ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
08 มิถุนายน 2559 เวลา 08:18 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/analysis/world/436192
โดย…ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์
เจเน็ต เยลเลน ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณถึงทิศทางดอกเบี้ยระหว่างการกล่าวปาฐกถาที่สมาคมนโยบายต่างประเทศ เมืองฟิลาเดลเฟียว่า เฟดจะไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากเศรษฐกิจสหรัฐยังเข้มแข็งไม่เพียงพอ โดย แม้จะเห็นว่าเฟดควรที่จะขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่เยลเลนก็ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าจะสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเมื่อใด
การเปิดเผยดังกล่าวเกิดขึ้นหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานใหม่เดือน พ.ค. อยู่ที่ 3.8 หมื่นอัตรา น้อยที่สุดในรอบ 5 ปี โดยเยลเลน ระบุว่า แม้ตลาดการจ้างงานของสหรัฐยังคงเข้มแข็ง และการจ้างงานที่ออกมาต่ำกว่าคาดนั้นเป็นผลมาจากประชาชนได้งานมากขึ้นและมีผู้สมัครงานใหม่น้อยลง แต่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความเสี่ยงจากไตรมาสแรกที่ขยายตัวเพียง 0.8% เท่านั้น
นอกจากนี้ ผู้ว่าการเฟดยังระบุด้วยว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความเสี่ยง 4 ประการ ได้แก่ 1.แรงซื้อในสหรัฐ ซึ่งแม้จะยังทำผลงานได้ดีอยู่ แต่การลงทุนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาปรับตัวลดลง และ 2.สถานการณ์เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง โดยแม้ค่าเงินหยวนจะเคลื่อนไหวในระดับที่สามารถคาดการณ์ได้ แต่จีนยังคงเผชิญความเสี่ยงจากการเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจไปพึ่งพาการบริโภคและแรงซื้อภายในประเทศ
นอกจากนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจโลก ยังคงเผชิญความเสี่ยงการใช้นโยบายการเงินของบรรดาประเทศพัฒนาแล้ว เพื่อต่อสู้กับแรงซื้อและอัตราเงินเฟ้อหดตัว รวมถึงการลงประชามติการเป็นสมาชิกภาพสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ อีกด้วย
3.เศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งแม้การจ้างงานจะยังคงแข็งแกร่ง แต่เศรษฐกิจกลับขยายตัวอย่างไม่น่าพอใจ รวมถึง 4.อัตราเงินเฟ้อ ซึ่งยังอยู่ต่ำกว่า เป้าหมายที่ 2% โดยเยลเลน ระบุว่า อัตราการขยายตัวอัตราเงินเฟ้อยังคงไม่แน่นอน ท่ามกลางราคาน้ำมันที่ยังฟื้นตัวไม่ถึงระดับที่เสียไป และค่าเงินเหรียญสหรัฐที่เคลื่อนไหวอย่างคาดการณ์ไม่ได้
“หรือข้อมูลการจ้างงานแสดงให้เห็นการจ้างงานที่ลดลง ในเดือน เม.ย.และ พ.ค. กลายเป็นข้อมูลชี้เศรษฐกิจชะลอตัว? หรือการจ้างงานกำลังขยับขึ้นในอัตราที่ดีเยี่ยมอย่างที่เป็นในต้นปีและ ในปี 2015 กัน? หรือข้อมูลอัตราว่างงานล่าสุดแสดงว่าเรากำลังจะกลับสู่การจ้างงานสมบูรณ์? หรือการขยายตัวของค่าแรงที่ลดลงเป็นสัญญาณของความย่ำแย่อีกอันหนึ่ง? ทีมของฉันและตัวฉันจะจัดการกับคำถามเหล่านี้และคำถามอื่นๆ ที่จะตามมา” เยลเลน กล่าว
หลังการเปิดเผยของเยลเลน ตลาดต่างคาดการณ์เฟดจะหันไปขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. แทน โดยเนล ดัทต้า หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากเรเนซองส์ แมโคร รีเสิร์ช ในนิวยอร์ก ระบุว่า เฟดต้องการข้อมูลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ซึ่งจะต้องเป็นการขยายตัวที่ขยายต่อเนื่องไปไตรมาส 3 ด้วย
จับสัญญาณเฟดจากค่าเงินหยวน
โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจชื่อดังของ สหรัฐ เปิดเผยรายงานนำโดยเดวิด คอสติน นักวิจัย ของโกลด์แมน แซคส์ ว่า การจับตาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ควรจะจับตาการเคลื่อนไหวของการตั้งค่ากลางแลกเปลี่ยนค่าเงินหยวนเทียบกับเหรียญสหรัฐของจีนด้วย โดยเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา เมื่อธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) ตั้งค่ากลางแลกเปลี่ยนอ่อนค่าลง ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นของสหรัฐ โดยเฉพาะดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลงอย่างรุนแรง ในหลายสัปดาห์ต่อมา
เมื่อดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลงจะส่งผลให้เฟดตัดสินใจชะลออัตราการขึ้นดอกเบี้ยออกไป และเมื่อใดที่เฟดชะลอการขั้นดอกเบี้ยจะส่งผลให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าลง และทำให้พีบีโอซีหันไปตั้งค่ากลางเงินหยวนแข็งค่าขึ้น กลายเป็นการส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นของสหรัฐ และทำให้เฟดพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม รายงานของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า เมื่อเฟดตัดสินใจส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย จะทำให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้น และทำให้พีบีโอซีอ่อนค่าเงินหยวนอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อดัชนีเอสแอนด์พี 500 และทำให้เฟดตัดสินใจชะลอการขึ้นดอกเบี้ย วนเวียนกลายเป็นวัฏจักรในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ ยังคาดการณ์ว่า ค่าเงินหยวนจะอ่อนค่าลง 3% ในอีก 12 เดือน ข้างหน้า ในขณะที่ ทอมมี เซียะ นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารโอซีบีซีในสิงคโปร์ คาดการณ์ว่า ค่าเงินหยวนจะอ่อนค่าลงไปเช่นกันจากการแข็งค่าขึ้นของเหรียญสหรัฐ และคาดการณ์เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ เซียะ ระบุกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า จีนกำลังเดินหน้าปรับค่าเงินหยวนตามการเคลื่อนไหวของตลาดมากขึ้น นับตั้งแต่จีนเปิดเผยการคิดอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ โดยเทียบกับสกุลเงิน 13 สกุล แม้จะยังคงผูกค่าเงินหยวนเอาไว้กับเหรียญสหรัฐเอาไว้ และการเคลื่อนไหวตามตลาดของค่าเงินหยวนทำให้สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินดังกล่าวได้ง่ายขึ้น
เซียะ ระบุว่า แม้ค่าเงินหยวนจะอ่อนค่าลงแล้ว 2% เมื่อเทียบกับเหรียญสหรัฐตลอดเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา แต่ตลาดก็ยังคงไม่แสดงอาการตระหนกต่อการอ่อนค่าของค่าเงินดังกล่าว เนื่องจากการตั้งค่ากลางให้เป็นไปตามการเคลื่อนไหวของตลาดเป็นการสื่อสารกับตลาดได้อย่างดี และสร้างความสบายใจให้แก่นักลงทุน
สอดคล้องกับด้านธนาคารบราวน์ บราเธอร์ส ฮาร์ริแมน แอนด์ โค ในสหรัฐ เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน นักลงทุนอ่อนไหวต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวนน้อยลง และกระทบต่อตลาดหุ้นของสหรัฐน้อยลงด้วย