยั่วยุ โดยจะต้องดูตามเจตนา ไม่ได้ถือว่าปิดปากจนทำอะไรไม่ได้เสียทั้งหมด ถ้าพูดเป็นก็พูดได้ เพียงแค่ระวังถ้อยคำเวลาและสถานที่ และมีเจตนาให้ดีเข้าไว้ ไม่เชื่อว่าผิด เพราะตนเองก็พูดอะไรไปมากมาย ก็ไม่เห็นว่าจะน่ากลัว เพราะรู้ว่าไม่ได้สุ่มเสี่ยง ส่วนคนที่คิดว่าจะทำอะไรสุ่มเสี่ยงก็ให้ระวัง
‘สุขุมพันธุ์’ ยังทำหน้าที่ได้ตามปกติ แม้ถูก สตง.ฟัน
                    นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ถูกผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ระบุว่า มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (พ.ร.บ.ฮั้ว) ปมจัดแสดงไฟแอลอีดี 39.5 ล้านบาท ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นเพียงการตั้งข้อสังเกตของ สตง.เท่านั้น ซึ่งจะต้องแจ้งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนถ้าหน่วยงานอย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติอย่างเดียวกัน หรือมีคำสั่งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เคยให้หลายคนหยุดปฏิบัติหน้าที่ นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
                    เมื่อถามว่า เรื่องนี้เข้าข่ายที่ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ต้องเข้าไปตรวจสอบด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ได้ยินว่าทาง สตง.จะต้องส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.อยู่แล้ว แล้วพอส่งไปเรื่องทั้งหมดก็จะรวมอยู่ที่ ศอตช.อยู่ดี ขณะนี้ท่านผู้ว่าฯ กทม.ยังทำงานได้ตามปกติ จนกว่าจะมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้น
                    เมื่อถามว่า ทาง คสช.จะออกคำสั่งถึงกรณีนี้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ขณะนี้ไม่มี เมื่อถามอีกว่า ตามความเหมาะสมแล้ว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ควรจะทำหน้าที่ต่อไปหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ขอตอบจนกว่าจะถึงเวลาที่หน่วยงานที่มีหน้าที่แจ้งมาว่าจะให้ทำอย่างไร การจะบอกว่าสมควรหรือไม่อย่างนั้นทำไม่ได้ เนื่องจากคนที่ถูกกล่าวหานั้นมีหลายคน แต่บังเอิญไม่ได้เป็นข่าว
แจงคณะทูตไม่เข้าใจปม ส.ส. – ส.ว. ให้ กรธ.เป็นผู้อธิบาย
                    นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงต่างประเทศของไทย เชิญคณะทูตมาร่วมฟังชี้แจงประเด็นที่มาของ ส.ส. และ ส.ว. ซึ่งทางคณะทูตยังไม่เข้าใจที่ไปที่มาของ ส.ว. ว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้ไม่เชิงว่าเขาไม่เข้าใจ เพียงแต่ว่าเมื่ออธิบายแล้วยังงงๆ อยู่ และก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องภาพลักษณ์ไปทำไม ความจริงตัวจำนวน 250 ก็มาจาก 500 ซึ่งคือจำนวนเต็มของ ส.ส. ซึ่งก็ต้องกลับไปถามว่าทำไม ส.ส.มี 500 ก็มีอยู่แค่นั้น
                    เมื่อถามว่า ก็เห็นว่าเรื่องนี้ไม่จบ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าหยุดพูดเรื่องนี้ก็จบ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เพียงแต่คนต่างชาติที่สงสัย คนไทยสงสัยเองก็ถามได้ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นผู้อธิบาย

Leave a comment