ปศุสัตว์อุตรดิตถ์ จับมือ อบต. คอรุม หนุน…เลี้ยงไก่ “เขียวพาลี”

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05080010159&srcday=2016-01-01&search=no

วันที่ 01 มกราคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 614

เทคโนโลยีปศุสัตว์

ทะนุพงศ์ กุสุมา ณ อยุธยา

ปศุสัตว์อุตรดิตถ์ จับมือ อบต. คอรุม หนุน…เลี้ยงไก่ “เขียวพาลี”

อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ สำหรับในทางประวัติศาสตร์แล้ว ถือเป็นเมืองสำคัญ เพราะเคยเป็นเมืองลูกหลวงของกรุงสุโขทัย ตลอดจนยังถูกกำหนดให้เป็นเมืองหน้าด่านในสมัยกรุงศรีอยุธยา และที่นี่จึงเป็นสมรภูมิทำศึกสงคราม กระทั่งเกิดวีรบุรุษหาญกล้าที่มีชื่อว่า “พระยาพิชัยดาบหัก”

ไก่เขียวพาลี หรือ ไก่เขียวหางดำ เป็นไก่ชนพื้นเมือง ถูกพัฒนามาจากไก่บ้านพันธุ์ “กะตังอู” หรือ ไก่อู สืบค้นไปได้ตั้งแต่สมัยสุโขทัย เจ้าเขียวหางดำนี้เป็นไก่พันธุ์หนึ่งที่มีชั้นเชิงดี ลำหักลำโค่นดี มีลักษณะเด่นตรงลำตัวมีสีเขียว ขนพื้นทั้งตัวเป็นสีดำ ขนปีกทั้งนอกและในมีสีดำสนิท

ตลอดจนมีขนหางทั้งพุ่มคือ หางพัดกระรวยมีสีดำสนิท ไม่มีสีอื่นเจือปน แข้งสีเขียว ตาสีเขียว จึงถูกตั้งชื่อว่า “พาลี” ด้วยเหตุนี้จึงเป็นพันธุ์ไก่ที่พระยาพิชัยดาบหักชื่นชอบอย่างมาก เพราะลงสนามคราวใด แห่งไหน จะตีชนคู่ต่อสู้ทุกตัวได้อย่างราบคาบ

ถึงแม้จะจัดให้เขียวพาลีเป็นไก่ประจำถิ่น แต่ที่ผ่านมาชาวบ้านมักเลี้ยงกันไว้ทั่วไป และมักนำไปผสมกับไก่อื่น โดยเฉพาะชาวบ้านที่เน้นเรื่องกีฬาไก่ชน มักจะนำไก่เขียวพาลีไปผสมกับไก่ที่มีคุณสมบัติที่แข็งแกร่ง อดทน และตีเก่ง อย่าง ไก่พม่า ไก่ป่าก๋อย จึงทำให้เกิดการกลายพันธุ์ขึ้น และจะเหลือไก่พันธุ์เขียวพาลีแท้อยู่ไม่มาก

หลายปีที่ผ่านมา เกิดกระแสความต้องการอนุรักษ์ไก่เขียวพาลีจากหลายฝ่ายในจังหวัด เพราะทุกคนต่างมองตรงกันว่า ไก่พันธุ์นี้ถือเป็นเอกลักษณ์ที่นำความภาคภูมิใจมาสู่จังหวัดของตน

“คอรุม” เป็น 1 ใน 11 ตำบลของอำเภอพิชัย ชาวบ้านในตำบลคอรุมทุกครัวเรือนนิยมเลี้ยงไก่พันธุ์เขียวพาลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำท้องถิ่น อย่างนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคอรุม คือ คุณผจญ พูลด้วง ที่ได้ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจเพื่อต้องการให้ชาวบ้านหันมาสนใจเลี้ยงไก่เขียวพาลีกันมากยิ่งขึ้น พร้อมไปกับความร่วมมือของทางปศุสัตว์จังหวัดอุตรดิตถ์เพื่อจัดทำแนวทางการพัฒนาสายพันธุ์เขียวพาลีให้กลับมามีลักษณะพันธุ์ดั้งเดิมอย่างเช่นในอดีต

