ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 5 ก.ค. 2559 08:30
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/654907

นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ในเร็วๆนี้จะเชิญผู้ประกอบการตัวแทนส่งออกหรือชิปปิ้งมาหารือ เพื่อช่วยกันกำหนดหลักเกณฑ์และกติกาในการกำกับดูแลผู้ประกอบการชิปปิ้ง เพื่อลดช่องโหว่ในกรณีที่ชิปปิ้งสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าหน้าที่ในการส่งออกหรือนำเข้าสินค้าอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น สำแดงราคาสินค้าต่ำกว่าความเป็นจริง, การสำแดงปริมาณสินค้าน้อยกว่าความเป็นจริง ส่งผลให้รัฐเก็บภาษีได้น้อย และยังทำให้เกิดความเสียเปรียบและได้เปรียบในการแข่งขันด้วย ซึ่งหลังจากหารือแล้ว ก็จะนำร่างหลักเกณฑ์ไปรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่สามารถดำเนินการได้จริง
“อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาพบว่า มีการนำเข้าสินค้าที่ไม่ถูกต้องตามด่านต่างๆ ทั้งทางบนบก บนเรือและอากาศ จะมีชิปปิ้งที่ไม่ดีร่วมมือกับเจ้าหน้าที่กรมศุลฯทุจริตต่อหน้าที่ จึงจำเป็นต้องวางหลักเกณฑ์และกติกาใหม่เพื่อให้ทุกฝ่ายปฏิบัติอย่างถูกต้องและเป็นธรรม ปัจจุบันมีผู้ประกอบการชิปปิ้งราว 2,000 ราย แต่ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตราว 1,200 ราย หรือ 60% ถือเป็นชิปปิ้งที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนที่เหลืออีก 800 ราย เป็นชิปปิ้งที่ไม่มีใบอนุญาต หรือชิปปิ้งเถื่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายเล็กๆ มีทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล”
ด้านนายยรรยง ตั้งจิตต์กุล นายกสมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาอยู่ตรงเจ้าหน้าที่ของกรมศุลฯ ใช้ดุลพินิจที่ไม่ถูกต้อง ทั้งๆที่หลักเกณฑ์และข้อกำหนดได้กำหนดชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่จะทำพิธีการศุลกากรให้กับชิปปิ้งที่มีใบอนุญาตเท่านั้น แต่ในข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ไม่ได้ขอดูใบอนุญาต ซึ่งเป็นเพราะความสนิทสนมระหว่างเจ้าหน้าที่กับชิปปิ้ง ถือเป็นต้นตอของการทุจริตได้
“สมาคมฯมีชิปปิ้งที่เป็นสมาชิกราว 1,200 ราย ซึ่งชิปปิ้งเหล่านี้มีตัวตนและที่ตั้งบริษัทชัดเจน หากทำผิดก็จะมีบทลงโทษ เช่น ขับออกจากการเป็นสมาชิก ทำให้ต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่วนชิปปิ้งที่ไม่มีใบอนุญาตก็อยู่เหนือกติกา เมื่อทำความผิดก็ไม่มีบทลงโทษ ผมเห็นว่า ไม่ใช่แค่เรื่องช่องโหว่ แต่เป็นรูรั่วขนาดใหญ่ของเจ้าหน้าที่ ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ”.