ผ่าหน้า ‘เฟซออฟ’ ลวงโลก ?

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/edu-health/222878

สาธารณสุข,เฟซออฟ,ผ่า,ลวงโลก

การศึกษา-สาธารณสุข  :  22 ก.พ. 2559

ผ่าหน้า ‘เฟซออฟ’ ลวงโลก ?

ผ่าหน้า ‘เฟซออฟ’ ลวงโลก ? : โดย…ทีมข่าวรายงานพิเศษ

                      “จะให้เขามาดูคอนเสิร์ตคนอายุ 60 ปี ก็คงไม่มีใครอยากมาดู หลัง 12 ก.พ. ผมจะเป็นสุรชัยคนใหม่ที่หนุ่มกว่าเดิม ต้องมาติดตามกันนะครับ”
                      “สุรชัย สมบัติเจริญ” นักร้องลูกทุ่งผลงานอมตะ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนบริเวณโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559
                      เหตุการณ์ดาราหรือนักร้องไปทำศัลยกรรมนั้น ไม่ได้เป็นข่าวน่าสนใจสำหรับสื่อมวลชนมากนัก แต่กรณีที่เกิดขึ้นน่าสนใจเพราะมีการให้ข้อมูลต่อนักข่าวว่า การผ่าตัดของนักร้องรุ่นเดอะอย่างสุรชัยนั้น ไม่ใช่เสริมสวยยกหน้าเต่งตึงธรรมดาทั่วไป แต่เป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่แบบ “เฟซออฟ” (Face off)
                      พร้อมให้รายละเอียดว่า การผ่าตัดเปลี่ยนหน้าใหม่ครั้งนี้มีรายละเอียดดังนี้
                      “ดึงคิ้ว ยกหางคิ้ว หางตา ผ่าตัดแก้ร่องหว่างคิ้วแบบถาวร ใช้กล้องเอ็นโดสโคปดึงเส้นหน้าผาก ทำตาบน ทำตาล่าง ดึงแก้ม ดึงคาง ดึงคอ ดูดไขมันใต้คาง เย็บกล้ามเนื้อ 3 ชั้น ชั้นผิวหนัง ไขมันพังผืด กล้ามเนื้อชั้นในสุด และหลังผ่าตัดเสร็จจะไปปลูกเส้นผมใหม่”
                      คนทั่วไปหากฟังการทำศัลยกรรมทั้งหมดข้างต้น คงเหมือนจะได้ใบหน้าใหม่แบบแปลงโฉมมาจริงๆ
                      จากนั้นวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ทีมงาน “นักร้องสุรชัย” นัดหมายสื่อมวลชนมาทำข่าวและสัมภาษณ์ให้เห็นภาพเข็นรถเข้าห้องผ่าตัดของจริง โดยจะใช้เวลาผ่าตัดตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป ผ่านไป 7 ชั่วโมง ประมาณ 23.30 น. ญาติก็รายงานสื่อว่านักร้องวัย 60 ปี ออกจากห้องผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ไม่มีการอักเสบของแผลผ่าตัด พูดคุยหัวเราะได้ตามปกติ !
                      แต่ยังไม่ได้เปิดเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงต้องรอพักฟื้นเสียก่อน ระหว่างนั้งก็มีการให้สัมภาษณ์จาก “น.ส.เซปิง ไชยสาส์น” หรือผู้ที่เรียกตัวองว่า ดร.เซปิง มีตำแหน่ง “ประธานโครงการเฟซออฟ บาย ดร.เซปิง” ที่ดูแลนักร้องข้างต้นว่า
                      “จะเผยโฉมใบหน้าใหม่ ค่าใช้จ่าย 7 หลัก แต่มีส่วนลดพิเศษ เพราะคุณสุรชัยเป็นบุคคลในวงการบันเทิงคนแรก ที่เข้าสมัครร่วมโครงการนี้” พร้อมด้วยการแจกจ่ายข้อมูลผ่านสื่อว่าผ่าตัดครั้งนี้เป็นการทำเฟซออฟ หรือ “เฟซออฟ ผ่าแหลก ศัลยกรรม 10 อย่าง บนใบหน้ากระชากความแก่จาก 60 ให้เหลือ 35”
