ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/news/politic/229214

การเมือง : 8 มิ.ย. 2559
เพื่อไทยจี้รัฐ-คสช.คืนสิทธิแสดงความเห็นร่างรธน.ให้ปชช.
“เพื่อไทย” ออกแถลงการณ์จี้รัฐบาล-คสช. คืนสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นต่อร่างรธน.ให้ประชาชนโดยไม่มีข้อจำกัด
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยได้ออกแถลงการณ์เรื่อง คืนอนาคตประเทศไทย คืนประชามติที่อยู่ในบรรยากาศเสรี เป็นธรรม และเท่าเทียมกันทุกฝ่าย โดยมีใจความสรุปว่า ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งคำร้องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า มาตรา 61 วรรคสองของพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 มีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญขัดหรือแย้งต่อมาตรา 4 ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557
สาระสำคัญคือถ้อยคำที่กำหนดไว้ในมาตรา 61 วรรคสองของพ.ร.บ.ดังกล่าวที่ห้ามเผยแพร่ข้อความในลักษณะผิดไปจากข้อเท็จจริงหรือมีลักษณะรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่ โดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียงหรือออกเสียงอย่างหนึ่งอย่างใดหรือไม่ออกเสียงให้ถือว่าเป็นความผิดและมีโทษทางอาญาฐานกระทำการก่อความวุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นการบัญญัติกฎหมายที่กระทบต่อสิทธิ เสรีภาพและความเสมอภาคที่ชนชาวไทยเคยได้รับการคุ้มครองตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ซึ่งรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ได้ให้ความคุ้มครองไว้ พรรคเพื่อไทยเห็นว่า การออกเสียงประชามติมีความสำคัญและมีความหมายอย่างยิ่ง เพราะเป็นการกำหนดทิศทางอนาคตของประเทศและการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญต้องมีหลักประกัน 2 ประการ ได้แก่ 1.ต้องเสรี (Free) โดยประชาชนต้องมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ ต้องเปิดโอกาสให้มีการให้ความเห็นและถกเถียงถึงข้อดีและข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญอย่างอิสระ และ 2.ต้องเป็นธรรม (Fair) โดยประชาชนทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญต้องมีโอกาสที่จะเผยแพร่ รณรงค์ เสนอความคิดเห็นต่อสาธารณะได้อย่างเสมอภาค
แต่เป็นที่น่าเสียใจว่า ก่อนหน้าและนับแต่ได้มีการนำเสนอพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 เข้าสู่การพิจารณาของผู้มีอำนาจในปัจจุบัน ได้มีการสร้างบรรยากาศที่ไม่เอื้ออำนวยในการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ มีการชี้นำห้ามประชาชนกระทำการใดๆ โดยจะถือว่าเป็นความผิด ประหนึ่งว่าตนคือกฎหมายเสียเอง โดยเหตุดังกล่าวเนื้อความของกฎหมายนี้จึงมีการแปรญัตติตัดข้อความที่ควรเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนออก ใช้ถ้อยคำที่กำกวม ยากจะเข้าใจได้ว่าสิ่งใดทำได้ สิ่งใดทำไม่ได้ เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจตีความการกระทำของบุคคลได้อย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้เพื่อปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นของประชาชน มิให้วิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญได้อย่างเสรี เป็นการใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน เป็นไปตามความต้องการของผู้มีอำนาจ ซึ่งขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและหลักการของการทำประชามติ ขณะเดียวกันพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ยังได้ให้อำนาจข้าราชการและบุคคลากรฝ่ายรัฐสามารถรณรงค์โน้มน้าวประชาชนให้รับร่างรัฐธรรมนูญได้อย่างเปิดเผย ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินการโดยใช้งบของรัฐซึ่งมาจากภาษีประชาชน ในทางตรงข้ามประชาชนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญกลับไม่สามารถแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญในลักษณะเดียวกันได้
พรรคเพื่อไทย เห็นว่า ปัญหาดังกล่าวจะนำไปสู่การมีรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้รับการยอมรับ ประชามติที่ขาดความชอบธรรม ดังนั้นฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องหาหนทางแก้ไขและหาข้อยุติโดยเร็ว พรรคเพื่อไทยขอเสนอให้รัฐบาล คสช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คืนสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญให้ประชาชนโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ เพื่อให้เกิดบรรยากาศการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่เสรี(Free) และเป็นธรรม (Fair) อันเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั้งในประเทศและนานาอารยประเทศต่อไป