วันที่ 9 พฤษภาคม 2559 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวถึงการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่า ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองควรทำให้การออกเสียงประชามติเป็นไปอย่างเสรีและเป็นธรรม เปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ทั้งเห็นชอบและไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญได้มีโอกาสแสดงออกอย่างเต็มที่ภายใต้กฎหมายประชามติ ส่วนกรณีที่มีผู้ละเมิดกฎหมาย ก็สามารถดำเนินการได้อย่างจริงจัง ขณะเดียวกันก็ไม่ควรสร้างบรรยากาศแห่งความวิตกกังวลให้เกิดขึ้นระหว่างการออกเสียงประชามติ

          ความพยายามปิดกั้นการแสดงออกของประชาชนด้วยรูปแบบต่าง ๆ ต่อร่างรัฐธรรมนูญ ย่อมก่อให้เกิดผลกระทบต่อการออกเสียงประชามติ 2 ประการคือ

          1.ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการออกเสียงประชามติ  2. ก่อให้เกิดการไม่ยอมรับต่อผลของการออกเสียงประชามติ ทั้งความไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการ และการไม่ยอมรับผลของประชามติย่อมส่งผลสะเทือนทางการเมืองอย่างแน่นอน ไม่มากก็น้อย  อาจก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  ซึ่งเชื่อว่าผู้มีอำนาจในบ้านเมืองไม่ประสงค์ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น

          นายองอาจ กล่าวว่า ผู้มีอำนาจจึงไม่ควรใช้อำนาจเกินขอบเขต ในทางตรงกันข้ามควรใช้อำนาจในการเอื้ออำนวยให้มีการเปิดเวทีสาธารณะเพื่อให้ทุกฝ่ายได้มีโอกาส แสดงออกถึงทัศนคติ จุดยืนของตนต่อร่างรัฐธรรมนูญได้อย่างกว้างขวาง เพื่อทำให้ทุกฝ่ายยอมรับผลของการออกเสียงประชามติไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร แต่เมื่อทุกฝ่ายยอมรับผลของประชามติ ประเทศก็จะเดินหน้าไปได้ตามที่ทุกฝ่ายคาดหวังต่อไป