                      สร้างความฮือฮาพอสมควร แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน 16 กุมภาพันธ์ นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย (ส.บ.ท.) พร้อม นพ.ธนวรรฒน์ โชติมา นายกสมาคมศัลยกรรมและเวชศาสตร์เพื่อการเสริมสวยประเทศไทยก็ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่าจะฟ้องร้อง ดร.เซปิง เนื่องจากคำว่า “เฟซออฟ” นั้น ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการทางการแพทย์ศัลยกรรม
                      “มีการอวดอ้างสรรพคุณด้วยคำว่าเฟซออฟ เป็นการใช้ภาษาภาพยนตร์ เพื่อหวังผลทางธุรกิจ ยิ่งโอ้อวดว่าสามารถทำให้คนอายุ 60 ปี มีใบหน้าหนุ่มลงมา 30 ปี โดยที่ความหนุ่มจะอยู่ทนทาน ทำให้ประชาชนเกิดความคาดหวังในวิวัฒนาการทางการแพทย์สูง”
                      พร้อมย้ำว่า ผู้ที่จะศัลยกรรมเฟซออฟ ส่วนมากเป็นผู้ที่หนีคดี หรือในเชิงอาชญากรรม ไม่ใช่เชิงเสริมความงามซึ่งในประเทศไทยไม่มีแพทย์รับทำ เพราะเสี่ยงต่อการผิดจริยธรรมและจรรยาบรรณ”
                      “เฟซออฟ” คืออะไรกันแน่ ?
                      คนไทยคุ้นเคยคำนี้จากหนังฝรั่งฮอลลีวู้ดของผู้กำกับชื่อดังชาวฮ่องกง “จอห์น วู” เรื่อง “สลับหน้า ล่าล้างนรก” (Face/Off) ภาพยนตร์แอ็กชั่นที่โจรผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าเป็นตำรวจ และตำรวจคนเดียวกันก็ผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าเป็นโจร เหมือนการสลับหน้ากัน ทำให้คำว่าเฟซออฟ สำหรับคนไทยคือการผ่าตัดเปลี่ยนหน้าใหม่
                      เมื่อมีการนำคำนี้มาใช้ในการทำศัลยกรรมความงาม ทำให้เกิดความตื่นเต้นว่าเทคโนโลยีความงามสามารถทำได้แล้ว ด้วยเงินเพียงไม่กี่ล้านบาท !
                      แต่ข้อเท็จจริงคือ การผ่าตัดเปลี่ยนหน้าใหม่ หรือที่วงการแพทย์เรียกว่า “การผ่าตัดใบหน้าปลูกถ่ายเนื้อเยื่อใหม่”  (Face Transplant) เป็นการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายอวัยวะใหม่ ที่สามารถมาทำได้ในอวัยวะบางอย่าง เช่น ไต ตับ หัวใจ ลิ้นหัวใจ ปอด ฯลฯ แต่ที่ใบหน้านั้นอันตรายกว่ามากและที่ผ่านมายังทำได้ไม่กี่รายทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่มีใบหน้าผิดปกติตั้งแต่เกิด หรือผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุร้ายแรง เช่น ไฟไหม้ หรือสุนัขขย้ำจนใบหน้าเกิดการบาดเจ็บร้ายแรง
                      หลักการสำคัญของ “การผ่าตัดใบหน้าปลูกถ่ายเนื้อเยื่อใหม่” นั้น ข้อมูลจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ ที่มีชื่อเสียงด้านนี้อธิบายไว้ว่า ผู้ที่จะทำได้ต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ได้รับการทุกข์ทรมานจากใบหน้าผิดปกติ มีอายุ 18-60 ปี ไม่ติดเชื้อเอชไอวีและสามารถใช้ยากดภูมิคุ้มกันร่างกาย ไม่มีประวัติเป็นมะเร็งอย่างน้อย 5 ปี ที่ผ่านมาทั่วโลกมีผู้ผ่าตัดสำเร็จเพียง 20 รายเท่านั้น
