ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 25 มิ.ย. 2559 12:28
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/646992

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์วิเคราะห์ยูเคถอนตัวออกจากอียูกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยตรงค่อนข้างจำกัด เนื่องจากมีการส่งออกสินค้าไม่มาก…
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เผยแพร่บทวิเคราะห์เรื่อง Brexit โดยระบุผลกระทบต่อกลุ่มประเทศยูเคระยะสั้น ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) เตรียมพร้อมในการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพื่อรองรับปัญหาการขาดสภาพคล่อง ส่วนระยะยาวคาดว่า เศรษฐกิจยูเคอาจหดตัวถึง 3-10% ภายในปี 2030 จากอุปสรรคทางการค้าการลงทุน รวมถึงการเคลื่อนย้ายของเงินทุนและแรงงาน ทั้งนี้ ระดับความรุนแรงของผลกระทบจะขึ้นอยู่กับข้อตกลงใหม่ระหว่างยูเคและอียู โดยมีเวลาอย่างน้อยอีก 2 ปี ก่อนจะสิ้นสุดสมาชิกภาพ
ส่วนผลกระทบต่ออียู คาดว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจชะลอลงจากความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่สั่นคลอน และตลาดการเงินที่ผันผวน โดยอีไอซีมองว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจ นอกจากนั้น ยังเพิ่มความเสี่ยงที่ประเทศสมาชิกอื่นในอียูจะมีการจัดทำประชามติในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้ จากผลสำรวจพบว่าหากมีการจัดทำประชามติในอิตาลี ฝรั่งเศส และสวีเดน ประชาชนมากกว่า 40% จะสนับสนุนการแยกตัวออกจากอียู
สำหรับสหรัฐฯ นั้น ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจการเงินโลกน่าจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป ส่งผลให้การขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้นั้นเป็นไปได้ยาก
ทั้งนี้ ในส่วนของไทย ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยตรงนั้นค่อนข้างจำกัดเนื่องจากมูลค่าการส่งออกจากไทยไปอียูอยู่ที่เพียง 2% ของการส่งออกทั้งหมด แต่ผู้ส่งออกไก่แปรรูปที่มีตลาดหลักอยู่ในยูเค และอียูจะได้รับผลกระทบรุนแรง นอกจากนี้ ผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ยังต้องเผชิญกับราคาสินค้าที่ผันผวน รวมถึงเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และเยนที่แข็งค่าขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนผู้นำเข้า
ขณะเดียวกันเงินบาทจะอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากการไหลออกของเงินทุนในระยะสั้นซึ่งจะมีค่อนข้างจำกัด เนื่องจากไทยมีเสถียรภาพทางการเงินที่ค่อนข้างมั่นคงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค โดยมีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลในระดับสูง และเงินทุนสำรองที่แข็งแกร่ง
ในระยะยาว อีไอซีมองว่า Brexit เปิดโอกาสให้ไทยสามารถต่อรองทางการค้ากับยูเคโดยตรงได้มากขึ้น แต่หากเศรษฐกิจยูเคและอียูซบเซาเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการท่องเที่ยวไทย นอกจากนี้ นักธุรกิจไทยยังต้องประสบกับปัญหาต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากการที่ต้องแยกประสานงานกับยูเคและอียู
อย่างไรก็ตาม โดยสรุปแล้วผลการลงประชามติครั้งนี้ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจโลกบนพื้นฐานความเปราะบางที่มีอยู่เดิม โดยความเสี่ยงส่วนใหญ่อยู่ที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจของยูเคและอียู ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังภูมิภาคอื่นๆ จากช่องทางการค้าและตลาดการเงิน อันจะนำมาซึ่งการตอบโต้ในเชิงนโยบายจากประเทศต่างๆ ทั้งนี้ นอกเหนือจากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังส่งผลกระทบรุนแรงในเชิงสังคมและการเมือง โดยหลายฝ่ายมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของรอยร้าวในอียูด้วย.