ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160518/227915.html
‘สุรชัย’แจงคำถามพ่วง‘ครูก.’ไม่ขัดแย้งรัฐธรรมนูญไม่กระทบทั้งฉบับ กลุ่มปชต.ใหม่ฟ้อง’ตร.-กองทัพบก-สำนักนายกฯ’เรียก16ล้านเศษ
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 18 พ.ค.2559 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ ในงานสัมมนาโครงการจัดการฝึกอบรมวิทยากรกระบวนการ (ครู ก.) นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวบรรยายเรื่อง “คำถามพ่วงท้ายของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ” ตอนหนึ่งว่า เราต้องอาศัยกำลังจากครู ก.ที่จะนำสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญไปเผยแพร่ต่อ รวมไปถึงประเด็นคำถามพ่วงประชามติที่ถามว่า ท่านเห็นชอบหรือไม่ว่า ให้รัฐสภามีสิทธิร่วมคัดเลือกบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน 5 ปี เหตุที่ต้องมีคำถามพ่วงเช่นนี้ เพราะต่อเนื่องมาจาก กรธ.ที่ร่างไปตามแนวความคิดทางทฤษฎีข้อเท็จจริงและประสบการณ์การบังคับใช้รัฐธรรมนูญทั้ง 19 ฉบับที่ผ่านมา แต่รัฐธรรมนูญนี้ถูกตีกรอบว่า ต้องมีกลไกต่าง ๆ ตามที่ รัฐธรรมนูญชั่วคราว 57 กำหนดไว้ในมาตรา 35 ที่บังคับให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีกลไกที่สามารถขับเคลื่อนประเทศชาติในเรื่องต่าง ๆ 10 เรื่อง รวมไปถึงกลไกพิเศษที่ควบคุมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศให้เป็นไปอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่เช่นนั้นปัญหาต่างๆจะวนกลับ ไม่ได้รับการแก้ไข
ทั้งนี้ มาตรา 270 ของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ระบุว่า ในการปฏิรูปประเทศต้องตอบรับรัฐธรรมนูญชั่วคราว 57 จึงกำหนดให้วุฒิสภามีหน้าที่กำกับ ตรวจสอบดูแลและเร่งรัดกลไกปฏิรูปของรัฐ ส่วนนายกฯต้องรายงานความคืบหน้าการปฏิรูปต่อรัฐสภาทุก 3 เดือน ทำให้วุฒิสภามีอำนาจแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นเมื่อมีประเด็นคำถามมายัง สนช.ว่า สมควรตั้งคำถามประชามติเพื่อสนองตอบกลไกตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 57 และฉบับนายมีชัยหรือไม่ สมาชิก สนช.จึงเห็นว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ตัวละคร ประกอบด้วย รัฐบาล วุฒิสภา และรัฐสภา เพื่อให้เป็นกลไกการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศมีการขับเคลื่อนสอดคล้องกัน จึงคิดว่า ถ้าเรามีนายกรัฐมนตรีที่มาจากความเห็นชอบจากรัฐสภา ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน 5 ปี เพื่อทำให้ตัวละครทั้ง 3 ทำงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม หลังจากนั้นก็ให้นายกรัฐมนตรีมาจากสภาผู้แทนฯตามปกติ เพราะเป็นเพียงระยะเวลาที่เราทำเพื่อเป็นหลักประกันของสังคมใน 5 ปีแรกช่วงเปลี่ยนผ่านประเทศเท่านั้น
นอกจากนี้หลายคนสงสัยว่าคำถามพ่วงขัดหรือแย้งต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัยหรือไม่ ตอบว่าไม่ใช่ แต่เป็นการรับกฎกติกาที่ถูกออกแบบไว้จากฉบับ กรธ.ทั้งหมด แล้วคิดว่าจะทำอย่างไรให้กฎเกณฑ์ต่างๆขับเคลื่อนได้จริงโดยเฉพาะการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศอย่างเป็นรูปธรรม เพราะหากนายกฯมีที่มาจากทั้ง 2 สภาเห็นชอบ ก็จะไม่ได้ทำงานในสภาอย่างเดียว แต่อยู่ภายใต้รัฐสภา สิ่งที่สนช.คิด จะคิดถูกหรือคิดผิดอย่างไร เป็นเรื่องที่ทุกท่านจะต้องส่งต่อให้ประชาชนตัดสินใจโดยอิสระ และเป็นหนึ่งในความสำคัญที่ทุกคนต้องออกไปแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองในวันที่ 7 สิงหาคมนี้
อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายบอกว่า หากคำถามพ่วงประชามติผ่านจะต้องรื้อรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับทำให้เสียเวลา ล่าช้าไปอีก ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะหากคำถามพ่วงผ่าน ก็จะกระทบแค่บทเฉพาะกาลเท่านั้น ไม่กระทบบทถาวรแน่นอน
