เอกชนญี่ปุ่นฉาวไม่หยุด’ซูซูกิ’รายล่าสุดมาตรฐานไม่ถึง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

19 พฤษภาคม 2559 เวลา 08:45 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/analysis/world/432744

เอกชนญี่ปุ่นฉาวไม่หยุด'ซูซูกิ'รายล่าสุดมาตรฐานไม่ถึง

โดย…ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

บริษัท “ซูซูกิ มอเตอร์” ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 4 ของญี่ปุ่น แถลงยอมรับเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า มีการติดตั้งอุปกรณ์ที่บิดเบือนค่าการปล่อยมลพิษและการประหยัดพลังงาน ในรถยนต์ทั้งหมด 16 รุ่น ที่ขายในประเทศญี่ปุ่นนับตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งกระทบกับรถยนต์จำนวนราว 2.1 ล้านคัน

อย่างไรก็ตาม ซูซูกิ มอเตอร์ ระบุว่า การ ติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวไม่ได้หมายถึงซูซูกิจงใจ ทุจริต เพื่อให้ข้อมูลการปล่อยมลพิษและการ ประหยัดพลังงานของรถยนต์ดีกว่าความเป็นจริง แต่เป็นการใช้อุปกรณ์ที่ไม่ตรงกับความต้องการของทางการญี่ปุ่น ดังนั้นซูซูกิจึงไม่มีความจำเป็นต้องแก้ไขข้อมูลการประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ยังยืนยันว่าไม่มีรถยนต์ในต่างประเทศได้รับผลกระทบ

หุ้นของซูซูกิร่วงลงมามากสุด 15% ระหว่างการซื้อขายระหว่างวันเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะปิดตัวที่แดนลบ 9.4% โดยเรื่องอื้อฉาว นับเป็นประเด็นอ่อนไหวในอุตสาหกรรมรถยนต์อีกครั้ง หลังเผชิญการเรียกคืนรถหลายสิบล้านคันจากถุงลมนิรภัยที่ทำงานผิดพลาด หรือการโกงการปล่อยมลพิษของโฟล์คสวาเกน ผู้ผลิตสัญชาติเยอรมนี

นอกจากนี้ การเปิดเผยดังกล่าวยังเกิดขึ้นภายหลังจาก “มิตซูบิชิ มอเตอร์” ออกมายอมรับเปลี่ยนแปลงตัวเลขการประหยัดพลังงานให้มากกว่าความเป็นจริง ซึ่งส่งผลให้กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นตรวจสอบเครื่องมือในการใช้ทดสอบการประหยัดพลังงานของผู้ผลิตรถยนต์ทุกเจ้าในญี่ปุ่น

ก่อนหน้านี้ กระทรวงสิ่งแวดล้อมเกาหลีใต้ ยื่นฟ้องบริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น และนิสสัน มอเตอร์ เกาหลีใต้ กรณีบิดเบือนข้อมูล ไอเสียในรถยนต์รุ่นคิดเป็นค่าเสียหาย 330 ล้านวอน (ราว 10 ล้านบาท) พร้อมสั่งให้เรียกคืนรถรุ่น ดังกล่าวที่จำหน่ายไปแล้วราว 814 คัน ในเกาหลีใต้

อุตสาหกรรมรถยนต์ไม่ใช่เจ้าเดียว

เว็บไซต์ข่าวดอยช์เวลล์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้  โตอะ คอร์ป บริษัทผู้รับเหมาชาวญี่ปุ่นออกมา ยอมรับว่าได้ปลอมแปลงข้อมูลโครงการพัฒนารันเวย์สนามบินระดับภูมิภาค 2 แห่ง ในญี่ปุ่น ซึ่งไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยหากเผชิญกับ แผ่นดินไหวขนาดใหญ่

การเปิดเผยดังกล่าวส่งผลให้เกิดการตั้งคำถามกับโครงการอื่นๆ ที่โตอะฯ เป็นผู้รับเหมาทั้งโครงการในสนามบินนานาชาติฮาเนดะ กรุงโตเกียว และ อีก 40 โครงการ ที่โตอะฯ เป็นผู้รับเหมามาตั้งแต่ปี 2008

