ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05084010159&srcday=2016-01-01&search=no
| วันที่ 01 มกราคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 614 |
เก็บมาเล่า
วศินี จิตภูษา/รายงาน
มทร. ศรีวิชัย แปรรูปผลตาลโตนดสุก เป็นแป้งแบบผง สู่ผลิตภัณฑ์ขนมไทย รสชาติดีเยี่ยม
ผ.ศ.ชไมพร เพ็งมาก อาจารย์ประจำคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ทุ่งใหญ่ นำส่วนลูกตาลสุกซึ่งไม่ค่อยมีใครนำมาใช้ประโยชน์ ส่วนใหญ่จะปล่อยให้สุกคาต้นและหล่นเน่าเสียไป จึงทำการวิจัยนำลูกตาลสุกมาแปรรูปเป็นแป้งตาลโตนดแบบผง โดการนำมายีเอาเนื้อออกเพื่อใช้ทำขนมตาล ซึ่งสามารถทำได้บางฤดูกาลเท่านั้น อีกทั้งการเตรียมเนื้อลูกตาลสุกก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ต้องใช้เวลามาก มีขั้นตอนที่ยุ่งยากและไม่สามารถเก็บเนื้อลูกตาลสุกไว้ได้นาน การนำเนื้อลูกตาลสุกมาทำให้แห้งเป็นผงจึงเป็นการแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี และเนื้อตาลสุกมีเบต้าแคโรทีนเกือบเท่ากับแครอท เรียกได้ว่ามีคุณค่าทางสารอาหารมากมาย
สำหรับวิธีทำแป้งตาลโตนด นำลูกตาลสุกมาล้างให้สะอาด ลอกเปลือกดำออกให้ เอาดีตาลออกเพื่อไม่ให้เนื้อตาลมีรสขม (ดีตาลมีลักษณะแข็งอยู่ระหว่างเม็ดลูกตาล) ยีลูกตาลกับน้ำทีละน้อย กรองด้วยตะแกรงตาถี่เพื่อกรองเอาเส้นใยออก เทใส่ผ้าดิบใช้เชือกผูกให้แน่น แขวนหรือหาของหนักทับไว้ 1 คืน รุ่งขึ้นเกลี่ยเนื้อตาลในถาด นำเข้าตู้อบลมร้อน โดยใช้อุณหภูมิในการอบแห้ง 65 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 ชั่วโมง บด แล้วผ่านตะแกรงร่อนขนาด บรรจุในถุงลามิเนตชนิด ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เหมาะสมในการนำไปทดแทนส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ขนมไทย เพราะจะทำให้ผสมกับส่วนผสมอื่นได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตามการอบแห้งเนื้อตาลสุก จะเกิดการเปลี่ยนสีเมื่อเก็บไว้นาน โดยจะมีค่าความเข้มของสีลดลง ดังนั้นเพื่อป้องกันการเปลี่ยนสี เราสามารถให้ความร้อนที่อุณหภูมิ 65 องศาเซลเซียส ตุ๋นเนื้อตาลสุกด้วยเวลาอย่างน้อย 5 นาที ก็สามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์เปอร์ออกซิเดสในเนื้อลูกตาลสุกได้ทั้งหมด
การให้ความร้อนกับเนื้อลูกตาลสุกก่อนทำแห้งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ทำให้สีของเนื้อลูกตาลสุกเกิดการเปลี่ยนแปลง การใช้เวลาในการให้ความร้อนเพิ่มขึ้นจะทำให้ปริมาณน้ำในวัตถุดิบลดลง เป็นผลให้ปริมาณของแข็งเพิ่มขึ้นจึงทำให้ค่าสีเพิ่มขึ้น แต่เวลาในการให้ความร้อนที่เพิ่มขึ้นไม่มีผลต่อปริมาณเบต้าแคโรทีนที่เหลืออยู่
การเก็บแป้งตาลในสภาวะสุญญากาศสามารถรักษาสีและปริมาณเบต้าแคโรทีนได้ดีกว่าการบรรจุในบรรยากาศปกติ เพราะแป้งตาลที่เก็บในบรรยากาศปกติจะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของเบต้าแคโรทีน ทำให้สีของแป้งตาลจางลง (โดยปกติสามารถเก็บได้นานมากกว่า 4 สัปดาห์)
จะเห็นได้ว่า ตาลโตนดที่มีมากในภาคใต้ โดยเฉพาะลูกตาลสุกที่ส่วนใหญ่หลายๆคนอาจมองข้ามไป สามารถนำมาใช้ประโยชน์อะไรได้มากมาย และยังนำมาแปรรูปเป็นแป้งตาลโตนดแบบผง นำไปเป็นส่วนผสมของขนมไทยได้หลากหลายชนิด เช่น ขนมชั้น ขนมถ้วย ขนมปุ้ยฝ้าย ฯลฯ รับประกันรสชาติดีเยี่ยม หอมหวาน ปลอดภัย เพราะเป็นแป้งที่สกัดมาจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ผ.ศ.ชไมพร เพ็งมาก อาจารย์ประจำคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ทุ่งใหญ่ โทรศัพท์ 08-7204-4941