ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 25 มิ.ย. 2559 05:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/646122

แม้ว่าประเทศไทยกับอินโดนีเซียจะไม่มีชายแดนติดต่อกันเหมือนกับกลุ่ม CLMV และมาเลเซีย แต่ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระดับสูงโดยเฉพาะการค้าระหว่างประเทศทั้งการนำเข้าและการส่งออก ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของไทยและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ในตลาด AEC รองจากมาเลเซียและสิงคโปร์ และใหญ่เป็นอันดับ 10 ในตลาดโลกเมื่อเทียบกับการส่งออกของไทยทั้งหมด
เช่นเดียวกัน ไทยก็มีความสำคัญในฐานะที่เป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของอินโดนีเซียและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ในตลาด AEC รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย และใหญ่เป็นอันดับ 10 ในตลาดโลกเมื่อเทียบกับการส่งออกของอินโดนีเซียทั้งหมด และโดยปกติไทยจะเป็นประเทศที่ได้ดุลการค้า (หรือมีการส่งออกมากกว่าการนำเข้า) กับอินโดนีเซีย
จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ใน AEC และ IMT–GT คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย (รวมถึงสิงคโปร์) มีการพึ่งพาทางเศรษฐกิจระหว่างกันสูงโดยเฉพาะการค้าขายระหว่างประเทศ
การค้าระหว่างไทยกับอินโดนีเซียในปี 2558 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 487,329.3 ล้านบาท หรือขยายตัว -10.3% แยกเป็นการส่งออกสินค้าไปอินโดนีเซีย 263,740.0 ล้านบาท หรือขยายตัว -13.7% และนำเข้าจากอินโดนีเซีย 45,841.9 ล้านบาท หรือขยายตัว -5.6% ทำให้ไทยเกินดุลการค้ากับอินโดนีเซีย 40,150.7 ล้านบาท หรือขยายตัว -10.2%
สาเหตุที่การค้าระหว่างไทยกับอินโดนีเซียในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศที่ชะลอตัวลง แต่การนำเข้าและการส่งออกของทั้งสองประเทศกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2559 กลับมาขยายตัวเป็นบวกแล้ว
สินค้าที่ประเทศไทยส่งออกไปอินโดนีเซีย 5 อันดับแรกได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ น้ำตาลทราย เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ และเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ ขณะที่สินค้านำเข้าจากอินโดนีเซีย 5 อันดับแรกได้แก่ ถ่านหิน ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เครื่องจักรกล น้ำมันดิบ เรือและสิ่งก่อสร้างลอยน้ำ.
ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