เมื่อเวลา 15.00น. วันที่ 7 มิ.ย. 59 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความมาตรา 61 วรรค2 พ.ร.บ.ประชามติ ขัดรัฐธรรมนูญ ว่า เรื่องไม่มีคำถามว่าถ้าอย่างนั้นอย่างนี้ล่วงหน้า ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินอย่างเดียว เพราะเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการฟ้องร้อง โดยศาลรัฐธรรมจะเป็นผู้พิจารณา จะผิดหรือถูกหรือจะผิดเฉพาะมาตรานี้ ไม่ใช่ว่าผิดทั้งหมด ฉะนั้นอย่าไปตีรวนว่าผิดตรงนี้แล้วต้องผิดทั้งฉบับ มันก็ถึงล้มไง แล้วมาบอกว่าตนจะล้ม หรือตนแกล้งเขียนให้มันผิด คิดแบบนี้ประเทศก็ไปไม่ได้

เมื่อถามว่ามองเจตนาของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. ที่ออกมาทั้งเบรกกิจกรรมการทำประชามติและเร่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยเร็ว นายกฯ กล่าวว่า จะเจตนาอย่างไรก็เรื่องของเขา ตนไม่สนใจ การพิจารณาของศาลเร่งได้หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นก็ไปเร่งคดีสิมีอยู่ ตนยังไม่เร่งเลย นายจตุพร มีสิทธิ์อะไรมาเร่ง อยู่ในกลไกอะไรตรงไหน มันก็ดีแต่เคลื่อนไปมา แล้วคุณก็ไปขยายความให้เขาไปเรื่อยๆ ก็เอาสิ

เมื่อถามว่านายจตุพร ออกมาพูดว่าการทำประชามติครั้งนี้ต้องใช้งบประมาณถึงหนึ่งหมื่นล้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะเท่าไรก็เท่านั้น นายจตุพร จะพูดอะไรตนไม่ฟัง ขี้เกียจฟัง รัฐบาลเพียงอนุมัติหลักการงบประมาณไปสามพันล้าน ก็แค่นั้นจะเพิ่มเติมตรงไหนต้องทำเรื่องมา แต่ตนยังไม่ได้อนุมัติอะไรเพิ่มเติมไป สิ่งที่เขาพูด เกรงจะเกิดความเสียหายนั้นเป็นการพูดไปเรื่อยสื่อก็ไปขยายให้อยู่นั้น ไม่ใช่อยู่ดีๆใช้งบส่งเดชหมื่นล้าน ใครจะทำ และประชามติไม่ทำได้หรือไม่ สรุปทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ดักหน้าดักหลังรัฐบาล สิ่งที่ตนตอบในวันนี้ สื่อจะไปสร้างการรับรู้ให้ประชาชนอย่างไร บอกว่าอนุมัติไปสามพันล้าน แล้วยังไม่มีอนุมัติอย่างอื่นเพิ่มเติม สื่อจะช่วยเถียงแทนตนหรือไม่ ถ้าเขาบอกว่าหมื่นล้านก็ให้เอาหลักฐานมา ต้องมีเหตุมีผลกันบ้าง

