เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 มิถุนายน 2559 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม กล่าวกรณีการดำเนินการเรียกค่าเสียหายกับบริษัทผู้ผลิตเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 หลังศาลอังกฤษ สั่งยึดทรัพย์ว่า เรื่องเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 ทางคณะรัฐมนตรีได้สั่งให้หยุดการใช้งานไปแล้ว ถ้าจะใช้ต้องยกเลิกมติ ครม.และจะต้องดูว่าดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งขณะนี้คงไม่มีใครกล้าใช้แล้ว หลังศาลอังกฤษคัดสินแบบนี้

เมื่อถามว่า เรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้น ในฐานะที่ไทยเป็นประเทศถูกหลอกให้ซื้อ พล.อใประวิตร กล่าวว่า เดิมที่นำมาใช้ตอนแรก ก็ใช้ได้ผล โดยทางกองทัพอากาศเป็นผู้นำมาใช้หน่วยงานแรก ซึ่งก็ได้ประโยชน์และมีผลงาน แม้ว่าการตรวจจะเจอบ้าง ไม่เจอบ้างก็ตาม เมื่อมีข่าวออกมาทำให้เกิดความน่าเชื่อถือน้อยลง จึงเกิดการทดสอบประสิทธิภาพ จีที 200 เมื่อครม.ทดสอบแล้ว บอกว่าใช้ไม่ได้ ก็คือไม่ได้ ก็จบไปไม่มีปัญหาอะไร แต่ต้องดูว่าสามารถทำไรได้บ้าง

เมื่อถามว่า สำนักงานตรวตเงินแผ่นดิน(สตง.)จะเข้ามาตรวจสอบขั้นตอนการจัดซื้อจัดหา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ต้องชี้แจง แต่เราทำโปร่งใส เพราะการจัดซื้อจัดหาไม่ได้ทำเพียงคนเดียว แต่ผ่านการพิจารณาคณะกรรมการจัดซื้อจัดหาและดำเนินการตรวจรับ รวมถึงขั้นตอนตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีตลอด ที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้ แต่หากมีคอรัปชั่น การทุจริต ต้องดูว่าอยู่ตรงไหน ลงรายละเอียด ซึ่งทุกอย่างต้องทำให้ครบตามระเบียบสำนักงานนายกรัฐมนตรีและมีคณะกรรมการตรวจรับอีก ก็ต้องไปดู ตนพูดตามหลักการ

ด้านนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวกรณีพรรคเพื่อไทยเสนอให้รัฐบาลและคสช.ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 เพื่อเอาผิดตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ว่า ได้สั่งให้เอาเรื่องเดิมออกมาพิจารณาเพื่อจะติดตามข้อเท็จจริงแล้ว เพราะหากพบว่ามีการทุจริตจริง นำของไม่มีคุณภาพมาหลอกลวงขาย มาเล่นปาหี่ และซื้อกันหลายหน่วยงาน เป็นการหลอกระดับชาติ ต้องดำเนินคดีกับเอเย่นต์ในไทย เอกชนเอาของมาต้มตุ๋น ยิ่งกว่าหลอกลวงประชาชน เพราะถือว่าหลอกลวงหน่วยงานของรัฐ ซึ่งช่วงนั้นตนยังเป็นรักษาการอยู่ แต่ตอนนี้ขอเวลาไปรื้อเรื่องนี้ก่อน