นายก อบต. คอรุม เผยว่า ทางสำนักงานได้สร้างต้นแบบศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชื่อ “ศูนย์ถ่ายทอดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อบต. คอรุม” ขึ้นภายในบางส่วนของบริเวณสำนักงานที่ทำการขององค์การบริหารส่วนตำบลคอรุม มีพื้นที่ทั้งหมด 17 ไร่ เพื่อให้ชาวบ้านได้เข้ามาศึกษาดูงาน มีการจัดแบ่งไว้เป็นฐานการเรียนรู้ ในแต่ละฐานกำหนดเป็นเกษตรกรรมแต่ละด้าน เช่น การเลี้ยงหมูบ่อแก๊ส โรงสีข้าวชุมชน การเพาะพันธุ์ไก่หลายสายพันธุ์

แต่ที่ดูจะเน้นและให้ความสำคัญมากคือ ไก่เขียวพาลี ทั้งนี้ เป็นไก่ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์คู่กับจังหวัดอุตรดิตถ์ เพราะเป็นไก่ชนที่นักรบอย่างพระยาพิชัยดาบหักชื่นชอบมาก อีกทั้งตำบลคอรุมในประวัติศาสตร์ถือเป็นสมรภูมิการสู้รบไทยกับพม่า

ทั้งนี้ ชาวบ้านต้องการเลี้ยงไก่ประเภทไหน และต้องการเลี้ยงเพื่อจุดประสงค์ใดก็นำตัวเมียมาจับผสมกับพ่อพันธุ์ เพื่อใช้ขยายพันธุ์ในระดับครัวเรือน ระดับตำบล ระดับอำเภอ และระดับจังหวัดต่อไป

“โดยมากจะแนะนำให้เลี้ยงไก่เขียวพาลี เพราะถือเป็นไก่คู่จังหวัดที่มีความสำคัญ อีกทั้งยังต้องการเผยแพร่ขยายจำนวนไก่พันธุ์นี้ให้มีจำนวนมาก เพื่อให้กลายเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดเช่นเดียวกับไก่พันธุ์อื่น”

ประเภทพันธุ์ไก่ที่ศูนย์เลี้ยงไว้เพื่อผสมพันธุ์หลักๆ ได้แก่ ไก่เขียวพาลี ประดู่หางดำ เหลืองหางขาว นอกจากนั้น เป็นพันธุ์ทั่วไปที่เป็นไก่เนื้อและไก่ไข่

ส่วนงานเกษตรประเภทอื่นภายในบริเวณศูนย์ยังมีแปลงผักปลอดสาร มีการปลูกมะนาว และแปลงปลูกพันธุ์ข้าวไว้ จำนวน 5 ไร่ ตลอดจนยังขุดสระล้อมรอบแล้วเลี้ยงปลาในนาข้าวด้วย

จากเรื่องราวจึงทำให้มีคำถามว่า…

…เป็นไปได้แค่ไหน กับการจะผลักดันให้ชาวบ้านหันมาเลี้ยงไก่เขียวพาลีเพื่อการอนุรักษ์??

คุณวิสุทธิ์ สารพัฒน์ ปศุสัตว์จังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ทางปศุสัตว์จังหวัดมีแผนและแนวคิดไว้แล้ว และกำลังหารือกับทางจังหวัดถึงความเป็นไปได้ในการทำงานตามแผน ทั้งนี้ เพราะในปัจจุบันไก่เขียวพาลีได้ถูกขึ้นทะเบียนไว้กับทางปศุสัตว์แล้ว เพียงแค่มีการต่อยอดแนวทางการเลี้ยงเพื่อการอนุรักษ์จากผู้เลี้ยงรายเดิมที่มีอยู่น้อยให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น

