ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 24 มิ.ย. 2559 18:34
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/646471

ดร.อนุสรณ์ เผยแม้อังกฤษถอนตัวจากอียูจะส่งกระทบต่อตลาดเงิน ตลาดทุนทั่วโลก แต่ยังพอมีโอกาสให้รัฐบาลไทยอยู่บ้างแนะวางยุทธศาสตร์ลุยการค้า การลงทุนกับอังกฤษ พร้อมประเมินราคาทองอาจปรับเพิ่มขึ้นอีก20-30%
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ และ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ผลกระทบจากกรณีที่อังกฤษออกจากอียู (Brexit) จะส่งผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจไทยและโลกอย่างมีนัยสำคัญทั้งต่อตลาดการเงิน ภาคเศรษฐกิจการค้าการลงทุนและเศรษฐกิจจริงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แต่ขณะเดียวกันย่อมเกิดโอกาสเพิ่มขึ้นหากรัฐบาลสามารถวางยุทธศาสตร์อย่างเหมาะสมและริเริ่มเปิดการเจรจาการค้าและการลงทุนกับอังกฤษเป็นประเทศแรกๆ ข้อตกลงการค้าหลายอย่างของอียูจะไม่ถูกบังคับกับอังกฤษ ส่วนผลกระทบ Brexit อังกฤษออกจากอียู เงินปอนด์อาจทรุดตัวลงมากกว่า 20-30% หลังปรับตัวอ่อนค่าแล้วกว่า 10% ค่าเงินยูโรน่าจะอ่อนค่าลงไม่ต่ำกว่า 15-20%
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลงอย่างรุนแรง คาดว่าตลาดหุ้นยุโรปอาจปรับตัวลงโดยเฉลี่ยได้อีกไม่ต่ำกว่า 20-30% หลังจากบางตลาดอย่างตลาดหุ้นเยอรมัน DAX ปรับตัวลงไปแล้วกว่า 10% อังกฤษจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างแน่นอน ส่งออกหดตัวลง สถาบันการเงินย้ายไปอียูมากขึ้น ความเป็นศูนย์กลางทางการเงินของลอนดอนจะเสื่อมลง และนำไปสู่การล่มสลายและแยกประเทศของสก๊อตแลนด์และเนเธอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ จากสหราชอาณาจักร เศรษฐกิจอียูก็จะอ่อนแอตัวลงด้วย โดยเสนอให้ธนาคารกลางทั้ง เฟดของสหรัฐ อีซีบีของอียู และบีโอเจของญี่ปุ่น แทรกแซงตลาดการเงินโลกเพื่อลดความผันผวน ประคับประคองตลาดการเงินและอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติม
ขณะที่กระแสชาตินิยมขวาจัดจะเพิ่มขึ้นในยุโรปแม้นกระแสเสรีนิยมและสังคมนิยม ประชาธิปไตยจะยังมีบทบาทอยู่ก็ตาม นอกจากนี้โลกาภิวัตน์ การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ภูมิภาคนิยมไร้พรมแดนจะถูกท้าทายโดยกระแสชาตินิยมทางเศรษฐกิจที่เน้นอธิปไตย ทางเศรษฐกิจเหนือความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจร่วมกันของภูมิภาค
“กระแสชาตินิยมขวาจัดจะเพิ่มขึ้นในยุโรปแม้นกระแสเสรีนิยมและสังคมนิยมประชาธิปไตยจะยังมีบทบาทอยู่ก็ตาม นอกจากนี้โลกาภิวัตน์ การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ภูมิภาคนิยมไร้พรมแดนจะถูกท้าทายโดยกระแสชาตินิยมทางเศรษฐกิจที่เน้นอธิปไตยทางเศรษฐกิจเหนือความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจร่วมกันของภูมิภาค การที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษลาออกจะยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนทางการเมือง
และสิ่งนี้อาจจะเป็นกระแสที่เกิดขึ้นอียูในระยะต่อไป ล้วนทั้งกระตุ้นให้ฝ่ายค้านและผู้ไม่สนับสนุนอียูในยุโรปเรียกร้องให้ทำประชามติออกจากอียูเพิ่มเติมอีก เป็นกระแสนี้จะถูกครอบงำโดยเหตุผลทางการเมืองและผลประโยชน์ทางการเมืองของพวกอนุรักษ์นิยมชาตินิยมขวาจัดมากกว่าผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและคุณภาพที่ดีขึ้นของประชาชนส่วนใหญ่ และ จะสร้างความยากลำบากในการเจรจาทางการค้าและการลงทุนไปอีกนาน ความคืบหน้าและความก้าวหน้าของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจจะถูกชะลอลง”
ดร.อนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนราคาทองคำคาดการณ์ว่าจะปรับตัวขึ้นได้อีก 20-30% ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นอีกเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก สกุลอาเซียนและเงินบาท แต่การแข็งค่าจะถูกจำกัดในระดับหนึ่งจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯอาจชะลอการ ปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไปอีก แต่กระแสเงินร้อนระยะสั้นจะไหลเข้าไปลงทุนในตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา มากขึ้น และไหลออกจากตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาน้ำมันจะทรุดตัวลงพร้อมตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งนี้อังกฤษออกจากอียูจะผลกระทบต่อตลาดการเงินจะชัดเจนและรุนแรงกว่าภาค เศรษฐกิจจริงและภาคการค้าในระยะสั้น
ทั้งนี้หากมองในระยะยาว ตลาดการเงินจะปรับตัวได้และสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่เกิดขึ้น โดยที่ในระยะยาวจะมีผลลบต่อระบบการค้าการลงทุนในระบบทุนนิยมโลกาภิวัตน์ สั่นคลอนการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ (Economic Integration) กระตุ้นให้กระแสการต่อต้านการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ต่อต้านทุนนิยมโลกาภิวัตน์เติบโตขึ้น การค้าการลงทุนโลกจะเติบโตลดลงพร้อมกับกำแพงภาษีการค้าการลงทุนที่อาจสูง ขึ้น ถือเป็น ชัยชนะยกแรกของพวกที่มีสนับสนุนแนวคิดแบบลัทธิกีดกันทางการค้า (Trade Protectionism)
อย่างไรก็ตามในฐานะอดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยขอเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.),ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรียกประชุมฉุกเฉินออกมาตรการลดความผันผวนในตลาดการเงินโดยด่วน ส่วนภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงผลกระทบยังไม่มากในระยะสั้นและมีความไม่แน่นอนสูง ระยะต่อไปเตือนรัฐบาลไทยเตรียมรับมือวิกฤติทุนนิยมโลกครั้งใหม่หลัง Brexit ซึ่งจะกระทบการค้า การส่งออก การลงทุน การท่องเที่ยว และ ความผันผวนจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่รุนแรง มองในแง่ดี ข้อตกลงทางการค้าและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจต่างๆจะมีการดำเนินการอย่างระมัดระวังและฟังเสียงประชาชนมากขึ้น
สำหรับกระแสเงินทุนที่ไหลออกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทุนขนาดใหญ่ของไทยจะไหลออกไปลงทุนในอียูและสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาสินทรัพย์ในสหราชอาณาจักรและอียูจะทรุดตัวลง ขอให้ผู้เกี่ยวข้องกับนโยบายเศรษฐกิจ นโยบายการเงินได้วางยุทธศาสตร์และบริหารจัดการสภาวะดังกล่าวให้เกิดประโยชน์ ต่อประเทศชาติและประชาชนโดยส่วนรวมด้วย