ปธ.กกต.ไม่ระงับเพลง‘7สิงหาประชามติร่วมใจ’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/politic/229278

การเมือง  :  8 มิ.ย. 2559

ปธ.กกต.ไม่ระงับเพลง‘7สิงหาประชามติร่วมใจ’

ปธ.กกต.ไม่ระงับเพลง‘7สิงหาประชามติร่วมใจ’ เหตุไม่มีเนื้อหาปลุกระดม เตรียมเอาผิดเพจดังหยาบคาย-โน้มน้าว

ปธ.กกต.ไม่ระงับเพลง‘7สิงหาประชามติร่วมใจ’ เหตุไม่มีเนื้อหาปลุกระดม เตรียมเอาผิดเพจดังหยาบคาย-โน้มน้าว

8มิ.ย.59 นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีเสียงวิจารณ์ว่าเพลง “7 สิงหาประชามติร่วมใจ ประชาธิปไตยมั่นคง” ของกกต.มีเนื้อหาบางท่อนดูหมิ่นคนภาคอีสานและภาคเหนือ ว่า กรณีนี้เป็นเรื่องของมุมมองที่แต่ละคนจะมีความเห็น ถึงอย่างไร กกต.คงจะไม่ไประงับการเผยแพร่ เพราะมองว่า เพลงดังกล่าวไม่มีเนื้อหาใดที่เข้าข่ายปลุกระดม ข่มขู่ หรือผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ถ้าหาก กกต.ไปกังวล ก็เท่ากับว่า จะต้องยกเลิกทุกเรื่องตามที่คนเขาสะท้อนมา
กกต.เตรียมเอาผิดเพจดังโน้มน้าวประชามติ

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวภายหลังการประชุมกกต. ว่า ที่ประชุม กกต. ได้รับทราบกรณีที่เพจในเฟซบุ๊กเผยแพร่เพลงที่มีข้อความหยาบคาย และโน้มน้าวจูงใจให้คนไปออกเสียงในทางใดทางหนึ่ง และได้มอบหมายให้คณะทำงานของสำนักงาน กกต.ไปศึกษา ว่าเข้าข่ายมีความผิดหรือไม่ ตามที่ได้ให้ข่าวไปก่อนหน้านี้ คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์น่าจะได้ข้อมูล

“อยากฝากถึงบุคคลที่ปรากฏในคลิปเพลงดังกล่าว หากไม่รู้เห็น หรือกระทำการก่อน พ.ร.บ.ประชามติมีผลบังคับ ก็ควรไปแจ้งลงบันทึกประจำวัน ว่าไม่มีส่วนรู้เห็น หรือสนับสนุนให้มีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวหลัง พ.ร.บ.ประชามติมีผลใช้บังคับ เพราะไม่เช่นนั้นจะถือว่ามีความผิดไปด้วย รวมทั้งประชาชนทั่วไปขอให้ระมัดระวังในการส่งต่อคลิปดังกล่าวด้วย” นายสมชัย กล่าว

ทั้งนี้ นายสมชัย ยังเลี่ยงที่จะตอบกรณี เพลง 7 สิงหาประชามติร่วมใจ ประชาธิปไตยมั่นคง ของ กกต.ถูกมองว่า มีเนื้อหาบางท่อนดูหมิ่นคนภาคอีสาน และภาคเหนือ โดยระบุว่า ขอไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ และ กกต.ก็ไม่ได้หารือถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นในที่ประชุม กกต. ด้วย แต่ส่วนตัวยังเห็นว่า เนื้อหาไม่ได้เป็นการดูหมิ่นคนภาคใด และผู้แต่งเพลงก็ยืนยันแล้วไม่ได้เจตนาที่จะดูหมิ่นแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า จำเป็นหรือไม่ที่ กกต.จะต้องระงับเพลง 7 สิงหาฯ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา นายสมชัย กล่าวว่า คิดว่าบางทีสังคมก็อ่อนไหวเกินไป และบางเรื่องก็ไม่เป็นสาระสำคัญมากนัก

นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรณี การตั้งศูนย์ปราบโกงของกลุ่ม นปช. ว่า การที่ประชาชนจะรวมตัวกันในการสอดส่องการออกเสียงประชามติเป็นสิ่งที่ดี แต่ระเบียบของ กกต.ไม่ได้ส่งเสริมให้องค์กรเอกชนเข้ามาร่วมตรวจสอบประชามติ เหมือนกับการเลือกตั้ง ที่ กกต. สามารถเข้าไปสนับสนุนได้เต็มที่ ดังนั้น กกต. จึงไม่สามารถไปส่งเสริมให้องค์กรเอกชนเข้ามาสังเกตการณ์การออกเสียงในหน่วยออกเสียงได้
ศาลรธน. สั่งรับคำร้องก.ม.ประชามติขัดรธน.หรือไม่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.50 น. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารข่าว ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่เสนอเรื่องพร้อมความเห็นของให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2559 มาตรา 61 วรรคสอง เป็นบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนเกินความจำเป็นและกระทบกระเทือนสาระสำคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพ มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2257 มาตรา 4 หรือไม่ โดยได้มีหนังสือแจ้งผู้ตรวจการแผ่นดินในฐานะผู้ร้องได้รับทราบ พร้อมทั้งเรียกเอกสารที่เกี่ยวข้องจากคณะกรรมการการการเลือกตั้ง (กกต.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในส่วนของเจตนารมณ์ ความเป็นมา และเหตุผลในการบัญญัติมาตรา 61 วรรคสอง รวมทั้งข้อมูลอื่นใดที่เห็นว่าเกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาของศาล และให้ยื่นต่อศาลภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ทั้งนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 มาตรา 45 วรรคสองประกอบข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาและการทำคำวินิจฉัย 2550 ข้อ 17 (18) ข้อ 25 ข้อ 27 และข้อ 45
“อุเทน”แนะคสช.ล้มกระดานประชามติ.

นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงความเคลื่อนไหวในการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง วันที่ 7 ส.ค.นี้ว่า ยิ่งเวลาใกล้การทำประชามติมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งเห็นเค้าลางของความขัดแย้งมากขึ้นเท่านั้น ทั้งจากบทบัญญัติของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ออกเสียงประชามติฯ และจากการกฎระเบียบต่างๆของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก.ก.ต.) ในฐานะผู้ควบคุมที่ขาดความชัดเจน ทั้งนี้ตนขอย้ำข้อเสนอที่เคยขอให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตัดขั้นตอนการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญออกไป

“ย้ำอีกครั้งว่าหาก คสช.เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เหมาะสมดีแล้ว ก็ควรประกาศใช้เลย ไม่ต้องทำประชามติให้ยุ่งยาก แต่ คสช.ก็ต้องรับผิดชอบในผลพวงที่จะตามมาด้วย หรือแม้จะมีการทำประชามติ คสช.ก็ต้องรับผิดชอบผลที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องความขัดแย้ง ไม่สามารถผลักความรับผิดชอบมาให้ประชาชนได้” นายอุเทน ระบุ
“มีชัย”กระตุกต่อมคิดคนบิดเบือนร่างรธน.  

จากกรณีที่ทางสังคมออนไลน์ ได้แชร์ข้อความภาพ เกี่ยวกับการยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเป็นโครงการรักษาพยาบาลราคาถูกให้กับประชาชนที่ยากจน และมีข้อความระบุว่า “รู้ยัง ถ้าประชามติผ่าน ยกเลิก 30 บาทรักษาทุกโรค ต่อไปนี้ไม่มีแล้วบัตร 30 บาท ต้องใช้บัตรผู้ยกไร้แทน ใครมีบ้าน ถือว่าไม่ใช่ผู้ยากไร้ และคนจนไม่มีสิทธิเจ็บป่วยนั้น นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แถลงว่าข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง และเข้าข่ายบิดเบือนเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญและเข้าข่ายกระทำผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 มาตรา 61 ซึ่งทางกรธ.จะนำเนื้อหาดังกล่าวแจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ กรธ. จะไม่แจ้งความเพื่อเอาผิดผู้ที่กระทำเรื่องดังกล่าว เพราะไม่ต้องการให้เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อย่างไรก็ตามในเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของบุคคลที่จะรับบริการสาธารณสุขของรัฐ โดยกำหนดว่า บุคคลผู้ยากไร้ย่อมมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขของรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายบัญญัติ แต่ไม่มีข้อความใดที่จะเป็นการยกเลิกสิทธิการรักษาพยาบาลของประชาชนตามสิทธิที่ได้รับในปัจจุบัน

ด้านนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ซึ่งสังเกตการณ์การแถลงชี้แจงของนายอุดม ให้สัมภาษณ์เสริมด้วยว่า “ข้อความที่แชร์ทางสื่อออนไลน์นั้นไม่ใช่แค่บิดเบือน แต่ถือว่าเป็นข้อความเท็จ หากใครคิดจะปราบโกงขอให้มาดูประเด็นนี้ด้วย เพราะเป็นการโกงชัดๆ ไม่มีมูลความจริงเลย ไปเสกสรรค์ปั้นแต่งกันเอง ผมคิดว่าเกิดเป็นมนุษย์ต้องดีกว่าสัตว์ ต้องเห็นแก่ประโยชน์ประเทศ และประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน และทำทุกอย่างที่ไม่เป็นความจริง”