อย่างที่ อาจารย์พิชัย มีจำนวนผู้เลี้ยง 50 ราย แต่มีไม่กี่รายที่เลี้ยงแบบจริงจัง อย่างกรณีท่านนายก อบต. คอรุม เป็นอีกผู้หนึ่งที่ใส่ใจและทุ่มเทการเลี้ยงไก่เขียวพาลีอย่างมาก และพร้อมที่ให้การสนับสนุนทุกกิจกรรม อย่างที่มีการจัดประกวดไก่เป็นประจำทุกปี

“อย่างไรก็ตาม ไก่เขียวพาลีเป็นพันธุ์ไก่ที่มีประวัติและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ จึงเป็นความภาคภูมิใจของชาวบ้าน และเห็นว่าควรมีการจัดทำแผนอนุรักษ์ไว้อย่างชัดเจน ถือเป็นพันธุ์ไก่เอกลักษณ์ประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ และตั้งใจว่าจะทำให้เป็นเช่นเดียวกับไก่นเรศวรที่พิษณุโลก”

…ขณะเดียวกัน ในส่วนของปศุสัตว์อำเภอพิชัย ที่บัดนี้ได้เริ่มต้นจุดประกายนำร่องการอนุรักษ์ไก่เขียวพาลี

โดยมี คุณสุธี ใจหวัง ปศุสัตว์อำเภอพิชัย เป็นหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อการผลักดันการอนุรักษ์ไก่เขียวพาลีของอำเภอพิชัย กล่าวถึงแนวทางการอนุรักษ์ไก่พันธุ์นี้ว่า ในขั้นตอนแรกอยู่ระหว่างรวบรวมจำนวนผู้ที่เลี้ยงไก่เขียวพาลีทั้งหมดในจังหวัด จากนั้นจึงจัดเป็นชมรมอนุรักษ์ไก่เขียวพาลีขึ้น โดยจะคัดเลือกผู้ที่สนใจในแต่ละตำบล แล้วจะกระจายพันธุ์ไก่ออกไปยังทุกพื้นที่ทั่วจังหวัด

จากนั้นแล้วจะจัดให้มีการอบรมความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงไก่ที่ถูกต้อง แนะนำวิธีคัดสายพันธุ์ เพื่อต้องการให้ผู้เลี้ยงแต่ละรายสามารถเพาะพันธุ์ไก่เขียวพาลีได้อย่างถูกต้อง ตามลักษณะประจำพันธุ์อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการเลี้ยงไก่เขียวพาลี จึงได้มีการขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเปิดสนามชนที่ได้รับการรับรองตามกฎหมายแล้ว จำนวน 4 แห่ง เพื่อให้สมาชิกสามารถนำไก่ที่ตนเลี้ยงไปซ้อมหรือแข่งขันกัน

ส่วนอีกหนึ่งประเด็นที่อยากได้คำตอบคือ…จะมั่นใจได้อย่างไรว่าชาวบ้านแต่ละแห่งที่เลี้ยงไก่เขียวพาลีจะมีคุณลักษณะที่ตรงตามพันธุ์เดิมทุกประการ??

คุณสุธี ชี้ว่า ก่อนอื่นมีการตั้งเป็นเกณฑ์ของพันธุ์ดั้งเดิมไว้ก่อนคือ ขนาดน้ำหนักตัวต้องไม่ต่ำกว่า 3 กิโลกรัม และจะต้องมีลักษณะเด่นประจำพันธุ์ เช่น รูปร่างเพรียวยาว ไหล่ยก กระเบนหางรัด ก้านหางแข็ง ปั้นขาใหญ่กลม ที่เรียกเป็นแบบลำหวาย ใบหน้ากลม ที่หางพัดและหางกระสวยสีดำสนิท ฯลฯ เป็นต้น