นอกจากอุตสาหกรรมรถยนต์และผู้รับเหมารายดังกล่าวแล้ว ดอยช์เวลล์ ระบุว่า ยังมีบริษัท  โตชิบา ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชื่อดังที่ปั้นตัวเลขผลกำไรที่แท้จริงเกินจริงไปเกือบ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 7 หมื่นล้านบาท) ตลอดช่วงเวลา 7 ปี ขณะที่โตโย ไทร์ แอนด์ รับเบิ้ล ผู้ผลิตยางสัญชาติญี่ปุ่นกำลังสืบสวนกรณีใช้วัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน สำหรับการรองรับแผ่นดินไหวในอาคารถึง 145 แห่ง

ทั้งนี้ ภาคเอกชนญี่ปุ่นยังคงย่ำแย่ โดยการลงทุนของภาคเอกชนปรับตัวลดลง 1.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และยังเป็นการร่วงลงติดลบเป็นไตรมาสแรกในรอบ 3 ไตรมาส โดยหนังสือพิมพ์ไฟแนนซ์เชียลไทมส์ ระบุว่า ค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นราว 10% เทียบเหรียญสหรัฐในปีนี้เป็นส่วนสำคัญให้เอกชนญี่ปุ่นชะงักการลงทุน

จากข้อมูลของเอสเอ็มบีซี นิกโก ซิเคียวริตี้ส์ พบว่า ผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ปรับตัวลง 1.9% ในปีงบ 2015 เนื่องจากเงินเยนแข็งค่าเกือบ 7% ในช่วงปีงบประมาณไตรมาส 4 ระหว่างเดือน ม.ค.-มี.ค.ที่ผ่านมา  ส่งผลให้กำไรสุทธิไตรมาสสุดท้ายลดลงกว่า 42% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่คาดว่า ผลกำไรสุทธิภาคธุรกิจไม่รวมธุรกิจเทรดดิ้ง ในปี 2016 อาจปรับขึ้นเพียง 3.8%

ลงทุนภาครัฐกู้เศรษฐกิจ

แม้ภาคเอกชนญี่ปุ่นจะเผชิญเรื่อง ฉาวมาอย่างต่อเนื่อง ทว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นประจำเดือน ม.ค.-มี.ค. กลับขยายตัว เกินคาด 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ 0.4% เมื่อเทียบรายไตรมาสสร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมากหลังผลสำรวจของรอยเตอร์ส คาดการณ์เอาไว้เพียง 0.2% เท่านั้น ส่งผลให้ญี่ปุ่นสามารถรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยไปได้ อีกครั้ง

การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีเกิน คาดนี้เป็นผลมาจากการขยายตัวการใช้จ่ายของภาครัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบรายไตรมาสและการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาครัฐก็เพิ่มขึ้น 0.3% เช่นกัน โดยล่าสุดรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยงบประมาณ พิเศษสำหรับฟื้นฟูแผ่นดินไหว 7.78 แสนล้านเยน (ราว 2.51 แสนล้านบาท)

รอยเตอร์ส ระบุว่า มีการคาดการณ์ว่า นายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ จะประกาศการกระตุ้นทางการคลังภายในการประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 ชาติ (จี7) ซึ่งมีกำหนดการประชุมระดับผู้นำในวันที่ 26-27 พ.ค.ที่จะถึงนี้

“คาดการณ์ว่ามาตรการจะเป็นการกระตุ้นแบบผสมผสาน เช่น คูปองช็อปปิ้งในการกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและโครงการลงทุนสาธารณะและการผ่อนคลายกฎระเบียบ” อิซูมิ เดวาเลียร์ นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารเอชเอสบีซี กล่าว

นอกจากการใช้จ่ายภาครัฐ การใช้ จ่ายภาคครัวเรือนก็ขยายตัว 0.5% เมื่อเทียบรายไตรมาส เมื่อเทียบกับคาดการณ์ที่ 0.3% โดยการใช้จ่ายภาคครัวเรือน คิดเป็นถึง 60% ของขนาดเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ส ระบุว่า ยังคงต้องจับตารัฐบาลญี่ปุ่นกลับจะขึ้นภาษีขายเดิมจาก 8% เป็น 10% ในเดือน เม.ย. 2017 ตามที่ประกาศไว้หรือไม่ เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นจะใช้ตัวเลขในไตรมาสแรกพิจารณาขึ้นภาษีขายดังกล่าว

 

Leave a comment