ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/news/politic/229473

การเมือง : 10 มิ.ย. 59
คุก2ปีไม่รออาญา‘ตู่’หมิ่น‘มาร์ค’สั่งฆ่าปชช.
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา“จุตพร”ปราศรัยปี 52 หมิ่น “อภิสิทธิ์” อาชญาสั่งฆ่าประชาชน ขณะที่ประธานนปช. ได้ประกัน 200,000 บาท พร้อมสู้คดีศาลฎีก
ที่ห้องพิจารณา 805 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้(10มิ.ย.) ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดี อ.4176/2552ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 กรณีเมื่อวันที่ 11 ต.ค.52 จำเลยได้ขึ้นปราศรัยเวที นปช. ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน ที่ได้กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ โจทก์ ทำนองว่าประวิงเวลาในการทำความเห็นเพื่อเสนอสำนักราชเลขาธิการ พิจารณาผู้ที่ร่วมลงรายชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ เมื่อวันที่17ต.ค.52จำเลยยังได้ขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่ม นปช.ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ที่กล่าวหานายอภิสิทธิ์ ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี ทำนองว่าเป็นอาชญากรและฆาตกรสั่งฆ่าประชาชนโดยได้มีการเผยแพร่คำปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์พีเพิล แชลแนลโดยชั้นพิจารณาจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี
โดยศาลชั้นต้น มีพิพากษาเมื่อวันที่ 28 ม.ค.58 ให้จำคุก นายจตุพร จำเลย ตามมาตรา 328 รวม 2 กระทงๆ ละ 1 ปี คงจำคุกทั้งสิ้น 2 ปี และเมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์ของจำเลยแล้ว เห็นว่า นอกจากเป็นการกระทำให้โจทก์เสียหายแล้วยังได้กระทบต่อสถาบันฯ ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชน กรณีจึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ โดยให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาย่อด้วย ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ เดลินิวส์ และมติชน เป็นเวลา 7 วันติดต่อกันโดยจำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย และให้นับโทษจำเลยต่อ จากคดีหมายเลขดำ อ.1008/2553 ที่ได้กล่าวหมิ่นประมาทโจทก์อีกคดีหนึ่งด้วย ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 5 หมื่นบาท แต่โจทก์จำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี
ซึ่งวันนี้ นายจตุพร เดินทางมาศาลอาญาพร้อมด้วย นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ขณะที่โจทก์มีผู้รับมอบอำนาจ เดินทางมาศาล
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมแล้ว เห็นว่า ประโยคปราศรัย ที่จำเลยกล่าวถึง อาชญากรสั่งฆ่าประชาชนอย่างเลือดเย็น….คำปราศรัยของจำเลยดังกล่าว เป็นการยืนยันว่า โจทก์เป็นอาชญากรสั่งฆ่าประชาชน จึงไม่ใช่เป็นการติชมด้วยความเป็นธรรม แต่เป็นการกล่าวหมิ่นประมาทโจทก์ทำให้ถูกดูหมิ่น เสื่อมเสียชื่อเสียง
ส่วนที่จำเลย อุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษนั้น ศาลเห็นว่า ทั้งโจทก์และจำเลยต่างเป็นนักการเมืองด้วยกัน จึงสามารถที่จะการวิพากษ์วิจารณ์ตามระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงและเป็นการติชมเพื่อให้บ้านเมืองดีขึ้น เจริญขึ้น และเกิดความสงบเรียบร้อย แต่การกระทำของ จำเลยก็ไม่ใช่การติชมเพื่อให้บ้านเมืองเจริญขึ้น จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ภายหลังนายจตุพร จำเลย ได้ยื่นคำร้องและหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา โดยศาลพิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลย โดยตีราคาประกัน 200,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
ขณะที่นายวิญญัติ ทนายความ กล่าวว่า ศาลอุทธรณ์มีพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ซึ่งตนยังติดใจส่วนที่ศาลไม่ได้วินิจฉัย เรื่องคุณงามความดีของจำเลยเพื่อพิจารณาประกอบการรอการลงโทษ โดยจะยื่นฎีกาประเด็นนี้ด้วย