9มิ.ย.2559 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ประชุมหัวหน้าหน่วยงานกทม. ครั้งที่ 6/2559 โดยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวในที่ประชุมว่า จากข่าวที่มีการจับกุมคนต่างด้าว ประกอบอาชีพในกรุงเทพฯ และปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ด้อยคุณภาพ จึงขอให้ผู้อำนวยการเขตกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ให้เป็นหูไปตา หากพบเห็นแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ โดยเฉพาะหาบเร่แผงลอย ขอให้ประสานไปยังตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) เพื่อร่วมแก้ปัญหาทันที อย่างไรก็ตามการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย เพราะทราบมาว่านครย่างกุ้งได้ทำหนังสือถึงปลัดกทม.ว่าอยากจะมาศึกษาวิธีการจัดระเบียบของกทม. แต่เรื่องนี้ต้องทำให้ยั่งยืน โดยการสร้างแนวร่วมดูแลพื้นที่ เพราะยิ่งระยะทางยาวการสร้างแนวร่วมเป็นเรื่องสำคัญมาก

ด้านนายสัจจะ คนตรง รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กล่าวว่า ความคืบหน้าการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย ได้ดำเนินการไปแล้ว 45 จุดใน 22 เขต ซึ่งเป็นพื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่เร่งด่วนที่ประชาชนเดือนร้อน โดยจากนี้จะดำเนินการใต้สะพานพุทธยอดฟ้า ซึ่งจะมีการประชุมกับผู้ค้าในวันเสาร์นี้ และจะมีการจัดระเบียบในพื้นที่อื่นๆต่อไป อาทิ ปากคลองตลาด ราชดำริหน้าเซ็นทรัลเวิล์ด กำหนดขายถึง 1 ส.ค.2559 ศูนย์การค้าสยามสแควร์ ผู้ค้า 600 รายกำหนดขายไม่เกิน 1 ส.ค.เช่นกัน

ขณะที่นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ขอให้สำนักเขตใกล้เคียงพื้นที่จัดระเบียบช่วยกันตรึงพื้นที่ โดยขอให้เจ้าหน้าที่คิดด้วยว่าเสมือนเป็นพื้นที่ของตัวเอง ขอให้ทำงานเข้มแข็ง โดยพื้นที่ที่จัดระเบียบไปแล้วต้องรักษาพื้นที่ให้ดี เพราะเป็นภาระที่หยุดไม่ได้ เนื่องจากต้องขอให้เป็นพื้นที่ทางเท้าจริง ๆ ไม่ใช่พื้นที่ค้าขาย โดยเขตต้องหาพันธมิตรให้ช่วยกันดูแลรักษาพื้นที่ อาทิ ศูนย์การค้าย่านปทุมวันแจ้งมาแล้วว่า พร้อมจะให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาช่วยเจ้าหน้าที่เทศกิจเช่นกัน
สั่งรับมือฝนหนักจันทร์นี้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวการรับมือฝนตกว่า อีก 2 สัปดาห์ในกรุงเทพฯจะมีฝนมาก จึงขอกำชับให้สำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธา สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักงานเขต เตรียมรับสถานการณ์พายุ ลมแรง และจุดอ่อนน้ำท่วม ถนนสายหลัก และสายรอง และหมู่บ้าน รวมถึงเตรียมสถานีสูบน้ำให้พร้อมใช้งาน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ประจำจุดให้พร้อมช่วยเหลือประชาชนทันที   อย่างไรก็ตาม จากนี้อีก 7 วันจะมีโอกาสฝนตกทุกวัน โดยช่วงเวลาที่อาจจะวิกฤติจะมีไปถึงวันจันทร์จึงขอให้มีการเตรียมพร้อมสูงสุดไปถึงวันจันทร์ด้วย

ด้านนายสมพงษ์ เวียงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ รายงานในที่ประชุมว่า สำนักการระบายน้ำได้เตรียมความพร้อมแล้ว โดยสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ขณะนี้จะมีฝนชุกในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำ ก็จะมีร่องมรสุมที่นำความชื่นเข้าสู่ประเทศไทยมากในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ โดยในเดือนมิ.ย. ประเทศไทยจะมีในตกอย่างต่อเนื่อง ส่วนเดือนก.ค.อาจจะมีฝนทิ้งช่วงในต้นเดือน และเมื่อถึงปลายเดือนจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่ โดย 7 วันจากนี้ในกรุงเทพฯจะใีฝน 40 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ถึงวันเสาร์ จากนั้นวันอาทิตย์จะมีฝน 60 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่

นายสมพงษ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้สำนักการระบายน้ำได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำพร้อมทุกจุด อีกทั้งควบคุมระดับน้ำในคลอง ท่อระบายน้ำ และบ่อสูบน้ำ ซึ่งเรดาห์กทม.จะติดตามสภาพอากาศ 24 ชั่วโมง โดยจะมีการแจ้งเตือนฝ่ายปฏิบัติทันทีหากมีฝนตกลงมา ซึ่งหน่วยเบสต์จะเร่งเข้าพื้นที่ก่อนฝนตกเพื่อเตรียมความพร้อมหากมีน้ำท่วมขัง โดยจะมีการรายงานมาที่ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม ซึ่งจะมีการเร่งแก้ไขน้ำท่วมขังในขณะนั้นโดยเร็ว นอกจากนี้จะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เทศกิจ หน่วยงานสาธารณภัย เพื่อให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชน รวมถึงจะแจ้งข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนเพื่อรับทราบสถานการณ์
กทม.เร่งติดตั้งไฟส่องสว่างทั่วกรุง 

นายวสันต์ เจือวัฒนศิริกุล รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา รายงานถึงการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างในที่สาธารณะ ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เม.ย.2556 – 2559 ติดตั้ง 24,113 ดวง สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ประมาณ 2 หมื่นดวง แต่ขอความร่วมมือเขตให้ดูแลพื้นที่ต่อเนื่อง ส่วนการติดตั้งหลอดไฟเป็นแอลอีดีบนสะพานลอยไปแล้ว 2,600 ดวง โดยหลอดที่มีอยู่เดิม 4,000 – 5,000 ดวง ส่วนการข้ออนุญาตจัดซ่อมไฟแสงสว่างนั้น กทม.ได้ทำเอ็มโอยูกับการไฟฟ้านครหลวง 3 ครั้ง โดยเอ็มโอยูเดิมการจัดซ่อมไฟแสงสว่างนั้น กทม.จัด.ซ่อมได้ทันทีในวงเงินไม่เกิน 1 แสนบาท แต่ระหว่างนี้มีการพิจารณาจากสำนักงานกฎหมายและคดีว่าการติดตั้งและซ่อมไฟส่องสว่างโดยเพิ่มวงเงินจัดซ่อมไม่เกิน 5 แสนบาทต่องาน

ด้านนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กล่าวว่า สำหรับศาลาที่พักผู้โดยสารมีอยู่ 2 ส่วน 1.เอกชนดูแล และกทม.ดูแล โดยสิทธิให้เอกชนดูแลขณะนี้เหลือ 2 สัญญาในจำนวน 2,814 หลัง หากมีความเสียหายจะมีการซ่อมใน 24 ชั่วโมง ส่วนอีก 1,403 หลังที่กทม.ดูแลเอง หากตรวจพบก็จะซ่อมเร่งด่วน แต่ถ้ามีความเสียหายมาก จะประสานให้การไฟฟฟ้านครหลวงเข้าซ่อมและส่งใบเสร็จกลับมาให้สำนักจราจรและขนส่งภายหลัง