แห่เที่ยวญี่ปุ่นทะลุล้านคน อัดเงินหนุนดึงคนไทยผ่านบริษัททัวร์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 30 มิ.ย. 2559 06:20

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/651011

 

ปีนี้คนไทยเที่ยวญี่ปุ่นทะลุ 1 ล้านคน หลังญี่ปุ่นแข่งดุ ยอมจ่ายเงินอุดหนุนนักท่องเที่ยวเป็นรายหัว ด้านบริษัททัวร์บ่นขาดทุน หลังเจอพิษเบรกซิทดันค่าเงินเยนแข็งตัว เผยตลอดปีนี้คนไทยเที่ยวนอก 7 ล้านคน

นายศุภฤกษ์ ศูรางกูร นายกสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นกำลังทำตลาดดึงคนไทยไปท่องเที่ยวอย่างหนัก โดยเฉพาะในจังหวัดเมืองรองที่ถึงขั้นมีการเจรจากับบริษัททัวร์หลายรายของไทย ให้ส่งนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่จังหวัดของตน และบริษัททัวร์จะได้รับเงินช่วยเหลือสนับสนุนจากจังหวัด ซึ่งจะให้เงินเป็นรายหัว หัวละไม่ต่ำกว่า 1,700-3,430 บาท ไม่ว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวกี่คน คาดว่าจากการทำตลาดอย่างหนักนี้ จะทำให้ในปีนี้ มีคนไทยเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นถึง 1 ล้านคน สูงสุดในประวัติการณ์ และขึ้นเป็นตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศ (เอาต์บาวด์) เป็นอันดับที่ 3 แซงหน้าจีนและเกาหลีใต้
สำหรับตลาดเอาต์บาวด์ของไทยปัจจุบัน คนไทยยังเดินทางไปต่างประเทศประมาณ 7 ล้านคนต่อปี เฉลี่ยวันพักประมาณ 6 วัน ใช้จ่ายต่อวันวันละ 5,000 บาท โดยคาดว่าในปีนี้จะมีเงินสะพัดจากคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ 210,000 ล้านบาท โดยประเทศอันดับ 1 ที่คนไทยไป คือ มาเลเซีย ตามมาด้วยลาว ขณะที่ญี่ปุ่นขึ้นมาเป็นอันดับที่ 3 มาจากนโยบายฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวเป็นเวลา 15 วัน โดยตั้งแต่ปี 54 ที่เริ่มใช้นโยบาย ตลาดญี่ปุ่นมีคนไทยเดินทางไป 140,000 คน และในปี 58 คนไทยเที่ยวญี่ปุ่นพุ่งขึ้นเป็น 780,000 คน และในปีนี้คาดว่าจะโตขึ้นอีก 25% ซึ่งโตจากมาตรฐานเฉลี่ยของตลาดเอาต์บาวด์ที่โตประมาณ 10%

ด้านราคาแพ็กเกจท่องเที่ยวญี่ปุ่น ปัจจุบันราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 29,000-50,000 บาท ในขณะที่แพ็กเกจทัวร์ต่างประเทศอื่นๆ ในไตรมาส 2-3 นี้จะอยู่ในช่วงการเกิดสงครามราคา และจะได้เห็นแพ็กเกจเที่ยวต่างประเทศลดลงประมาณ 10% เพื่อดึงดูดให้คนไทยไปท่องเที่ยว และคาดว่าตลาดจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งในช่วงไตรมาสที่ 4 ที่กลุ่มตลาดท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลจะดีขึ้นเนื่องจากบริษัทต่างๆ ต้องเร่งเครื่องกระตุ้นยอดขายในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว จึงต้องสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานที่หากทำยอดได้ตามเป้าหมาย ในขณะที่กลุ่มคนไทยที่เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยตนเอง ก็จะดีขึ้นเช่นกัน เนื่องจากปัจจัยของสายการบินต้นทุนต่ำเข้ามาช่วยประหยัดต้นทุนการเดินทางท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก และทำให้คนไทยที่ยังต้องการท่องเที่ยวต่างประเทศยังท่องเที่ยวได้ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว

“ปีนี้ในเรื่องการแข่งขันเรื่องราคาแพ็กเกจทัวร์หนักกว่าปีที่แล้วเพราะเศรษฐกิจไทยยังชะลอตัวและภาครัฐก็ทำแคมเปญกระตุ้นให้คนไทยท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น จึงทำให้ผู้ประกอบการที่ซื้อตั๋วเครื่องบินไว้ล่วงหน้าแล้วต้องหาทางขายที่นั่งให้หมด จนต้องใช้วิธีการลดราคาแพ็กเกจดึงดูด หรือ อย่างประเทศญี่ปุ่นบางรายตั้งราคาไว้เท่าทุน และ กลายเป็นว่าปัจจุบันราคาเงินเยนแข็งค่า จากผลกระทบที่สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (เบรกซิท) ทำให้ผู้ประกอบการขาดทุนทันที”

ส่วนผลกระทบจากเหตุการณ์ก่อการร้าย ที่ประเทศตุรกี ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ไม่ส่งผลกระทบกับตลาดเอาต์บาวด์มากนัก เนื่องจาก คนไทยไปท่องเที่ยวตุรกีน้อยลงตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ การบุกทำลายสถานกงสุลไทยในตุรกี โดยจากปกติก่อนเกิดเหตุการณ์การก่อการร้ายต่างๆในประเทศตุรกี คนไทยไปเที่ยวตุรกีถึง 70,000-80,000 คนต่อปี แต่ปัจจุบันลดลงเหลือ 50,000 คน ในขณะที่หากเป็นเหตุการณ์ก่อการร้ายในแถบประเทศยุโรป เช่น ฝรั่งเศส เบลเยียม มักไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยเฉพาะเมื่อเหตุการณ์คลี่คลายได้ภายใน 6 เดือน หรือแม้กระทั่งการมีกิจกรรมใหญ่อย่างการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส ก็กลายเป็นปัจจัยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวลืมเหตุการณ์ก่อการร้ายไปได้สักระยะหนึ่ง.

 

Leave a comment