ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/news/politic/230389

การเมือง > ข่าวการเมือง : 18 มิ.ย. 2559
“วีมูฟ”ปลุกปชช.อ่านร่างรธน.อย่าดูเฉพาะคำโฆษณา
“วีมูฟ”ปลุกปชช.อ่านเนื้อหาร่างรธน.ฉบับลงประชามติ อย่าดูเฉพาะคำโฆษณา-เสนอข้อเท็จจริงไม่ครบ ชี้จุดบอดลดสิทธิปชช.-คงอำนาจคสช.คุมสถาบันอำนาจอธิปไตย
ที่สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ กลุ่มขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย (วีมูฟ) จัดเสวนาเรื่อง “เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ กับอนาคตของประชาชน” โดยมีนักวิชาการและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเวที และมีเครือข่ายวีมูฟเข้ารับฟังการเสวนา เกือบ 100 คน ทั้งนี้ก่อนการเริ่มเวทีได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ดอนเมืองเข้ามาสังเกตการณ์การจัดงานดังกล่าวด้วย
โดยน.ส.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าจากเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ หากประชาชนลงมติให้ผ่านและบังคับใช้ สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ ประชาชนจะไม่ได้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับที่ลงประชามติ เพราะตามเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ ส่วนของบทเฉพาะกาลกำหนดให้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมีสถานะทางกฎหมายตามที่มาตรา 44 รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 กำหนดไว้ ยังมีผลบังคับใช้ต่อไปจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ หรือประมาณ 8 เดือน ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดปัญหา เพราะประเทศไทยช่วงดังกล่าวจะมีกฎหมายสูงสุดคู่ขนานกัน 2 ฉบับ คือ ฉบับคำสั่งหัวหน้าคสช. และรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้นเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น จะใช้กฎหมายฉบับใดตัดสิน
ด้านนางสุนี ไชยรส ผู้อำนวยการส่งเสริมความเสมอภาคและความเป็นธรรม วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า หากจะเปรียบเทียบอนาคตของประชาชนกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องพิจารณาถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในด้านต่าง ๆ ทั้ง ด้านประชาธิปไตย คือ สิทธิเลือกตั้งนักการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตรวจสอบ การถอดถอน รวมถึงการมีสิทธิชุมชน การกระจายอำนาจ และทุกมิติของร่างรัฐธรรมนูญต้องมีความเสมอภาคระหว่างเพศ ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ เพราะประเด็นทางด้านเชื้อชาติ การนับถือศาสนา หรือชาติพันธุ์ นอกจากนั้นเรื่องสวัสดิการสังคม คุณภาพชีวิต ต้องไม่มีความเหลื่อมล้ำ โดยร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติมีการเปลี่ยนแปลงไปจากรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา และไม่ตอบรับกับข้อเสนอของกลุ่มวีมูฟหลายประเด็น อาทิ เรื่องสิทธิสวัสดิการของกลุ่มผู้ใช้แรงงาน, การเข้าชื่อเสนอกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน เป็นต้น
ตนมองว่าสิทธิของประชาชนกับองค์กรอิสระต้องสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ ไม่มีคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย, องค์กรอิสระสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ, องค์กรอิสระเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค แม้จะกำหนดให้มีการรวมตัวเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค แต่ไม่ใช่การกำหนดให้มีองค์กรกลางเพื่อดูทั้งองคาพยพของสิทธิผู้บริโภค ดังนั้นถือเป็นจุดแตกต่างที่ประชาชนต้องนำไปพิจารณา ดังนั้นการทำความเข้าใจร่างรัฐธรรมนูญก่อนออกไปลงประชามติขอให้อ่าเนื้อหาทั้งฉบับ ไม่ใช่อ่านเฉพาะคำอธิบายของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วน
นายไพโรจน์ พลเพชร ที่ปรึกษาสภาประชาชนเพื่อการปฏิรูป (ส.ช.ป.) กล่าวว่า ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติแม้เนื้อหาจะกำหนดให้มาจากการเลือกของสภาผู้แทนราษฎร แต่อาจไม่เป็นไปตามบทบัญญัติ เพราะในการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญนั้นยังมีคำถามประกอบการลงประชามติเพิ่มเติมที่มีสาระสำคัญคือ ให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งมีที่มาจากการสรรหาโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีอำนาจร่วมเลือกนายกฯ ได้ ดังนั้นในอนาคตเมื่อร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติคสช.จะยังคงมีอำนาจอยู่ต่อ ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ และอำนาจทางบริหาร คือมีสิทธิเลือกนายกฯ อย่างไรก็ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติได้รับรองคำสั่งหัวหน้าคสช.ให้มีผลต่อไป ซึ่งบางคำสั่งของหัวหน้าคสช.นั้นยังถือว่ามีผลผูกพันฝ่ายนิติบัญญัติ, ฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการ รวมถึงทิศทางการปฏิรูปประเทศต่อไปแม้จะมีรัฐธรรมนูญใหม่บังคับใช้แล้ว ดังนั้นอนาคตของประชาชนหลังจากที่มีกติกาประเทศใหม่บังคับใช้จะเป็นอย่างไร ตนไม่ขอขยายความ และขอให้ประชาชนไปคิดต่อด้วยตนเอง และขอให้อ่านเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญให้ละเอียด อย่าอ่านเฉพาะคำโฆษณาเท่านั้น
น.ส.ถวิลวดี บุรีกุล นักวิชาการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า หากอยู่ในสถานการณ์ต้องเลือกต้องตัดสินใจด้วยการมองภาพของอนาคต เนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญมีทั้งบวกและลบ ภายใต้สถานการณ์ที่ต้องเลือก ประชาชนจะตัดสินใจลำบากมาก สิ่งที่จะช่วยทำความเข้าใจต่อร่างรัฐธรรมนูญ คือ เมื่อประเทศกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยแล้วจะให้เป็นประชาธิปไตยแบบไหน ซึ่งเชื่อว่าประชาชนคงไม่ต้องการประชาธิปไตย เพียง 4 วินาที คือ ไปเลือกตั้งแล้วให้สิทธิของประชาชนไปเป็นของเขา และกลับไปสู่ความขัดแย้งแบบเดิมอีก ช่วงที่ตนทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญ ฐานะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ถือว่าทำงานยากและลำบากมาก เพราะมีกลุ่มผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก แต่ในยุคการทำงานของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญนั้น ตนมองว่าทำงานได้ง่ายกว่ามาก สำหรับกลไกที่เกี่ยวข้องของประชาชนต่อสิทธิมีส่วนร่วมซึ่งเขียนไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติมีทั้งหมด 28 จุด ซึ่งประชาชนสามารถนำไปใช้ได้ ประชาชนต้องตื่นตัวในการมีส่วนร่วมกับรัฐอย่างเข้มแข็งเพื่อร่วมกำหนดอนาคตของตนเอง และทำให้ประเทศเดินหน้า และไม่วนไปสู่วิกฤตแบบเดิมอีก