ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 30 มิ.ย. 2559 08:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/651032

ตีฆ้องล่วงหน้า “ฉัตรชัย” ลุ้นไทยพ้นใบเหลืองไอยูยู หลังไทยส่อหลุดเทียร์ 3 จากรายงานค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกา ขยับสู่ระดับแค่จับตามองหรือเทียร์ 2 ด้านพาณิชย์–เอกชน ปลื้มปริ่ม ส่งผลดีเต็มๆต่อสินค้าประมงไทย และภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นในสายตาลูกค้าทั่วโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. อ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน และเจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศในกรุงเทพฯ ซึ่งรับทราบเรื่องรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์หรือทิปรีพอร์ท (Trafficking in Persons Report-Tip Report) ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯว่า ในทิปรีพอร์ทประจำปี 2559 ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 30 มิ.ย.นั้น สหรัฐฯ ได้ปรับยกอันดับประเทศไทยจากระดับต่ำสุดที่เทียร์ 3 (Tier 3) จากปีที่แล้ว ขึ้นมาอยู่ในระดับ2 แบบจับตามองหรือเทียร์ 2 วอช ลิสต์ (Tier 2 Watch List) แล้ว
โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า คาดว่าทิปรีพอร์ท 2016 นี้ สหรัฐฯจะให้เหตุผลว่าไทยได้ใช้ความพยายามต่อสู้ปัญหาการค้ามนุษย์มากขึ้น โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมอาหารทะเล รอยเตอร์ระบุด้วยว่า การปรับยกอันดับอาจส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ดีขึ้น หลังตกต่ำอย่างหนักตั้งแต่ทหารก่อรัฐประหารยึดอำนาจ โดยปีที่ผ่านมาสหรัฐฯปรับยกอันดับมาเลเซีย จากเทียร์ 3 เป็นเทียร์ 2 วอทช์ ลิสต์ แต่ไทยไม่ได้รับการยกระดับด้วย
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ที่ผ่านมาแก้ไขปัญหาเรื่องค้ามนุษย์เต็มที่ หากได้เลื่อนขึ้นมาอยู่เทียร์ 2 ก็ถือว่าทำดี อยากให้ชมเชยข้าราชการที่เกี่ยวข้อง
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่าการพิจารณาครั้งนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีต่อภาพลักษณ์ของไทยในมุมมองของต่างประเทศ ถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหาด้านแรงงาน อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาแรงงานด้านประมงผิดกฎหมายขาดการรายงานและไร้การควบคุมหรือ ไอยูยู ที่เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปหรืออียู จะ
เดินทางเข้ามาติดตามสถานการณ์ของไทยในวันที่ 1 ก.ค. 59 นี้
ด้านนางสาวศิรินารถ ใจมั่น อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เบื้องต้นประเมินว่าหากสหรัฐฯเลื่อนสถานะให้ไทยดีขึ้น จะส่งผลด้านบวกเชิงจิตวิทยาต่อผู้บริโภค ผู้นำเข้า และผู้ประกอบการค้าปลีกในตลาดสหรัฐฯ และยุโรปให้หันมาเลือกซื้อสินค้าของไทย และเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าไทย ซึ่งที่ผ่านมา สินค้าไทยที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดได้แก่อาหารทะเล นอกจากนี้ จะเป็นการขยายโอกาสการส่งออกไปยังสหรัฐฯ และยังรักษาส่วนแบ่งตลาดในกรณีที่คู่แข่งมีสินค้าเหมือนไทย แต่ได้รับสถานะในทิปรีพอร์ทดีกว่า ส่วนผลระยะยาวจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นของประเทศคู่ค้าที่มีต่อไทย เพราะไทยมีการยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองแรงงานที่ดีขึ้น
ด้านนางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จะส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าอาหารทะเลแช่แข็งของไทยในทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็นตลาดสหรัฐฯ หรือยุโรป และตลาดอื่นๆ เพราะผู้ซื้อจะมีความเชื่อมั่นต่อการดูแลแรงงานของไทยและส่งผลให้มีการสั่งซื้อสินค้าไทยเพิ่มขึ้น จากเดิมที่คู่ค้าชะลอการสั่งซื้อ
สำหรับการส่งออกสินค้าประมง (กระป๋องและแปรรูป) ของไทยไปทั่วโลกมีมูลค่าปีละ 200,000 ล้านบาท โดยสหรัฐฯเป็นตลาดหลัก มูลค่าส่งออกปีละ 50,000-70,000 ล้านบาท คิดเป็น 24-30% ของการส่งออกสินค้าประมงทั้งหมดของไทย โดยสินค้าส่งออกสำคัญไปสหรัฐฯ คือ กุ้งแปรรูป กุ้งสด แช่เย็น แช่แข็ง และทูน่ากระป๋อง
ส่วนนายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ไทยพยายามชี้แจงมาตลอด 2 ปี หลังจากที่ถูกลดอันดับไปสู่ระดับต่ำสุดคือเทียร์ 3 ในช่วง 2 ปีติดต่อกัน ทางเอกชนใน 4 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ถูกระบุเกี่ยวกับการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ และการค้ามนุษย์ ทั้งอุตสาหกรรมกุ้ง ปลา อ้อย และเสื้อผ้า ก็พยายามแก้ปัญหาเต็มที่ หากหลุดพ้นได้จะส่งผลดีมาก ซึ่งการอยู่ในระดับเทียร์ 2 ก็ยังต้องทำงานหนักต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การหลุดจากเทียร์ 3 เป็นการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหา ไม่เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ไทยเข้าเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี-TPP) เพราะไทยยังไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ต่อข้อตกลงดังกล่าว แม้จะมีความพยายามเชื่อมโยงกรณีที่มาเลเซียได้เพิ่มอันดับเป็นเทียร์ 2 เมื่อปี 58 หลังร่วมเป็นสมาชิกทีพีพี.