7 มิ.ย. 59  นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า สังเกตจากท่าทีของนายกรัฐมนตรีนั้นดูเหมือนจะไม่เข้าใจเรื่องการทำประชามติเอาเสียเลย การบอกว่าไม่รับศูนย์ปราบโกงของ นปช.ให้อยู่ตามกฎหมายนั้น อยากถามว่า การตั้งศูนย์แบบนี้ผิดกฎหมายข้อไหน และ กกต.ก็พูดย้ำหลายหนว่า หากพบเห็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติ ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์แจ้งความดำเนินคดีได้ แบบนี้จะถือว่า นปช.ไม่มีสิทธิ์ตามกฎหมายได้อย่างไร ทั้งนี้ การตั้งศูนย์ปราบโกงเป็นการใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ซึ่งโดยหลักการเรามีสิทธิ์ประกาศด้วยว่าไม่ยอมรับรัฐบาลรัฐประหารให้มีอยู่ตามกฎหมาย นายกฯ ต้องเข้าใจประเด็นเหล่านี้ ไม่เช่นนั้นยิ่งใกล้วันลงคะแนนจะยิ่งเข้ารกเข้าพงไปกันใหญ่

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องจะเข้าไปอยู่ในหน่วยลงคะแนนนั้น เราหมายถึงเข้าไปในฐานะผู้สังเกตการณ์ เหมือนกรณีผู้สังเกตการณ์ในการเลือกตั้งทั่วไป เป็นข้อเสนอเพื่อความโปร่งใสให้ กกต.พิจารณา เรื่องนี้เป็นอำนาจ กกต. นายกฯ ไม่ควรแหลมมาใช้อำนาจ ถ้า กกต.ไม่ให้ประชาชนร่วมสังเกตการณ์ รัฐบาลก็ไม่ควรให้คนในเครื่องแบบอะไรก็ตามที่ไม่ใช่กรรมการประจำหน่วยแหลมไปอยู่แถวนั้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่านี่เป็นความเคลื่อนไหวตามกฎหมาย เราต้องการเสรีภาพและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการทำประชามติ ไม่มีการเผชิญหน้าหรือยกระดับการต่อสู้ เพราะเราต้องการสู้ในสนามประชามติโดยมีสังคมโลกเป็นสักขีพยาน

“จุดยืนของประชาชนกับผู้มีอำนาจหรือเผด็จการแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะเผด็จการใช้ชัยชนะสร้างความชอบธรรม แต่ประชาชนใช้ความชอบธรรมสร้างชัยชนะ ดังนั้น ชัยชนะของประชาชนต้องอยู่บนความชอบธรรมเสมอ เราเห็นว่า 7 สิงหาคมคือโอกาสที่ความชอบธรรมจะชนะได้ เราจึงพร้อมจะอดทนและรอคอย ขอให้รัฐบาลใช้ความอดทน และให้ทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยความชอบธรรมเช่นกัน” นายณัฐวุฒิ กล่าว