เจตนาลวง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05115150159&srcday=2016-01-15&search=no

วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 615

ฎีกาชาวบ้าน

โอภาส เพ็งเจริญ o-pas@matichon.co.th

เจตนาลวง

คุณโวล์ฟกัง สัญชาติเยอรมัน อยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยากับคุณสมสวยที่ภูเก็ต

คุณโวล์ฟกังทำสัญญาซื้อที่ดิน 2.9 ล้านบาท จดทะเบียนในนามของคุณสมสวย

จากนั้น คุณโวล์ฟกังได้ทำสัญญาเช่าบ้านและที่ดินนั้นจากคุณสมสวย ระยะเวลา 30 ปี นับแต่วันจดทะเบียนการเช่า และให้สิทธิแก่คุณโวล์ฟกังต่ออายุการเช่าอีก 30 ปี

ในสัญญาระบุว่า สิ่งก่อสร้างที่คุณโวล์ฟกังสร้างขึ้นบนที่ดินแปลงนี้ เมื่อสิ้นอายุการเช่าให้กรรมสิทธิ์ตกเป็นของคุณสมสวย

ทั้งนี้ สัญญาเขียนไว้ชัดเจนว่า คุณโวล์ฟกังได้ชำระค่าเช่าครั้งเดียวล่วงหน้า 2.9 ล้านบาท ให้แก่คุณสมสวยรับไปครบถ้วนแล้วในวันทำสัญญานี้

คุณโวล์ฟกังจ่ายเงินตกแต่งบ้านอย่างงดงาม จากนั้นคุณสมสวยเข้าพักอาศัยในบ้านนั้น โดยคุณโวล์ฟกังไม่เคยเข้าพักอาศัยเลย

เวลาผ่านมาได้ 2 ปีเศษ สองคนเกิดแตกคอกัน ประกาศเลิกร้างกัน

คุณโวล์ฟกังไล่คุณสมสวยออกจากบ้าน ให้ขนข้าวของออกไปด้วย และส่งมอบการครอบครองบ้านนั้นแก่คุณโวล์ฟกัง

คุณสมสวยต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้คุณสมสวยขนข้าวของออกไป แล้วส่งมอบการครอบครองบ้านแก่คุณโวล์ฟกัง

คุณสมสวยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

คุณสมสวยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า คุณโวล์ฟกังเป็นผู้ทำสัญญาจะซื้อบ้านและที่ดินนั้นร่วมกับคุณสมสวยเพื่อให้มีหลักฐานมั่นคง แต่คุณโวล์ฟกังเป็นบุคคลต่างด้าว ไม่อาจถือกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ จึงจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้นแก่คุณสมสวย แล้วทำสัญญาเช่าบ้านพร้อมที่ดิน 30 ปี และคำมั่นให้เช่าอีก 30 ปี เพื่อป้องกันมิให้คุณสมสวยโอนขายแก่บุคคลภายนอก เพราะคุณโวล์ฟกังเกรงว่าคุณสมสวยอาจขายบ้านและที่ดินไปเมื่อตนเดินทางกลับต่างประเทศ จึงทำสัญญาเช่าบ้านและที่ดินไว้เพื่อป้องกันไม่ให้คุณสมสวยขายบ้าน

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ทั้งสองสมรู้กันทำหนังสือสัญญาเช่าที่ดินพร้อมบ้านและหนังสือสัญญาเช่าที่ดิน เพื่อแสดงเจตนาลวงในการหวงกัน และถือกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมบ้านของคุณโวล์ฟกัง โดยไม่มีเจตนาที่จะผูกพันบังคับกันตามข้อตกลงในสัญญาเช่า

ดังนั้น หนังสือสัญญาเช่าที่ดินพร้อมบ้านและหนังสือสัญญาเช่าที่ดินย่อมตกเป็นโมฆะ ตามมาตรา 155 วรรคหนึ่งแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คุณโวล์ฟกังย่อมไม่อาจขอให้ขับไล่และบังคับคุณสมสวยส่งมอบการครอบครองที่ดินพร้อมบ้านแก่ตนได้

ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้อง เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้คู่ความไม่ได้ยกขึ้นอ้างในฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

ศาลฎีกาพิพากษา ยกฟ้อง

(เทียบคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3866/2556)

————————————————

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 155 การแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้กับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งเป็นโมฆะ แต่จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริต และต้องเสียหายจากการแสดงเจตนาลวงนั้นมิได้

ถ้าการแสดงเจตนาลวงตามวรรคหนึ่งทำขึ้นเพื่ออำพรางนิติกรรมอื่น ให้นำบทบัญญัติของกฎหมายอันเกี่ยวกับนิติกรรมที่ถูกอำพรางมาใช้บังคับ

