นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยภายหลังหารือกับนางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม ว่า ภาคเอกชนอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอเป็นแพ็กเกจ ขอรับการส่งเสริมการลงทุน ในโครงการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด ต่อสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เพื่อให้ สศอ.นำเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) นำไปพิจารณาต่อไป และหลังจากเสนอแผนแล้ว ภาคเอกชน จะต้องหารือร่วมกันอีกครั้งว่า ภาครัฐสามารถสนับสนุนเรื่องใดได้บ้าง ซึ่งเรื่องที่ขอส่งเสริม เช่น แพ็กเกจการส่งเสริมการลงทุน แพ็กเกจภาษีสรรพสามิต สิทธิประโยชน์ในการนำเข้าชิ้นส่วนต่างๆ เป็นต้น

ทั้งนี้ ภาคเอกชนคาดว่าประเทศไทยจะสามารถพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริดก่อน เพราะผู้ประกอบการในไทย สามารถทำได้สะดวกที่สุด เมื่อเทียบกับรถยนต์ธรรมดา ก็มีราคาไม่ต่างกันมากนัก ซึ่งถ้าแพ็กเกจต่างๆ ออกมาเรียบร้อย เชื่อว่าจะจูงใจนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่ม เพื่อใช้ไทยเป็นฐานการแข่งขันในระดับภูมิภาคและในตลาดโลก

สำหรับกรณีที่ สศอ.มีแนวคิดให้จัดเก็บภาษีเพิ่มสำหรับภาษีป้ายรถยนต์ ที่มีอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป ภาคเอกชนเห็นด้วยกับภาครัฐ โดยมองว่าไม่ได้เพียงเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการขายรถยนต์ในประเทศเท่านั้น แต่เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ เช่น ที่ต่างประเทศจะมีการเสียภาษีรถเก่าอัตราสูง เพราะต้องตรวจอย่างละเอียดทั้งระบบเบรก การควบคุมการขับขี่ เป็นต้น.