‘สมคิด’ปลุกท้องถิ่นร่วมขับเคลื่อน‘ประชารัฐ’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/politic/229524

การเมือง  :  1 วันที่ผ่านมา

‘สมคิด’ปลุกท้องถิ่นร่วมขับเคลื่อน‘ประชารัฐ’

‘สมคิด’ปลุกท้องถิ่นร่วมแรงร่วมใจช่วยสร้างเศรษฐกิจไทยก้าวหน้า หนุนโครงการตำบลละ 5 ล้านช่วยสร้างเศรษฐกิจเข้มแข็งฐานราก เดินหน้าขับเคลื่อน ‘ประชารัฐ’

            วันที่ 10 มิ.ย.2559 ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อิมแพ็ค เองทองธานี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “ท้องถิ่นก้าวไกล เศรษฐกิจไทยก้าวหน้า” พร้อมร่วมพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อร่วมขับเคลื่อนการลงทุนท้องถิ่น โดยมี 7 หน่วยงานต่างๆเข้าร่วม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานหอการค้าแห่งประเทศไทย นายฐาปน สิริวัฒนภักดี หัวหน้าทีมภาคเอกชน คณะทำงานการเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

นายสมคิด  กล่าวว่าเรื่องการพัฒนาท้องถิ่นหรือชุมชน เป็นนโยบายเน้นหนักของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเศรษฐกิจของชาติมี 2 ภาคส่วน คือ ธุรกิจขนาดใหญ่ และการเกษตรหรือตามชนบท ซึ่งทั้ง 2 ภาคส่วนจะต้องเติบโตควบคู่ไปด้วยกัน เรื่องจริงของคนไทยส่วนใหญ่ที่ยังยากจนเพราะมีความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเป็นที่มาของความขัดแย้งในประเทศต่างๆในโลกนี้ ซึ่งผู้ว่าการธนาคารโลกบอกว่าหน้าที่ของธนาคารโลกคือ การขจัดความยากจนอย่างที่สุดให้หมดไปในปี คศ.2030 และอีกประการหนึ่งคือทำอย่างไรให้ประเทศต่างๆที่มีรายได้สูงอยู่แล้วจะช่วยกระจายความสุขให้คนอื่นๆได้อย่างไร และจะทำให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนไปได้อย่างไรด้วย

อย่างไรก็ตาม การมองดูว่าส่วนต่างๆของเศรษฐกิจมีสภาวะการที่แท้จริงเป็นอย่างไร ไม่ใช่ดูเฉพาะตัวเลข GDPเพียงอย่างเดียว ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบิลไพรซ์ บอกว่าเราต้องมองข้าม GDP แต่ระบบเศรษฐกิจที่แท้จริงต้องดูที่กำลังซื้อหรือรายได้ของคนที่มีฐานะปานกลางและยากไร้ ซึ่งหากมีความสามารถมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นก็จะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันบรูไนเวลานี้แม้ถือว่าเป็นประเทศร่ำรวยแต่ก็กำลังอยู่ในสภาวะน่าเป็นห่วงเพราะพึ่งพาราคาน้ำมันเป็นหลัก ขณะที่มาเลเซียก็เริ่มมีแนวโน้มถดถอยทางเศรษฐกิจ

รองนายกฯ กล่าวว่ารัฐบาลมีความเป็นห่วงภาคเกษตรอย่างมาก เพราะปีที่ผ่านมาราคาพืชผลทางเกษตรตกต่ำและเกิดภาวะฝนแล้ง ทำให้เกษตรกรยากไร้เพิ่มขึ้น ซึ่งภาคเกษตรนี้จะส่งผลกระทบกับภาคส่วนอื่นในระบบเศรษฐกิจเป็นลูกโซ่ ซึ่งรัฐบาลก็เร่งแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรอย่างต่อเนื่องทั้งระยะสั้น ขณะที่การแก้ไขปัญหาระยะยาวก็ต้องทำตามนโยบายที่ธนาคารโลกตั้งไว้ คือต้องทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งต้องอาศัยจากการคิดการทำจากด้านล่างขึ้นมาข้างบน เช่น Otop 15 ปีที่ผ่านมาเป็นเครื่องยืนยันว่าแสดงให้เห็นว่าคนในชนบทมีความรู้สึกเป็นเจ้าของ เป็นตัวอย่างของ Social Moblization ที่ดี คือสังคมต้องเข้ามาร่วมเรียนรู้ร่วมกัน และกำลังจะทำ Otop Village แต่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโครงการจึงเลิกไป แต่โชคดีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเห็นความสำคัญจึงมีโครงการตำบลละ 5 ล้าน หมู่บ้านละ 2 แสนบาทที่เป็นโครงการที่เกิดจากฐานราก อันเป็นแนวทางที่ดีของการ social mobilization

นายสมคิด กล่าวยกตัวอย่างของกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นตัวอย่างของการต่อสู้ ที่ได้ช่องทางโอกาสจากวิทยาการแห่ง IT digital คือ การขายผ่าน emarket และที่สำคัญ ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน ยกระดับเขาขึ้นมา ซึ่งวันนี้ ไม่ใช่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก และที่พูดว่า Otop Village จะเป็นสิ่งที่นำมาปัดใหม่ที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน และ อปท.ก็ต้องทำ ธุรกิจขนาดใหญ่ต้องช่วยกัน ซึ่ง BOI จึงได้เข้ามาช่วยในวันนี้ นอกจากนี้รัฐบาลกำลังสร้างประชารัฐขึ้นมา คือประชารัฐสังคมหรือประชาสังคม ที่จะทำให้การเมืองมีความมั่นคงเข้มแข็ง เพื่อให้ประเทศชาติจะมีความมั่นคงเข้มแข็ง


Leave a comment