ผนึกความร่วมมือ “ซีแอลเอ็มวีที” “ประยุทธ์” ชูนวัตกรรมสร้าง “อาเซียน แบรนด์”

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 17 มิ.ย. 2559 07:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/640546

 

“ประยุทธ์” ชักชวนเพื่อนบ้านใน “ซีแอลเอ็มวีที ฟอรั่ม 2016” ร่วมมือกันเพื่อเป็นแกนกลางที่สำคัญของอาเซียน ต้องเดินไปด้วยกัน หยุดแข่งขันตัดราคา แต่มาแข่งขันด้วยนวัตกรรม เพื่อสร้าง “อาเซียนแบรนด์” ชี้หากเชื่อมโยงจีน–อินเดียได้จะเป็นตลาดการค้าใหญ่สุดในโลก ขณะที่รัฐมนตรีกลุ่มท่องเที่ยวเสนอทำวีซ่าร่วมแบบเชงเก้น วีซ่า ของสหภาพยุโรป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยระหว่างการแสดงปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “CLMVT : Prosper Together-สู่ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” ในการเปิดงาน “CLMVT Forum 2016 : Towards a Shared Prosperity” โดยมีรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจจากกลุ่มประเทศ CLMVT ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนามและไทย 12 คน รวมทั้งกลุ่มนักธุรกิจ และสื่อมวลชน จากประเทศในกลุ่ม CLMV เข้าร่วมงานกว่า 700 คน ว่า กลุ่มประเทศ CLMVT อยู่กลางระหว่างประเทศที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของโลก ได้แก่ จีนและอินเดีย ที่มีประชากรมากเป็นลำดับ 1 และ 2 ของโลก หากรวมประชากรทั้งจีน อินเดีย และประเทศในกลุ่ม CLMVT จะมีประชากรรวมกันกว่า 3,000 ล้านคน ถือว่าเป็นตลาดการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีโอกาสทางธุรกิจมหาศาล

“พวกเราเป็นประเทศเล็กที่ยืนในเวทีโลกมีจำกัด เราต้องทำให้กลุ่ม CLMVT เป็นแกนกลางที่ช่วยให้อาเซียนก้าวไปข้างหน้าและมีบทบาทในเศรษฐกิจโลก การสร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม ห่วงโซ่การผลิต และห่วงโซ่มูลค่า จะยิ่งเพิ่มบทบาทของ CLMVT และอาเซียนที่มีต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้น ฉะนั้นต้องร่วมมือการแปรรูป ยกระดับสินค้าเกษตรและทำการตลาดร่วมกัน จะได้เป็นโอกาสเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรของแต่ละประเทศ ซึ่งดีกว่าการไปแข่งขันตัดราคากัน ก็จะยิ่งตกต่ำไปเรื่อยๆ หากจะแข่งขันกันคือการแข่งด้วยนวัตกรรม รวมถึงการสร้างอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ให้เกิดขึ้น”

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สิ่งที่จะต้องดำเนินการร่วมกัน คือ การสร้างพื้นฐานความจริงใจ ร่วมใจกัน เคารพกัน แสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน อย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม เพื่อไปด้วยกัน เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง นอกจากนี้ หัวใจสำคัญ คือ ภาคเอกชนต้องผนึกกำลังกัน ต้องรู้จักให้และรับ มุ่งหวังกำไรอย่างเดียวจะไปไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องการลงทุน ที่จะเป็นเหมือนพี่ช่วยน้อง หรือธุรกิจขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่ง ต้องช่วยขนาดเล็ก หรือขนาดกลาง ขณะที่ภาครัฐพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดอาเซียนแบรนด์ จึงขอให้การประชุมครั้งนี้ คิดความร่วมมือที่จะเห็นความสำเร็จเป็นรูปธรรมได้ในปีนี้และปีหน้าทันทีด้วย

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า รัฐบาลไทยได้เป็นเจ้าภาพ จัดประชุม CLMVT Forum 2016 ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อร่วมกันสร้างเครือข่ายทางธุรกิจของทุกประเทศ รวมทั้งการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวให้เติบโตไปด้วยกัน ภายใต้แนวคิดประสาน แบ่งปัน มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยไทยมุ่งมั่นที่จะยกระดับเศรษฐกิจในภูมิภาค ทำให้การค้าระหว่างกันในกลุ่มนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 13% มูลค่าการส่งออกโตขึ้นเป็น 16% และมีการลงทุนคิดเป็น 10% ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของไทย มีนักท่องเที่ยวจากซีแอลเอ็มวี 10% ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศรวมของไทย

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “การสนับสนุนการค้าและการลงทุนในซีแอลเอ็มวีที บทบาทของสถาบันการเงินในภูมิภาค” ว่า ธนาคารเเห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สนับสนุนการลงทุนในภูมิภาคให้มีความสะดวกมากขึ้น ขณะที่ไทยพร้อมที่จะเปิดให้ต่างชาติเข้าร่วมระดมทุนในตลาดตราสารได้ ทำให้แนวโน้มการลงทุนของสถาบันการเงินในตลาด CLMV ดีขึ้น

ขณะที่งานเสวนาเรื่อง “การท่องเที่ยวแบบไร้รอยต่อในซีแอลเอ็มวีที : การเดินทางของนักท่องเที่ยวแบบไร้พรมแดน นายทอง คน รมว.กระทรวงท่องเที่ยวกัมพูชา กล่าวว่า มีหลายปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อภาคการท่องเที่ยว การทำวีซ่านักท่องเที่ยว ทั้งไทย เวียดนาม หรือแม้แต่กัมพูชายังยากอยู่ โอกาสที่นักท่องเที่ยวจะเข้าท่องเที่ยวอีกประเทศหนึ่งแต่ไม่สามารถเที่ยวได้ เพราะขอวีซ่ามาเพียงประเทศเดียว เรื่องการทำวีซ่าเป็นหนึ่งเดียวจึงเป็นเรื่องที่ต้องกลับมาช่วยกันคิด นอกจากนั้นเวลาปิดด่านชายแดนแต่ละประเทศไม่พร้อมกันด้วย ส่วนนายเวือง ซุย เบียน รมช.กระทรวงวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยว เวียดนาม กล่าวว่า อาจศึกษารูปแบบเชงเก้นวีซ่าของกลุ่มยุโรปมาปรับใช้ จะทำให้สามารถท่องเที่ยวในกลุ่มภูมิภาคได้ ส่วนนายสะหวันคอน ราซมนตี รมช.กระทรวงข้อมูล วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ลาว กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่จะผลักดันให้เกิดการไหลของนักท่องเที่ยว คือ การเชื่อมต่อด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งถนน สะพาน ที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอ ทุกประเทศต้องมีการลงทุนเชื่อมต่อเส้นทางเพิ่มอีก.

 

Leave a comment