มาตรา 538 เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อ ฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ ถ้าเช่ามีกำหนดกว่าสามปีขึ้นไป หรือกำหนดตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าไซร้ หากมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ท่านว่าการเช่านั้นจะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้แต่เพียงสามปี

เรื่อง : พุดซ้อน : ไม้พุ่มสมุนไพร

คอลัมน์ : ปลูกต้นไม้จากหนังสือ

โดย : สุวรรณ พันธุ์ศรี

ก็เป็นอันรู้กันแล้วว่า ปีนี้ฉลองปีใหม่กันไปกี่ศพ ไม่ว่าจะเป็นถนนหลัก ถนนรอง หรือในตรอก ซอก ซอย

หลังจากเทศกาลปีใหม่ ต่อไปก็เทศกาลสงกรานต์

เวลานี้มิใช่แต่ช่วงเทศกาลเท่านั้น ที่การสูญเสียจากอุบัติเหตุ

วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็เกิดอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้น จะเรียกว่าความเจริญที่ไร้จิตสำนึก ก่อให้เกิดการสูญเสียก็ไม่น่าจะผิดนัก

ความอยากได้อยากมีของผู้คน ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง

เมื่อเกิดความอยากได้ใคร่มี ก็มักจะเกิดความประมาท

ถ้าหากเป็นคนช่างสังเกต ก็จะรู้ว่าเทคโนโลยีก็มีส่วนก่อให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ

ที่เห็นด้วยตาคือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ขับขี่ไป โทรศัพท์ไป แล้วก็เกิดเฉี่ยวชนกับรถอีกคัน

ผลลัพธ์ก็คือส่งโรงพยาบาล ยังไม่ถึงกับส่งวัด

แต่ก็เห็น 2 หรือ 3 ราย ที่ต้องส่งวัด เพราะมือถือเป็นสาเหตุ

อย่าลืมว่าการขับขี่ต้องมีสมาธิ

เมื่อขาดสมาธิก็ขาดใจเป็นของธรรมดา

ปีใหม่แล้วมาปลูกต้นไม้กันดีกว่า เพื่อให้โลกรื่นรมย์น่าอยู่

ปักษ์นี้จะชวนปลูกต้น “พุดซ้อน”

ต้นพุดซ้อน จัดเป็นไม้พุ่ม เตี้ย ไม่สูงนัก มีลักษณะคล้ายต้นพุดจีบ จะต่างกันหน่อยก็ตรงที่พุดซ้อนไม่มีลายขาวที่ต้นและใบ

การขยายพันธุ์ นิยมตอนกิ่ง

พุดซ้อนเป็นไม้พุ่มที่มีใบหนาแน่น ลักษณะใบรูปมนรี ปลายใบแหลม สีเขียวเข้ม

ดอกของพุดซ้อน จะออกเป็นดอกเดี่ยวตามง่ามกิ่งใกล้กับส่วนยอด

ลักษณะดอกก็คล้ายกับดอกพุดจีบ ออกสีขาว มีกลีบซ้อนซ้อนกันหลายชั้น และมีกลิ่นหอมอ่อนอ่อน

ต้นพุดซ้อนนี้ นิยมปลูกเป็นดอกไม้ประดับ

และนอกจากปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับแล้ว คนแต่โบราณยังรู้ว่ามีสรรพคุณทางสมุนไพรด้วย

ส่วนที่นำมาใช้เข้ายาสมุนไพร ก็มี ยางจากต้น เนื้อไม้ ยางจากดอก และเนื้อหุ้มเมล็ด

น้ำยางจากต้น มีสรรพคุณเป็นยาขับพยาธิ

เนื้อไม้ มีสรรพคุณเป็นยาเย็น ใช้ลดไข้ และที่พิเศษคือ นำมาทำเป็นหัวน้ำหอม

น้ำยางจากดอก มีสรรพคุณเป็นยาแก้โรคผิวหนัง

เนื้อหุ้มเมล็ด นิยมนำมาเป็นสีย้อมผ้า

เหล่านี้คือประโยชน์ที่ได้จากการปลูกต้นพุดซ้อนหนึ่งต้น

คนที่มีที่ทาง ก็ขอให้ปลูกไว้เถอะ ส่วนคนเมืองปลูกลงกระถางยิ่งดี

ปีใหม่แล้วก็ขอให้แฟนเทคโนโลยีชาวบ้านมีความสุข

สวัสดีปีวอก 2559

Leave a comment