เมื่อถามว่ามองดูสถานการณ์แล้วคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จะสามารถทำประชามติได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าหากเกิดเหตุตีกัน ก็เป็นเรื่องของประชาชนตีกัน ฝ่ายความมั่นคงก็ดูแล จบแค่นั้น เมื่อถามย้ำว่าถ้าเกิดการตีกันวุ่นวายต้องหมายความว่าการทำประชามติต้องยุติลงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าตีกันจนทำไม่ได้ ก็คือทำไม่ได้ แต่ถ้าตีกันแล้วทำประชามติต่อได้ก็คือทำได้ แต่ถึงขั้นเอาระเบิดเอาปืนมายิงกัน ก็ทำประชามติไม่ได้ เหมือนที่ผ่านมาจะให้ตนไปหยุด ทุกคนที่ตีกันทั้งหมดก็ไม่ใช่ ในเมื่ออยากตีกันเอง อย่างไรก็ตามตนต้องหยุดให้ได้ อย่าใช้อาวุธสงครามมายิงใส่กัน ตนไม่รับ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการตั้งศูนย์ปราบโกงของกลุ่มนปช. นายกฯ กล่าวว่า ตั้งไปสิ ตนได้พูดไปแล้วส่วนกรณีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ไม่เห็นด้วยกับการตั้งศูนย์ดังกล่าวนั้น ก็คือไม่เห็นด้วย แต่บอกไม่เห็นด้วยแล้วตั้งไหม ในเมื่ออยากตั้งก็ตั้งไป ซึ่งตนก็ไม่เห็นด้วย และตอนนี้ยังไม่มีมาตรการใดเพราะตนไม่รับ และมองว่าเป็นอากาศธาตุ ไม่สนใจ อย่าให้ความสนใจมากมายนัก
เว็บ’ประชามติ’เปิดประกวดออกแบบเสื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเว็บไซต์ prachamati.org ซึ่งรณรงค์เรื่องการแสดงความเห็นในการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ล่าสุดได้ออกแคมเปญ เชิญชวนประชาชน ร่วมส่งแบบเสื้อรณรงค์ประชามติเข้าประกวดภายใต้แนวคิด “Design your future” โดยกำหนดกติกาว่าต้องออกแบบเพื่อรณรงค์ทั้ง “Vote yes” และ “Vote no” (แต่ไม่จำเป็นต้องมีคำว่า yes หรือ no อยู่บนเสื้อ) โดยรางวัลจะมีทั้งสองประเภทคือ Vote yes และ Vote no โดยรางวัลที่ 1 ได้รางวัลละ 4,000 บาท รางวัลที่ 2 รางวัลละ 3,000 บาท ส่วน รางวัลที่ 3 รางวัลละ 2,000 บาท นอกจากนี้ยังระบุว่าเจ้าของผลงานจะเปิดเผยชื่อต่อสาธารณะหรือไม่ก็ได้

นายจอน อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLAW) ซึ่งเป็นภาคีหนึ่งของเว็บประชามติเปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่าตนต้องการส่งเสริมให้ประชาชนกล้าแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติได้ ซึ่งการแสดงความเห็นของประชาชนก่อนการลงประชามติเป็นสิ่งที่ทั่วโลกสามารถดำเนินการได้ โดยไม่ถูกห้ามดังนั้นการใส่เสื้อยืดแสดงเจตนารมณ์ของตนเองว่าจะโหวตหรือลงมติไปทางไหน เป็นสิ่งปกติที่สามารถทำได้ ซึ่งการจัดโครงการดังกล่าวก็เพื่อต้องการให้ประชาชนตระหนักถึงความมีอิสระของตนเองต่อ การแสดงความเห็นของตัวเองในเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงต้องการท้าทายระเบียบ กกต. ที่เป็นกติกาไม่อยู่ใรนระบอบประชาธิปไตย เพราะการทำหรือการใส่เสื้อเพื่อแสดงจุดยืนไม่มีประเทศที่ไหนในโลกห้ามไว้ อย่่างไรก็ตามกิจกรรมที่ทำขึ้นตนไม่ถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เพราะเป็นเพียงช่วงที่ประชาชนร่วมกันออกแบบสัญลักษณ์เท่านั้น สิ่งที่คาดหวังว่าจะได้รับตือการให้คนเลิกกลัวการแสดงความเห็น

นายจอนกล่าวว่ากรณีที่มีข่าวว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ยื่นเรื่องให้ตีความมาตรา 61 วรรคสองของพ.ร.บ.ประชามติ ในช่วงเดือน ก.ค. ว่า ตนมองว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะใช้เวลาพิจารณาได้เร็วกว่านั้นคือเสร็จในเดือน มิ.ย. เพราะไม่มีประเด็นอื่นที่อยู่ในการพิจารณาของศาลฯ และประเด็นนี้กระทบกับสิทธิของประชาชน เชื่อว่าศาลฯจะไม่ใช้เวลานานในการพิจารณา