ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 4 ก.ค. 2559 05:30
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/653987

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ เปิดเผยว่า นอกจากกลุ่มพลังงานทดแทนหลักๆ อาทิ แสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล ก๊าซชีวภาพ ที่ประเทศไทยมีศักยภาพ และได้พัฒนาจนถือได้ว่า อยู่ลำดับต้นๆของกลุ่มประเทศในอาเซียน กระทรวงพลังงานพบว่า ขณะนี้ได้มีผู้ประกอบการภาคเอกชนได้สนใจและเริ่มลงทุนผลิตไฟฟ้าจากกระแสน้ำ (Hydro kinetic electrical generation system) ซึ่งเป็นเทคโนโลยี พลังงานทดแทนที่ใช้กังหันน้ำสร้างพลังงานจากการเคลื่อนไหวของน้ำ โดยแรงดันของน้ำจะส่งผลให้ใบพัดกังหันหมุน ซึ่งหากกระแสน้ำไหลแรงเท่าไร แรงหมุนของใบพัดก็จะแรงขึ้น โดยการหมุนของใบพัดดังกล่าวจะทำให้เกิดพลังงานไฟฟ้า
นายสราวุธกล่าวว่า เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากกระแสน้ำดังกล่าว เป็นเทคโนโลยีที่ไม่มีความซับซ้อน ที่ขณะนี้ภาคเอกชนได้ประยุกต์และเริ่มทดลองลงทุนติดตั้งระบบไว้แล้ว 2 จุด ที่บริเวณ แพกลางแม่น้ำ จังหวัดหนองคาย และในทะเลพัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นโครงการนำร่อง กำลังผลิตแห่งละ 330 กิโลวัตต์ ซึ่งถือ เป็นพลังงานทดแทน ที่สร้างขึ้นจากการไหลของแม่น้ำในธรรมชาติ เพราะโดยปกติเทคโนโลยีนี้ ต้องการการไหลของน้ำอยู่ที่ 2.2 เมตรต่อวินาที และการผลิตพลังงานทดแทนจากกระแสน้ำจะสามารถผลิตพลังงานได้คงที่ และอาจผลิตได้ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อลดข้อจำกัดของพลังงานทดแทน ซึ่งปัจจุบันต่อ 1 เมกะวัตต์ ต้องลงทุน 300-350 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาถึงความคุ้มค่าในอนาคตต่อไป “ประเทศไทยยังมีศักยภาพของพลังงานทดแทนที่แอบซ่อนอยู่หลายชนิด ซึ่งภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมกัน ผลักดันโครงการลงทุนและทดลองพลังงานทดแทนรูปแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะการนำพลังงานจากกระแสน้ำมาใช้ ถือเป็นโครงการที่ดี คาดว่าในอนาคตหากมีการศึกษาและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จะช่วยเสริมความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ประเทศไทยได้”.