                      ส่วนใหญ่โรงพยาบาลที่รับทำจะเป็นสถาบันวิจัยในมหาวิทยาลัยแพทย์ชั้นนำของโลก เช่น อเมริกา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส โปแลนด์ ผู้เข้ารับการปลูกถ่ายใบหน้าต้องรับความเสี่ยงสูง ผู้ป่วยเสี่ยงติดเชื้อผิวหนัง ไวรัส แบคทีเรีย ฯลฯ หลังผ่าตัดกว่าจะกลับไปใช้ชีวิตกับใบหน้าใหม่ หายใจ มองเห็น หรือกินข้าวได้เอง อาจต้องใช้เวลากว่าครึ่งปี
                      และที่สำคัญคือ ต้องไปลงทะเบียนเพื่อรอรับการบริจาคใบหน้า ไม่ใช่ว่าแพทย์จะทำขึ้นมาเองได้ หรือสามารถผ่าตัดทำหน้าใหม่เป็นหน้าใครก็ได้ แต่ต้องมีใบหน้าที่รับบริจาคมาเป็นต้นแบบ ถือเป็นการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อให้เปลี่ยนไปตามใบหน้าของผู้บริจาค ดังนั้นโจรที่หนีการจับกุมแล้วจะผ่าตัดหน้าใหม่ได้ มีเพียงจินตนาการในหนังเท่านั้น
                      “ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา” นายกแพทยสภา อธิบายให้ฟังว่า การผ่าตัดปลูกถ่ายเนื้อเยื่อใบหน้าใหม่นั้น ทำได้ยากกว่าอวัยวะอื่นๆ เนื่องจากมีเส้นประสาทอยู่ด้วยจำนวนมาก ไม่เหมือนการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายอวัยวะตับหรือไตที่มีเพียงเส้นเลือดเท่านั้น ทำให้ที่ผ่านมามีเพียงผู้ป่วยไม่กี่สิบรายทั่วโลกที่เข้ารับการผ่าตัด และโอกาสสำเร็จมีน้อย เพราะร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันออกมาต่อต้าน ต้องกินยากดภูมิคุ้มกันตลอดชีวิต บางรายทำแล้วไม่สามารถบังคับกล้ามเนื้อให้ยักคิ้วหรือขยับใบหน้าได้ตามที่ต้องการ
                      “กรณีที่แพทย์หรือทีมงานของแพทย์คนใด มาแอบอ้างว่าสามารถทำศัลยกรรมใบหน้าแบบเฟซ ออฟ ลดอายุใบหน้าให้ดูเหลือจาก 60 ปี เหลือ 35 ปี ถือว่าอวดอ้างเกินจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม ตอนนี้กำลังตั้งกรรมการตรวจสอบ ว่าเป็นการทำผิดจริยธรรมวิชาชีพเรื่องห้ามแพทย์โฆษณาหรือไม่ แม้สถานพยาบาลหรือหมอจะไม่รู้เห็นกับการโฆษณาเกินจริงของบุคคลอื่น แต่ถ้ารู้แล้วไม่ได้ทักท้วงถือว่ามีความผิด แต่อาจไม่ถึงขั้นยึดใบอนุญาต อาจเพียงภาคทัณฑ์ ต้องแล้วแต่กรรมการที่จะตัดสินตามข้อมูล”   ที่ผ่านมาประเทศไทยยังไม่เคยมีหมอผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายเนื้อเยื่อใบหน้าแบบหนังเฟซออฟได้ จึงไม่มีกฎหมายห้ามหมอทำ โจรหรือผู้ร้ายที่เปลี่ยนใบหน้านั้น เป็นเพียงการทำศัลยกรรมเหลาคาง ทำตา ทำคิ้วใหม่เท่านั้นเอง เช่น ฆาตกรข่มขืนชาวญี่ปุ่นชื่อดัง นายทัตสึยะ อิชิฮาชิ ที่ตำรวจเคยจับได้เมื่อปี 2009 !
———————
(ผ่าหน้า ‘เฟซออฟ’ ลวงโลก ? : โดย…ทีมข่าวรายงานพิเศษ)

Leave a comment