นายมีชัย กล่าวด้วยว่า สิทธิของประชาชนที่ได้รับในปัจจุบันยังคงได้รับสิทธิดังกล่าวเช่นเดิม แม้โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคจะเป็นนโยบายของพรรคการเมืองแต่เท่าที่ทราบหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข ได้วางแนวปฏิบัติที่เป็นหลักเป็นฐาน และเป็นเรื่องตายตัวแล้ว ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้โดยง่าย สำหรับการเขียนเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาปรับเปลี่ยนไปจากเดิมและอาจทำให้บุคคลเข้าใจว่าเมื่อไม่เขียนนโยบายรัฐบาลเดิมที่ใช้อยู่นั้นอาจถูกยกเลิกได้ด้วยรัฐบาลชุดใหม่นั้น ในร่างรัฐธรรมนูญได้ให้ความสำคัญต่อสิทธิที่ประชาชนต้องได้รับจากรัฐ จึงเขียนให้เป็นหน้าที่ของรัฐเพื่อรับประกันสิทธิไว้แล้ว ทั้งนี้การเขียนกำหนดไว้เป็นหน้าที่ของรัฐยังมีผู้กล่าวหาว่าเขียนกรอบแบบจำกัดมากเกินไปอาจทำให้รัฐบาลชุดใหม่ไม่สามารถกำหนดนโยบายใดๆ ได้
กรธ.พอใจภาพรวมอบรมวิทยากรระดับอำเภอ 

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มีวาระรับฟังผลการอบรมวิทยากรระดับอำเภอ ซึ่งเป็นเครือข่ายของกรธ. ที่จะเผยแพร่และประชาสัมพันธ์เนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ ไปสู่ประชาชน 77 จังหวัด โดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ให้สัมภาษณ์ก่อนการรับฟังรายงานดังกล่าว ถึงกรณีการชี้แจงรายละเอียดของร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติที่หลายฝ่ายมีความเข้าใจผิดในเนื้อหา เพราะนำไปผูกเข้ากับนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ว่า เรื่องดังกล่าวต้องรับฟังการชี้แจงและรายงานของแต่ละเวทีก่อน ขณะที่บางพื้นที่พบการชี้แจงรายละเอียดของร่างรัฐธรรมนูญโดยวิทยากรฯ ยึดโยงกับการตอบโต้ข้อมูลของฝ่ายนักการเมืองนั้น ถือว่าไม่เป็นปัญหา เพราะวิทยากรฯ มีความเป็นอิสระที่จะคิดแนวทางการชี้แจงและอธิบายเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ

ด้านนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ฐานะประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์และสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมกรธ. วาระรับฟังผลการอบรมวิทยากรระดับอำเภอ ซึ่งเป็นเครือข่ายของกรธ. ที่จะเผยแพร่และประชาสัมพันธ์เนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ ไปสู่ประชาชน 77 จังหวัด ว่า ภาพรวมของเวทีอบรมวิทยากรระดับอำเภอ เป็นไปอย่างน่าพอใจ เพราะวิทยากรระดับจังหวัดฐานะผู้อบรมวิทยากรระดับอำเภอนั้น สามารถชี้แจงเนื้อหาและตอบคำถามได้เป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่และสังเกตการณ์ของกรธ. ตามเวทีอบรมวิทยากรในพื้นที่ต่างๆ นั้น พบว่าวิทยากรฯ ได้เน้นการให้คำอธิบายและชี้แจงตามเอกสารเป็นหลัก ทั้งนี้พบบางประเด็นที่ วิทยากรฯ ชี้แจงคลาดเคลื่อนเล็กน้อย อาทิ สิทธิของผู้สูงอายุที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดว่า เป็นผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้เพียงพอกับการยังชีพจะได้รับเบี้ยยังชีพ ดังนั้นเท่ากับผู้สูงอายุที่เป็นคนรวยจะไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว ซึ่งวิทยากรชี้แจงผิดไป ทำให้กรธ.ที่เข้าสังเกตการณ์เวทีดังกล่าวได้อธิบายแก้ไขความเข้าใจดังกล่าวให้ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติไม่ได้ตัดสิทธิที่ผู้สูงอายุ หรือสิทธิของประชาชนที่ได้รับตามนโยบายรัฐ เป็นต้น ดังนั้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อไปคาดว่าจะไม่เป็นปัญหา ขณะที่การอบรมวิทยากรระดับหมู่บ้าน ที่จะจัดตั้งแต่วันที่ 8 – 21 มิ.ย. นั้น ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้ส่งรายละเอียดที่จะจัดในแต่ละเวทีให้ กรธ. แล้ว ซึ่งทางกรธ. เตรียมวางแผนที่จะลงพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์ด้วย


Leave a comment