ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/news/politic/229354
การเมือง : 9 มิ.ย. 2559
คุก2ปี’เมธี-วัชระ’หมิ่นจตุพรอมเงิน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 2 ปี ปรับ 1 แสน ‘เมธี’ อดีตแนวร่วม นปช. ‘วัชระ’ อดีต ส.ส.ปชป. หมิ่น ‘จตุพร’ อมเงินบริจาคเสื้อแดง 68 ล้าน ลดโทษหนึ่งในสาม รอลงอาญาไว้ 2 ปี
ตามฟ้องโจทก์ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 53 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 53 นายเมธี แถลงข่าวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ทำนองว่านายจตุพร อมเงินบริจาคของคนเสื้อแดงจำนวน 68 ล้านบาท และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับผู้หญิงบนชายหาดเมืองพัทยา รวมทั้งกล่าวหาว่านายจตุพร โทรศัพท์ขู่ฆ่าจำเลย ส่วนจำเลยที่ 2 – 7 ซึ่งเป็นสื่อมวลชนได้เผยเเพร่คำสัมภาษณ์ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง
โดยศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาวันที่ 30 มิ.ย. 57 ให้จำคุกนายเมธี จำเลยที่ 1 ฐานหมิ่นประมาทฯ 2 ปี และปรับ 100,000 บาท แต่คำให้การเป็นประโยชน์ในการพิจารณาคดี เห็นควรลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกนายเมธี เป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน และปรับ 66,666 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และให้นายเมธี จำเลยที่ 1 โฆษณาคำพิพาษาย่อใน นสพ.ไทยรัฐ และเดลินิวส์ด้วย เป็นเวลา 3 วัน โดยให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้ชำระค่าใช้จ่าย
ส่วนจำเลยที่ 2 – 7 นั้น ศาลเห็นว่า ทางนำสืบของโจทก์ ไม่ได้แสดงว่ามีการแต่งเติมข้อความส่วนใด อย่างไร จึงไม่ครบองค์ประกอบความผิด ขณะที่จำเลยที่ 2 – 6 ก็เป็นเพียงเจ้าของ นสพ.แนวหน้า และ นสพ.เอเอสทีวีผู้จัดการรายวัน ก็ไม่ปรากฏว่าสมคบร่วมกับนายเมธีจำเลยที่ 1 ในการหมิ่นประมาท จึงพิพากษายกฟ้อง
ต่อมานายเมธี ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลยกฟ้อง ขณะเดียวกัน นายจตุพร โจทก์ก็ยื่นอุทธรณ์ ให้ศาลพิพากษาลงโทษนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ปชป.จำเลยที่ 4 ด้วย
ขณะที่วันนี้ นายเมธี เดินทางมาศาล พร้อม เปิดเผยก่อนเข้าห้องพิจารณาว่า ตัวเองอยู่ในโครงการคุ้มครองพยาน ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คดีที่ นปช.ถูกฟ้องข้อหาก่อการร้าย จึงไม่ทราบนัดอ่านอุทธรณ์ในครั้งแรก แต่เมื่อทราบว่าถูกออกหมายจับที่ไม่มาคำพิพากษาครั้งแรก เจ้าหน้าที่ก็ได้พาตัวเองเข้ามอบตัว ซึ่งศาลถอนหมายจับแล้ว
โดยนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันนี้ จำเลยทั้งหมด ก็ได้เดินทางมาศาล
ทั้งนี้ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแลัว เห็นว่า มีบันทึกคำถอดเสียงของนายเมธี จำเลย ซึ่งถ้อยคำเป็นการหมิ่นประมาท
ส่วนที่นายเมธี อุทธรณ์ว่า ข้อความดังกล่าวเป็นความจริง เนื่องจากตลอดการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ไม่มีการจัดทำบัญชีรายรับ – รายจ่ายเงินบริจาค แต่นายเมธี ก็ไม่มีพยานหลักฐานมายืนยันว่านายจตุพร โจทก์นำเงินบริจาคของแนวร่วม นปช.ไปใช้จ่ายส่วนตัว แต่อย่างใด
ขณะที่นายวัชระ เพชรทอง นำข้อความดังกล่าวไปเผยแพร่ผ่านบทความของตัวเองใน นสพ.แนวหน้า โดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงไม่ใช่การติชมด้วยความเป็นธรรม หรือการแสดงความคิดเห็น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง นายวัชระ จำเลยที่ 4 มานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์โจทก์ฟังขึ้น
ศาลอุทธรณ์ จึงพิพากษาแก้ให้จำคุก นายเมธี จำเลยที่ 1 และนายวัชระ จำเลยที่ 4 คนละ 2 ปี และปรับคนละ 100,000 บาท
แต่คำเบิกความจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ลดโทษ หนึ่ง ในสาม คงจำคุกจำเลยทั้งสองไว้ คนละ 1 ปี 4 เดือน และปรับคนละ 66,666 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี
ส่วนจำเลยที่เหลือ ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ และผู้จำหน่าย พิพากษาให้ยกฟ้อง เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าร่วมกับนายเมธี จำเลยที่ 1 กระทำผิด และให้จำหน่ายคดีบริษัทเอ็นเอส ทีนิวส์ จำกัด จำเลยที่ 5 ออกจากสารบบความด้วย เนื่องจากโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ในเวลาที่กำหนด