แล้วจะนำมาผสมกับแม่พันธุ์ที่มีลักษณะตรงกัน แล้วต้องแยกสถานที่เลี้ยงไว้เฉพาะเพื่อไม่ให้ปะปนกับไก่พันธุ์อื่น ให้ชาวบ้านจัดการเพาะและผสมพันธุ์เอง โดยทางปศุสัตว์ทำหน้าที่เพียงให้คำแนะนำ ส่งเสริมให้ความรู้ อำนวยความสะดวก

คุณสุธี บอกว่า สมัยก่อนที่จะเข้ามาส่งเสริมการเลี้ยงไก่เขียวพาลีนั้น ชาวบ้านได้เลี้ยงกันไว้ทั่วไป แต่มักนำไปผสมกับไก่อื่น โดยเฉพาะชาวบ้านที่เน้นเรื่องกีฬาไก่ชนมักจะนำไก่เขียวพาลีไปผสมกับไก่ที่มีคุณสมบัติที่แข็งแกร่ง อดทน และตีเก่ง อย่าง ไก่พม่า ไก่ป่าก๋อย จึงทำให้เกิดการกลายพันธุ์ขึ้น และจะเหลือพันธุ์แท้อยู่ไม่มาก

ดังนั้น จากนี้ไปจึงต้องนำพันธุ์ดั้งเดิมที่ยังคงมีเหลือมาชี้แจงให้กับชาวบ้านได้ทราบว่าต้องช่วยกันอนุรักษ์ไก่พันธุ์นี้ได้แล้วเพราะเป็นไก่ประจำถิ่น แล้วในอดีตยังเป็นไก่โปรดของพระยาพิชัยดาบหักด้วย

“แนวคิดที่จะอนุรักษ์นี้ ทางปศุสัตว์ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงหน่วยงานที่จุดประกายขึ้นมาเท่านั้น แล้วต้องการให้หน่วยงานท้องถิ่นร่วมมือกับชาวบ้านทำงานในครั้งนี้ด้วยกัน และที่ผ่านมามีหน่วยงานที่ให้ความร่วมมืออย่างดี โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนตำบลคอรุม ซึ่งออกมาแสดงจุดยืนในการช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูไก่สายพันธุ์เขียวพาลีอย่างชัดเจน”

คิดว่าจะสมประสงค์มาก/น้อยเท่าไร??…มีคำตอบจากปศุสัตว์อำเภอพิชัย ว่า

“ขณะนี้ทุกอย่างเดินไปตามแผน แล้วมีการจัดให้ไก่เขียวพาลีเป็นสายพันธุ์ไก่ที่ติดอันดับหนึ่งในไก่พันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมของประเทศ ดังนั้น จึงพยายามหากิจกรรมหลายชนิดให้ชาวบ้านนำไก่มาร่วมกิจกรรม อย่างที่จัดเป็นประจำทุกปีคือ การจัดประกวดไก่เขียวพาลีขึ้น เพราะต้องการให้ผู้เลี้ยงไก่พันธุ์นี้ที่มีความตั้งใจจริงเกิดความตื่นตัวและไม่หมดกำลังใจที่จะพยายามคัดสายพันธุ์แท้ของไก่เขียวพาลีให้มีลักษณะประจำพันธุ์ทุกอย่างเหมือนอย่างในอดีต”

“แล้วถ้าทุกคนต่างมีความทุ่มเทให้ความสนใจและให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้น คิดว่าอีกไม่นานไก่สายพันธุ์เขียวพาลีจะต้องเป็นไก่ที่คนทั้งประเทศต้องรู้จักกันดีอีกสายพันธุ์หนึ่ง” คุณสุธี กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดพันธุ์ไก่เขียวพาลีได้ที่ คุณผจญ พูลด้วง นายก อบต. คอรุม โทร. (085) 730-2325 หรือ คุณสุธี ใจหวัง ปศุสัตว์อำเภอพิชัย โทร. (081) 475-2436

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ ปศุสัตว์จังหวัด และเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ประสานงานในครั้งนี้

Leave a comment