7ก.ค.59 – นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงที่มีข้อเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยกเลิกคำสั่ง 57/2557 เพื่อปลดล็อคพรรคการเมืองให้ทำกิจกรรมได้ว่าส่วนตัวอยากให้มีการยกเลิกโดยเร็วที่สุด เพื่อให้พรรคการเมืองมีจุดเริ่มต้นการปฏิรูปเพราะทุกฝ่ายในสังคมเรียกร้องให้พรรคการการเมืองปฏิรูปตัวเองหากไม่ทำตอนนี้ก็จะมีเวลาจำกัด เพราะเมื่อพรรคการเมืองประชุมแล้วก็ต้องให้กกต.รับรอง ซึ่งต้องใช้เวลามาก หากทำก่อนการเลือกตั้งก็จะไม่ทัน ส่วนกรณีที่บางฝ่ายไม่สามารถแสดงความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนนูญได้นั้น ก็ต้องยอมรับว่า บรรยากาศขณะนี้ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ซึ่งตนเห็นว่า จะต้องรีบสร้างบรรยากาศที่ดีในการแสดงความเห็น แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่า มาตรา61 วรรคสองของพ.ร.บ.ประชามติไม่ขัดรัฐธรรมนูญชั่วคราว แต่บรรยากาศก็ยังไม่ดีขึ้นซึ่งเป็นห่วงเรื่องการตื่นตัวของประชาชนที่จะไปใช้สิทธิน้อยและความเข้าใจเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามถึงการตั้งศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยของรัฐบาลจะทำให้บรรยากาศการเมืองแย่ลงหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิกล่าวว่าก็ต้องขึ้นอยู่กับการทำงานของรัฐบาลแต่ให้ระวังปัญหากระทบกระทั่งกันในเรื่องเล็กๆน้อย เพราะจะกลายเป็นภาพลักษณ์ไปว่าการเมืองไทยยังมีเรื่องแบบนี้อยู่และหากยังเป็นเช่นนี้ตน ก็เป็นห่วงว่าหากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ แต่มีการหยิบยกประเด็นนี้ต่อไปในอนาคตแล้ว ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ประเทศไทยต่อไป ก็ต้องเสียเวลามาเถียงเรื่องรัฐธรรมนูญกัน อีกปัญหาที่ประชาชนส่วนใหญ่สะท้อนมาในเวลานี้คือ เรื่องปัญหาปากท้อง และเรื่องเหล่านี้หากจะเดินได้เรื่องปากท้องต้องชัดเจน

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับแกนนำกปปส.เนื่องจากมีแกนนำกปปส.บางคนมาที่พรรคบ่อยๆ อย่างเช่น นายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำกปปส. เป็นต้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คนที่ไปกปปส.ก็ยังเป็นสมาชิกพรรคเสียส่วนใหญ่ ยกเว้นท่านที่ไปบวชกับนายถาวร ก็ไม่มีอะไรไม่มีการพูดเรื่องตำแหน่ง มีแต่ถามทุกข์สุขกันมีอะไรบ้าง ที่จะช่วยเหลืออะไรกันได้ ภายใต้ข้อจำกัดที่มีอยู่ หลายท่านมีความตั้งใจที่จะหลับมาทำงานการเมืองกันอยู่แล้ว ยกเว้นนายสุเทพ ที่จะไม่กลับมา แต่ทั้งหมดอยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละคน ในเรื่องการทำงานจะไม่เกี่ยวกันไม่ว่าจะเป็นพรรคหรือมูลนิธิฯ และได้บอกว่าถ้าใครสวมหมวก 2 ใบ การแสดงความเห็นต้องระมัดระวังการจะพูดในนามอะไรระวังประชาชนจะสับสน

ส่วนที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศคนที่1 (สปท.) ถูกท้วงติง เรื่องการทำงานจากการเดินสายพบพรรคการเมืองนั้น ส่วนตัวไม่ทราบว่า เกิดอะไรขึ้น และไม่ทราบว่า ภายในสปท. พูดคุยกันอย่างไร แต่ตอนที่มาพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้แสดงความเป็นห่วงถึงเรื่องปฏิรูปที่ไม่คืบหน้า แต่เชื่อว่า คงมีปัญหาภายในสปท.ถึงได้เกิดเหตุการณ์ขึ้น ไม่เช่นนั้นคงไม่เกิดปัญหาขึ้นไม่ทราบลึกๆว่า มันเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ดี นายอภิสิทธิ์ได้อวยพรนายสุเทพให้มีสุขภาพแข็งแรง ในการทำงานตนกับนายสุเทพก็ผูกพันกันมานาน ท่านเป็นคนหนึ่งที่ชักชวนเจ้ามาทำงานทางการเมืองด้วย เพราะฉะนั้นหลายสิบปีแล้วไม่มีอะไรพิเศษ