ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/625683
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 25 พ.ค. 2559 20:41

พาณิชย์ เผย ส่งออก เม.ย.กลับมาติดลบอีกครั้งในรอบ 2 เดือน ดิ่งถึง 8% ทำ 4 เดือนลบแล้ว 1.24% หลัง ศก.โลกยังชะลอตัว-ราคาน้ำมันดิ่ง ด้าน สุวิทย์ ยัน แม้มูลค่าลด แต่ยังติดอันดับ 3 มูลค่าส่งออกขยายตัวมากสุดในโลก เชื่อ ปีนี้ไม่เลวร้ายกว่าปีที่แล้ว จับตาถ้าจะโตตามเป้า 5% ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ธ.ค. ต้องส่งออกได้เดือนละ 1.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ…
วันที่ 25 พ.ค.59 นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า ในเดือน เม.ย.59 การส่งออกมีมูลค่า 15,545 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 8% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เป็นการกลับมาติดลบอีกครั้งหลังจากเดือน มี.ค.ที่เพิ่มขึ้น 1.305 และเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 10.27% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 539,840.7 ล้านบาท ลดลง 1.55% การนำเข้ามีมูลค่า 14,823.6 ล้านเหรียญฯ ลดลง 14.92% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 521,044 ล้านบาท ลดลง 8.95% ส่งผลให้มีดุลการค้าเกินดุล 721.3 ล้านเหรียญฯ หรือ 18,796.7 ล้านบาท แต่หากหักมูลค่าการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน และทองคำออก มูลค่าการส่งออกเดือนนี้จะอยู่ที่ 13,817 ล้านเหรียญฯ ลดลง 6.2%
ส่วนในช่วง 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) ปี 59 การส่งออกมีมูลค่า 69,374.3 ล้านเหรียญฯ ลดลง 1.24% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 2.463 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.04% การนำเข้ามีมูลค่า 60,464 ล้านเหรียญฯ ลดลง 12.73% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 2.171 ล้านล้านบาท ลดลง 4.61% ส่งผลให้เกินดุลการค้า 8,910.4 ล้านเหรียญฯ หรือ 292,437.7 ล้านบาท แต่หากหักมูลค่าการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน และทองคำออก มูลค่าการส่งออกช่วง 4 เดือนปีนี้ จะลดลง 1.8%
สำหรับสาเหตุที่มูลค่าการส่งออกไทยเดือน เม.ย.59 ลดลงมาก เป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังไม่มีความชัดเจน เป็นภาวะที่เกิดผลกระทบต่อการส่งออกทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะไทย อีกทั้งการส่งออกในกลุ่มรถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบติดลบ 9.7% มาจากการปรับฐานผลิตรถปิกอัพ รถบัส และรถบรรทุก ที่จากเดิมประเทศผู้นำเข้าจะนำเข้าแล้วไปประกอบในประเทศ แต่เปลี่ยนมาให้ไทยประกอบทั้งคันและส่งออกไป ทำให้ตัวเลขในกลุ่มนี้จึงลดลง ประกอบกับ ในเดือน เม.ย.มีวันหยุดยาวรวมกันถึง 17 วัน ทำให้มูลค่าการส่งออกหายไปประมาณ 5%
อย่างไรก็ตาม แม้มูลค่าการส่งออกไทยจะกลับมาลดลง แต่ไทยยังมีอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยในช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ เวียดนาม ขยายตัวสูงสุดเป็นอันดับ 1 ที่ 6.2% ตามด้วยสาธารณรัฐเช็ก ขยายตัว 5% และไทย ลดลง 1.3% แสดงว่าไทยยังสามารถประคับประคองการส่งออกได้ เชื่อว่าการในปี 59 การส่งออกไทยจะไม่เลวร้ายกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รัฐบาลได้วางรากฐานระยะยาว โดยปรับโครงสร้างประเทศไทยเข้าสู่ยุค 4.0 ที่เน้นการใช้นวัตกรรมในการผลิตสินค้า เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้มากขึ้น
“หากมองภาพตอนนี้ โอกาสที่ส่งออกจะเลวร้ายกว่าปีที่แล้วไม่มีแล้ว ประกอบกับ พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้ง 2 ด้านคือ การลงทุน และการท่องเที่ยวดีขึ้นมาก แต่มูลค่าการส่งออกจะบวกเท่าไหร่ หรือเป็นไปตามเป้าหมาย 5% หรือไม่ ยังไม่รู้ ถ้าจะให้ได้ 5% ในช่วงทีเหลือของปี ต้องมีมูลค่าส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 19,000 ล้านเหรียญฯ แต่ถ้าทำไม่ได้ตามเป้าหมาย ทำได้ 2-3% ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว”
ด้าน นายสันติ ชุดินธรา รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ด้านการท่องเที่ยวในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.ของปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวไทยมากถึง 11.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเดือน ม.ค. และเดือน ก.พ. นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยสูงถึงเดือนละราว 3 ล้านคน ส่วนเดือน มี.ค. อยู่ที่ 2.9 ล้านคน และเดือน เม.ย. 2.6 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 17% ตามด้วยสหรัฐฯ 13% ตะวันออกกลาง 11% ยุโรป 8% เอเชียใต้ 8% ส่วนออสเตรเลียและโอเชียเนีย ลดลง 2% เพราะค่าเงินของออสเตรเลียอ่อนค่ามาก
“ทั้งปีนี้ คาดว่า รายได้จากการท่องเที่ยวจะเป็นไปตามเป้าหมายขยายตัวเพิ่มขึ้น 8% จากปี 58 เพราะในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 59 หรือตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ย. ททท.จัดแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวในแต่ละเดือน เช่น เดือน พ.ค. แคมเปญเที่ยวก่อนเปิดเทอม, เดือน มิ.ย. เที่ยวชวนชิมอาหารถิ่นไทย, เดือน ก.ค. เที่ยวตามรอยบุญ, เดือน ส.ค. สิงหาพาแม่เที่ยว และเดือน ก.ย. เที่ยวไทยก่อนเกษียณ” รองผู้ว่าฯ ททท. กล่าว.